หน้าร้อนของญี่ปุ่นแม้จะถูกเปรียบเทียบว่าเป็นช่วงเวลาแห่งสีสัน มิตรภาพ ชีวิตวัยรุ่น ความสดใส และงานเทศกาลต่าง ๆ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งสำหรับคนญี่ปุ่นมันเป็นช่วงเวลาที่อากาศร้อนอบอ้าวไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่นัก เพราะในหน้าร้อนของญี่ปุ่นไม่มีลมทำให้อากาศไม่ถ่ายเท หายใจลำบาก ทำให้เราเห็นข่าวคนญี่ปุ่นเป็นโรคลมแดด กับ โรค Natsubate ที่ทำให้รู้สึกหมดแรงจากอากาศร้อนจนถึงขั้นเสียชีวิตกันทุกปี แต่คนญี่ปุ่นก็ยังมีวิธีคลายร้อนเพื่อรับมือกับอากาศในหน้าร้อนเช่นกัน และหลาย ๆ วิธีมีความน่าสนใจ MenDetails จึงหยิบ วิธี คลายร้อน สไตล์ญี่ปุ่น มาฝากสำหรับหน้าร้อนของประเทศไทยที่กำลังจะมาถึงครับ
อาหารการกินสำหรับหน้าร้อน
คนญี่ปุ่นมีการพัฒนาภูมิปัญญาด้านอาหารการกินเพื่อรับมือกับอากาศร้อนไม่ต่างกับที่ประเทศไทยเรามีเมนูไว้กินในช่วงอากาศร้อนเลยครับ
เมนูที่คนญี่ปุ่นกินดับร้อนนั้น มีตั้งแต่เมนูที่เย็น กินแล้วชื่นใจ อย่าง บะหมี่เย็น น้ำแข็งไส ไอศกรีม ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ไปจนถึงการเอาวัตถุดิบที่หาได้ในฤดูร้อนมาประกอบอาหารที่ให้พลังงานและสามารถดับร้อนจากภายในเพื่อต่อสู้กับการเหนื่อยล้าจากอากาศร้อน เช่น แตงกวา กระเจี๊ยบเขียว ปลาไหล และที่โดดเด่นสุด ๆ ก็คือบ๊วย ที่เมื่อเอาไปดองความเปรี้ยวของมันเมื่อมาผสมกินกับข้าวหรือใส่ในข้าวปั้นก็ช่วยให้ความสดชื่นได้ นอกจากนี้ก็ยังมีผลไม้รสหวานที่เพิ่มความสดชื่นในหน้าร้อนอย่าง แตงโม ส้ม เมลอนอีกด้วย แต่สำหรับคนญี่ปุ่น แตงโมน่าจะเป็นผลไม้ยอดฮิตสุด ๆ เพราะเมื่อเอาไปแช่เย็น ทำให้ได้ทั้งความหวานและความเย็น บางบ้านอาจจะมีการโรยเกลือลงไปอีกนิดเพื่อดึงความหวานให้ออกมามากขึ้นอีก
จุดที่น่าสนใจของอาหารญี่ปุ่นอีกอย่างหนึ่ง คือ ในแต่ละภูมิภาค แต่ละจังหวัดจะมีวิธีการปรุงอาหารที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในท้องถิ่นนั้น ๆ ทำให้แม้อาหารหลาย ๆ อย่างจะมีความคล้าย หรือวัตถุดิบไม่ต่างกันมากนัก แต่รายละเอียดการปรุงมีขั้นตอนที่ต่างกัน ส่งผลให้ได้อาหารที่รสชาติเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ดึงให้ทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวเดินทางไปลิ้มลอง
นอกจากอาหารแล้ว เรื่องของการดื่มน้ำก็สำคัญ เพราะในหน้าร้อนทำให้เราเสียน้ำมาก จึงมีคำแนะนำให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ แต่บางทีแค่น้ำอาจยังไม่พอเพราะอากาศร้อนทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย จะเป็นลม ทำให้คนญี่ปุ่นไม่น้อยเลือกดื่มน้ำเกลือแร่ครับ ส่วนพวกเครื่องดื่มอื่น ๆ กาแฟเย็น และเบียร์ ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แต่ถ้าเครื่องดื่มที่เป็นสัญลักษณ์ประจำหน้าร้อนของญี่ปุ่นที่ถูกใจคนทุกเพศทุกวัยก็ต้องเป็น รามูเนะ เลยครับ เครื่องดื่มผสมโซดาของญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนาน และตัวขวดมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
งานเทศกาลและการท่องเที่ยว
พูดถึงญี่ปุ่นในหน้าร้อน ก็ต้องเป็นช่วงเวลาของงานเทศกาล การท่องเที่ยว และมันเป็นหนึ่งในวิธีการดับร้อนของคนญี่ปุ่นเช่นกัน
