ขึ้นชื่อว่าหน้าร้อน เป็นช่วงเวลาแห่งงานเทศกาล ช่วงที่ชีวิตมีสีสันช่วงหนึ่งของปี แต่ละประเทศทั่วโลกก็มีการจัดเทศกาลที่น่าสนใจมากมาย อย่างประเทศไทยที่อากาศร้อนมาก ๆ ก็มีเทศกาลดับร้อนอย่างสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทยที่นอกจากจะเป็นการเข้าวัดทำบุญ ขอพรผู้ใหญ่ที่เคารพ ก็มีการสาดน้ำจนเป็นเอกลักษณ์โด่งดังไปทั่วโลก ในประเทศอื่น ๆ เองแม้จะไม่ใช่ทุกที่ที่มีเทศกาลสาดน้ำดับร้อน แต่ก็มี เทศกาลหน้าร้อน ที่น่าสนใจไม่แพ้กันจัดขึ้น MenDetails จึงรวบรวมเทศกาลเหล่านั้นมาให้รู้จักกัน เผื่อในอนาคตใครอยากเดินทางไปร่วมเทศกาลดังกล่าวด้วยตัวเองเป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ของชีวิตครับ
La Tomatina ย้อมเมืองให้เป็นสีแดง ด้วยเทศกาลปามะเขือเทศที่สเปน
ประเทศไทยมีสาดน้ำ ส่วนสเปนนั้นมีปามะเขือเทศครับ เป็นเทศกาลปามะเขือเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ทุก ๆ ปีมีคนไปร่วมงานมากมาย และเราก็เชื่อว่าผู้อ่านของเราไม่มากก็น้อยต้องเคยได้ยินเทศกาลสุดแปลกนี้
เทศกาลนี้เป็นเทศกาลประจำเมือง Buñol เมืองในแคว้น Valencia ของสเปน ที่ผู้เข้าร่วมงานจะมาปามะเขือเทศใส่กันเพื่อความมันล้วน ๆ โดยเทศกาลนี้จะจัดทุกวันพุธสุดท้ายของเดือนสิงหาคม ช่วงเวลาที่อากาศกำลังร้อนอบอ้าว และเป็นช่วง High Season ของสเปน ทำให้มีผู้เข้าร่วมงานไปร่วมสนุกปามะเขือเทศอย่างล้นหลาม
เทศกาลปามะเขือเทศนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 1945 จากการที่วัยรุ่นทำการทะเลาะกันแล้วขว้างปามะเขือเทศจากร้านขายผักใกล้ ๆ ก่อนที่ตำรวจจะมาจบการต่อสู้ดังกล่าว ในปีต่อมาก็มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งมาทำการปามะเขือเทศใส่กันโดยเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าและทุกคนเอามะเขือเทศมาเองจากบ้าน นี่เป็นจุดเริ่มต้นของเทศกาลประจำปีเพราะหลังจากนั้นมีคนทำตามกลุ่มวัยรุ่นนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ในยุค 1950s เทศกาลนี้ถูกสั่งห้ามจากนายพล Francisco Franco เผด็จการทหารที่ปกครองสเปนในช่วงนั้น เพราะไม่มีความสำคัญทางศาสนา ทำให้เกิดการประท้วงจากผู้คนและยังมีคนฝ่าฝืนคำสั่งเล่นปามะเขือเทศใส่กันจนถูกจับ จนในที่สุดการประท้วงก็สำรวจ ชาวเมืองสามารถจัดเทศกาลได้อีกครั้ง และในปี 1957 มันก็ถูกรองรับเป็นเทศกาลอย่างเป็นทางการ และในปี 2002 มันได้รับการยอมรับเป็นหนึ่งในเทศกาลระดับชาติ
เมื่อกาลเวลาผ่านไป มีคนเข้าร่วมมากขึ้น มีการใช้มะเขือเทศมากกว่าแสนกิโลกรัมเพื่อมาขว้างปาใส่กัน สำหรับใครที่กังวลเกี่ยวกับการเอาของกินมาปา เขาจะใช้มะเขือเทศที่ขายไม่ได้มาปาใส่กันครับ และเนื่องจากจำนวนคนที่มากขึ้นทำให้ในปี 2013 เป็นต้นมาผู้เข้าร่วมงานต้องมีการซื้อบัตรล่วงหน้า และในการปามะเขือเทศจะมีกฎในการปาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานไม่ได้รับบาดเจ็บ เช่น ห้ามปาอย่างอื่นนอกจากมะเขือเทศ ก่อนปาให้ขยี้มะเขือเทศก่อน เป็นต้น
การปามะเขือเทศจะใช้เวลาราว ๆ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นผู้ร่วมงานสามารถไปล้างตัวได้จากที่ฉีดน้ำหรือสระน้ำที่เมืองจัดไว้ให้ และยังมีการบอกว่ากรดในมะเขือเทศทำให้พื้นผิวของสิ่งก่อสร้างในเมืองสะอาดขึ้นด้วยหลังทำการเก็บกวาดซากมะเขือเทศแล้ว นี่เป็นหนึ่งในเทศกาลที่หลาย ๆ คนฝันว่าอยากจะเดินทางไปสักครั้งครับ
เทศกาลสาดไวน์ที่เมือง Haro
เทศกาลหน้าร้อน ที่สองของเรายังอยู่ที่สเปนครับ แต่เทศกาลนี้เราจะเดินทางมาทางเหนือที่แคว้น La Rioja ในเมือง Haro เมืองที่อยู่ทางเหนือของแคว้น และมีชื่อเสียงในระดับชาติจากเทศกาลไวน์ โดยกิจกรรมที่โด่งดังที่สุดของเทศกาลนี้ คือ Batalla de Vino หรือแปลเป็นไทยว่า การต่อสู้ด้วยไวน์ เป็นการที่ผู้ร่วมงานจะสาดไวน์ใส่กันอย่างเมามัน และนี่เป็นหนึ่งในเทศกาลระดับชาติที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุด
เทศกาลนี้จัดขึ้นทุกวันที่ 29 มิถุนายน เป็นวัน Saint Peters ที่มาของเทศกาลสาดไวน์นี่ย้อนกลับไปได้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 จากเหตุผลทางศาสนา ก่อนจะผ่านกาลเวลา การเปลี่ยนแปลง จนมาเป็นเทศกาลไวน์ในปัจจุบัน ที่ยังคงมีพิธีทางศาสนาอยู่ก่อนจะเริ่มการสาดไวน์ใส่กันจนผู้ร่วมงานถูกย้อมเป็นสีม่วงของไวน์ เป็นเทศกาลมีคนเข้าร่วมจำนวนมากทุกปี ท่ามกลางอากาศร้อน ผู้คนต่างสาดไวน์ใส่กันไม่ต่างจากสงกรานต์บ้านเรา เป็นความสนุกสนานอย่างมากสำหรับผู้เข้าร่วม และเหมือนกันกับเทศกาลปามะเขือเทศก่อนหน้า ไวน์ที่นำมาสาดกันนี้เป็นไวน์ที่ไม่สามารถบรรจุลงขวดขายได้
นอกจากนี้ แคว้น La Rioja ยังเป็นแคว้นที่มีชื่อเสียงจากไวน์ Rioja อย่างมาก ในงานนี้นอกจากจะได้สาดไวน์อย่างเมามันแล้ว ผู้ร่วมงานยังมีโอกาสได้ลิ้มรสไวน์ชั้นยอดรวมถึงงานเลี้ยงฉลองหลังจากการสาดไวน์จบลงในช่วงเช้า ทั้งอาหาร วงดนตรี ยาวไปจนถึงเช้าของอีกวัน
วิ่งวัวกระทิง เทศกาลสุดระห่ำของคนชอบความท้าทาย
คนสเปนไม่เคยทำให้ผิดหวังในการคิดค้นงานเทศกาลจริง ๆ ครับ และนี่คือเทศกาล San Fermin festival หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ “เทศกาลวิ่งวัวกระทิง” เพราะมีกิจกรรมนี้เป็นพระเอกหลักของงาน
เทศกาลนี้มีต้นกำเนิดหลักมาจากเมือง Pamplona แคว้น Navarre ทางเหนือของสเปน จะจัดตั้งแต่บ่ายของวันที่ 6 กรกฎาคม ถึงเที่ยงคืนของวันที่ 14 กรกฎาคม เนื่องในการเฉลิมฉลองให้กับนักบุญ Fermin ที่มีเรื่องราวย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 3 และมีการจัดเทศกาลเรื่อยมาจนกลายมาเป็นแบบที่เรารู้จักในปัจจุบัน
เทศกาลนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านนิยาย The Sun Also Rises ของ Ernest Hemingway นักเขียนชาวอเมริกันที่มาเยือนงานนี้ในปี 1923 และรู้สึกทึ่งกับมันจนกลับมาร่วมงานอีกหลายครั้ง และน่าจะเรียกได้ว่านี่เป็นเทศกาลของประเทศสเปนที่คนทั่วโลกรู้จักมากที่สุดอีกด้วย