เรียกได้ว่าหน้าร้อนเป็นช่วงที่ชายหาดและสวนน้ำของญี่ปุ่นจะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาใช้บริการ ไม่ว่าจะทั้งกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวที่มาทำกิจกรรมทางน้ำดับร้อน ทั้งว่ายน้ำ ดำน้ำ พายเรือ เล่นเซิร์ฟ ซึ่งจังหวัดที่คนนิยมไปอันดับต้น ๆ ก็หนีไม่พ้นโอกินาวะ นอกจากไปทะเลหรือสวนน้ำแล้ว ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ที่เปิดแอร์เย็น ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำหรับคนที่ไม่อยากไปไหนไกล บางคนอาจจะเดินทางไปเที่ยวภูเขาหรือจังหวัดที่อากาศเย็นสบายก็มีเช่นกันครับ ไม่ว่าจะอย่างไหน ในหน้าร้อนคนญี่ปุ่นก็มักจะเที่ยวให้ลืมร้อนกันทั้งสิ้น
นอกจากการท่องเที่ยว ในหน้าร้อนยังเป็นช่วงที่แต่ละจังหวัด แต่ละเมืองมักมีงานเทศกาลพื้นเมือง โดยเฉพาะงานเทศกาลฤดูร้อนที่เราพบเห็นทั้งในภาพยนตร์ การ์ตูนญี่ปุ่น งานใหญ่บ้าง เล็กบ้างแล้วแต่เมือง มีทั้งมาออกร้านแผงลอยขายอาหารและซุ้มเกม ดูดอกไม้ไฟ มีทั้งการเต้นรำพื้นบ้าน ขบวนแห่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ให้ความสนุกสนานและเป็นความทรงจำที่สวยงามจนลืมร้อนกันเลยทีเดียว
ราดน้ำลงพื้น ภูมิปัญญาการลดความร้อนอย่างง่าย
ราดน้ำลงพื้น หรือ อุจิมิซึ (打ち水) เป็นทั้งประเพณีและภูมิปัญญาการคลายร้อนของคนญี่ปุ่นที่ดูเรียบง่ายแต่ได้ผลเป็นอย่างยิ่ง โดยในวันที่อากาศร้อน คนญี่ปุ่นจะตักน้ำรดลงพื้นบริเวณหน้าบ้าน พื้นถนน หรือร้านค้าของตัวเองการทำเช่นนี้เป็นการลดความร้อนที่สะสมอยู่ที่พื้น เมื่อน้ำระเหยยังทำให้อุณหภูมิบริเวณรอบ ๆ ลดลง แถมยังลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นในหน้าร้อนด้วย
อุจิมิซึของคนญี่ปุ่นนี่ไม่ได้เป็นแค่การลดอุณหภูมิในช่วงหน้าร้อนอย่างเดียวนะครับ แต่มันยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และความเชื่อของคนญี่ปุ่นไปแล้วด้วย เพราะความหมายของมันไม่ใช่แค่การลดอุณหภูมิ แต่ในความเชื่อของชินโตมันยังมีความหมายแฝงถึงชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ และแสดงความนอบน้อมต่อผู้มาเยือน ปัจจุบันแม้ความเชื่อและวิถีปฏิบัติดังกล่าวจะพบเห็นได้ยากขึ้นจากความเจริญของเทคโนโลยีและการเข้ามาของเครื่องปรับอากาศ แต่อุจิมิซึ ก็ยังสามารถพบเห็นได้ตามย่านเมืองเก่าโดยเฉพาะเกียวโต ซึ่งคนญี่ปุ่นก็อนุรักษ์วัฒนธรรมนี้ไว้และทำให้มันกลายมาเป็นงานเทศกาลที่น่าสนใจดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกทาง
นอกจากจะพบเห็นได้ตามย่านเมืองเก่าแล้ว ร้านค้าหัวใสหลายร้านก็แอบเอาวิธีนี้มาดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านเช่นกันครับ โดยการส่งพนักงานสาว ๆ น่ารัก หรือหนุ่มหล่อออกมายืนรดน้ำหน้าร้านเพื่อเรียกแขกที่เดินผ่านไปผ่านมาเข้ามานั่งตากแอร์เย็น ๆและสั่งอาหารหรือซื้อของในร้าน
ผลิตภัณฑ์ Body wash สูตรเย็น
นอกจากวิธีต่าง ๆ ที่เรากล่าวมาทั้งหมดแล้ว ยังมีอีกวิธีที่คนญี่ปุ่นหลาย ๆ คนนิยม นั่นคือการใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระผมสูตรเย็น โดยหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นที่นิยม คือ Maro แบรนด์จากญี่ปุ่นที่มีทั้งแชมพูและเจลอาบน้ำ ที่เราคิดว่าเหมาะกับอากาศประเทศไทยอย่างยิ่ง แม้ปกติ Cool series วางขายที่ญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อน แต่ข่าวดีสำหรับประเทศไทยที่อากาศร้อนแทบทั้งปี เราเลยสามารถหาซื้อ Maro สูตรเย็นได้ทั้งปีครับ
Maro ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระผมสูตรเย็นสำหรับอากาศร้อน ที่นอกจากให้ความเย็นสบายเวลาอาบน้ำสระผมแล้ว Maro ยังทำการพัฒนาให้เจลอาบน้ำและแชมพูของตัวเองให้มี innovation ที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นเจลอาบน้ำที่ระงับกลิ่นกายได้ หรือแชมพูที่เซ็ทผมได้โดยไม่ต้องแว็กซ์ ที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ที่ครองใจผู้ใช้ชาวญี่ปุ่นตลอดมา