แต่ในงานก็ไม่ได้มีแค่การวิ่งวัวกระทิงที่จัดทุกวันเท่านั้น จะมีพาเหรด การสู้วัวกระทิง โชว์วัฒนธรรมพื้นเมือง ดอกไม้ไฟ และอีกมากมาย แม้ในปัจจุบันจะมีการถกเถียงกันถึงประเพณีสู้และวิ่งวัวกระทิงว่าเป็นอันตรายและยังเป็นการทารุณกรรมสัตว์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่ก็ยังเป็นเทศกาลที่คนทั่วโลกอยากมาเข้าร่วม
เทศกาลโคลนที่เมือง Boryeong ให้คนได้มาเล่นโคลนดับร้อน
จากแดนกระทิงกลับมาดูทางฝั่งเอเชียบ้านเรากันสักนิด แม้ว่าแถบบ้านเราจะมีวัฒนธรรมร่วมในการเล่นน้ำในช่วงหน้าร้อนคล้ายสงกรานต์ แต่เอเชียก็มีเทศกาลอื่น ๆ ในช่วงหน้าร้อนที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ เทศกาลโคลนที่เมือง Boryeong ประเทศเกาหลีใต้ครับ
เทศกาลนี้จัดครั้งแรกในปี 1998 เนื่องจากโคลนบริเวณนี้มีคุณภาพดี นำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่าง ๆ ได้ โดยในเทศกาลนี้จุดประสงค์แรกคือเพื่อประชาสัมพันธ์โคลนของเมืองให้เป็นที่รู้จัก จนมาถึงปัจจุบันเป็นเทศกาลใหญ่ที่มีคนเข้าร่วมนับล้านคน ในเทศกาลก็จะมีกิจกรรมเกี่ยวกับโคลนมากมาย ทั้งบ่อโคลนให้ลงไปเล่น ไปจนถึงการแข่งขัน การแสดงต่าง ๆ อีกด้วย
แข่งขันแบกภรรยาที่ประเทศ Finland
ปิดท้ายด้วยเทศกาลที่อาจจะดูแปลกสักหน่อย แต่สำหรับคนในเมือง Sonkajärvi ประเทศ Finland แล้ว นี่เป็นการแข่งขันที่จริงจังเอาเรื่อง กับการแข่งขันแบกภรรยาชิงแชมป์โลก เป็นการแข่งขันที่ติดหนึ่งในการแข่งขันสุดแปลกบนโลกใบนี้
ถึงจะเรียกว่าการแข่งขันแต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนงานเทศกาลมากกว่า เพราะนอกจากกิจกรรมการแข่งขันแบกภรรยาประเภทต่าง ๆ ให้เข้าร่วมแข่งแล้ว ยังมีการแสดงดนตรีและอาหารอีกมากมาย และถึงจะไม่ได้เข้าร่วม ก็ยังสามารถชมการแข่งขันได้ การแข่งแม้จะมีหลายประเภท แต่หลัก ๆ คือ การแบกผู้หญิงที่เป็นคู่ของตนไว้ไปพร้อม ๆ กับการข้ามสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เข้าเส้นชัยให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ยังมีรางวัลมากมายทั้งคู่ที่มีชุดแต่งกายยอดเยี่ยม คู่ที่สร้างความบันเทิงมากที่สุด นอกเหนือไปจากรางวัลสำหรับผู้ชนะด้วย
ด้วยความแปลกของการแข่งนี้ทำให้มันดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นการสร้างชื่อเสียงให้เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ไปโดยปริยาย แถมประเทศอื่น ๆ ยังมีการนำการแข่งขันแบกภรรยาไปจัดในประเทศของตนอีกด้วย แต่ถ้าจะให้เข้าถึงความเป็นต้นฉบับมากที่สุดก็ต้องไปที่ Finland
และนี่คือ เทศกาลหน้าร้อน ที่น่าสนใจจากทั่วโลก จะเห็นว่าในช่วงอากาศร้อนแบบนี้ มนุษย์เรามักจะหากิจกรรมสนุก ๆ ทำได้หลากหลายจริง ๆ ทั้งเทศกาลที่มีที่มาจากเรื่องของศาสนา ไปจนถึงเทศกาลที่มีที่มาเพื่อความบันเทิงล้วน ๆ แต่ก็เป็นเทศกาลที่น่าสนใจและน่าเดินทางไปเข้าร่วมด้วยตัวเองสักครั้งจริง ๆ ครับ เปลี่ยนจากสาดน้ำสงกรานต์ไปเป็นทำอย่างอื่นบ้าง ก็ได้ความสนุกไปคนละแบบ ขอให้ Enjoy ในช่วงเทศกาลหน้าร้อนนี้นะครับ