โดยเจลอาบน้ำที่เหมาะกับการใช้ในหน้าร้อน คือ Maro Body & Face Cleansing Soap Cool สามารถใช้ได้กับทั้งผิวกายและผิวหน้า พร้อมให้ความเย็นสบายและระงับกลิ่นกายแบบ all-in-one ด้วยผสมจากพืช 100% ให้ความอ่อนโยนและเป็นมิตรกับผิว และมี Cyclodextrin เป็นสารระงับกลิ่นกายทำหน้าที่ดูดซับและขจัดต้นตอของกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้สามารถมั่นใจเรื่องกลิ่นกายได้ตลอดทั้งวัน
นอกจากนี้ความเด็ดของ Maro Body & Face Cleansing Soap Cool คือความใส่ใจในรายละเอียดสมกับเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น เพราะเจลอาบน้ำสูตรพิเศษนี้นอกจากให้ความเย็นสดชื่นยังมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดความรู้สึกร้อนด้วย เป็นการนำทฤษฎีการผสมส่วนผสมที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกันมาใช้ โดยการทำให้ผิวอุ่นขึ้นเล็กน้อย จะช่วยชูให้รู้สึกเย็นและสดชื่นยาวนานขึ้น ด้วยหลักการสองสิ่งที่ตรงข้ามกัน แต่ช่วยส่งเสริมกันเหมือนกับที่คนญี่ปุ่นกินแตงโมโรยเกลือที่เราเขียนไว้ตอนแรกเลยครับ
ใช้แชมพูสูตรเย็นให้หนังศีรษะเย็นสบาย
นอกจากผลิตภัณฑ์อาบน้ำสูตรเย็นที่คนญี่ปุ่นนิยมใช้ในหน้าร้อน แชมพูสูตรเย็นที่เมื่อสระแล้วเย็นสบายก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แต่แค่เย็นอย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องมีนวัตกรรมแปลกใหม่ไม่เหมือนใครด้วย ซึ่ง Maro เองก็มีแชมพูสูตรเย็นให้เลือกถึง 2 สูตรด้วยกัน โดยสูตรที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Maro 3D Volume up Shampoo Cool ได้รวม Shampoo, Conditioner และ Styling Base ที่ช่วยบำรุงและทำให้เซ็ทผมได้ทันทีหลังสระ แล้วยังมีโปรตีนที่ช่วยให้ผมแข็งแรง ลดการเกิดผมร่วง เพิ่มวอลลุ่มให้กับผมที่ลีบแบนและเซ็ทอยู่ทรงแบบไม่ร่วง ที่สำคัญคือสระแล้วให้ความเย็นสบาย ทั้งหมดนี้ครบจบในขวดเดียว
ส่วนแชมพูอีกตัว คือ Maro Deo Scalp Shampoo Cool ที่เน้นการทำความสะอาดผมและหนังศีรษะอย่างล้ำลึก ขจัดรังแค ควบคุมความมันและกลิ่น แต่ที่น่าสนใจคือสูตรนี้ยังให้ความชุ่มชื่นแก่เส้นผมและหนังศีรษะ พร้อมทั้งสร้างเกราะปกป้องจากมลพิษ และสภาพแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย บอกเลยว่าทั้ง 2 สูตรเหมาะกับผู้ชายไทยที่ต้องเผชิญอากาศร้อนทั้งปีอย่างยิ่งครับ
นี่ก็เป็นวิธี คลายร้อนสไตล์ญี่ปุ่น ที่เราหยิบมาฝากกัน และในหน้าร้อนของประเทศไทยที่กำลังจะมาถึงนี้ ใครจะลองหยิบวิธีของคนญี่ปุ่นมาใช้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องการรักษาความสะอาดส่วนตัวในช่วงอากาศร้อนที่ไม่ควรละเลย การใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระผมสูตรเย็นจึงช่วยให้ความสดชื่นได้ไม่น้อย และ Maro ก็เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของคุณภาพและการทำความสะอาดร่างกาย พร้อมกับมอบความเย็นสดชื่นหลังใช้ ที่เราอยากแนะนำ
ใครที่สนใจอยากลองใช้สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ได้ที่ เว็บไซต์ของ Maro หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เพจ Facebook ของ Maro ได้เลยนะครับ มีไว้ติดห้องน้ำรับรองว่าหน้าร้อนนี้จะสดชื่นกว่าที่เคยอย่างแน่นอน