หากพูดชื่อของค็อกเทลคลาสสิก หนึ่งในชื่อที่ผู้ชายทุกคนนึกถึง เชื่อว่าจะต้องมีเครื่องดื่มที่ชื่อว่า Negroni (เนโกรนี) อยู่ด้วยอย่างเเน่นอน ค็อกเทลคลาสสิกจากอิตาลี สีเเดงเข้มสดดั่งเลือดนก แก้วนี้ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ผู้ชายหลายคนนิยมดื่มเวลาไปที่บาร์ วันนี้ MenDetails อยากจะเเนะนำให้ทุกท่าน รู้จักกับ Negroni มากขึ้น ว่าต้นกำเนิดของค็อกเทลนี้มีที่มาจากไหน ไปจนถึง วิธีผสม Negroni ที่ง่ายเเสนง่าย สามารถทำเองได้ที่บ้านด้วยครับ
กว่าจะมาเป็น Negroni
Negroni เป็นเครื่องดื่มที่ต้นกำเนิดเเน่นอนของมัน ไม่มีหลักฐานเเน่ชัด มีเรื่องเล่าที่เเตกต่างกันไปหลายเเบบ เเต่เรื่องที่ถูกยอมรับกว้างขวางที่สุด คือ Negroni ถูกผสมขึ้นครั้งเเรกในปี 1919 ในเมือง Florence ประเทศอิตาลี ครับ
ต้องเท้าความก่อนว่า อิตาลี เป็นประเทศหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องของเหล้าลิเคียวที่หมักจากสมุนไพรเเละผลไม้ เเละเหล้าที่ขึ้นชื่อ เป็นของดีในระดับประเทศ คือ Campari เหล้าสมุนไพร ที่มีประวัติย้อนไปตั้งเเต่ปี 1860 เเละมีฐานการผลิตอยู่ที่เมือง Milan กับเหล้า Vermouth จากเมือง Turin ที่กำเนิดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
เเละบรรพบุรุษตั้งต้นของ Negroni ถือกำเนิดขึ้นในปี 1860 ที่ Caffe Camparino (บาร์ของ Gaspare Campari ผู้ให้กำเนิด Campari นี่เเหละครับ) จากการผสมเหล้า Campari กับ Vermouth ในอัตราส่วนที่เท่า ๆ กันลงไป ออกมาเป็น Milano-Torino ที่มาจากการผสมของดีเมือง Milan กับ Turin เข้าด้วยกัน
ต่อมาไม่นาน ก็มีการผสม Milano-Torino ในอีกเวอร์ชั่น คือ ผสมโซดาลงไป เพื่อเพิ่มความซาบซ่าให้กับเครื่องดื่ม จนกระทั่งในยุค 1920s อเมริกาเกิดยุคที่เรียกว่า Prohibition Era ที่ห้ามขายเหล้า ทำให้เกิดบาร์ใต้ดินที่เรียกว่า Speakeasy bar เเละชาวอเมริกันบางส่วนก็เดินทางมาหาเหล้าดื่มที่ยุโรปเเทน ในยุคนั้นเองที่ชาวอิตาเลียนสังเกตว่า ชาวอเมริกันชอบ Milano-Torino ที่ใส่โซดาเหลือเกิน จนเกิดเป็นชื่อเครื่องดื่มใหม่ Americano เป็นการล้อว่านี่คือเครื่องดื่มของชาวอเมริกัน
Negroni การพบกันของ Campari Vermouth เเละ Gin ที่ Florence
ช่วงเวลาคือปี 1919 ในเมือง Florence ในบาร์ที่ชื่อว่า Caffè Casoni (ปัจจุบันชื่อ Giacosa) มีลูกค้าขาประจำเป็นท่านเคาท์ ชื่อว่า Camilo Negroni วันหนึ่ง เขาอยากให้ Americano ของเขา มีรสชาติมากขึ้น เลยสั่งบาร์เทนเดอร์ไป ซึ่งบาร์เทนเดอร์ก็ทำการเปลี่ยนจากโซดาเป็นเหล้า Gin เเทน เเละใส่ Garish เป็นเนื้อส้ม เเทนมะนาว เพื่อให้เกิดความเเตกต่าง ผลคือ มันกลายเป็นเครื่องดื่มประจำตัวท่านเคาท์นับตั้งเเต่วันนั้น
หลังจากนั้น ลูกค้าคนอื่น ๆ ของบาร์ อยากลองเครื่องดื่มพิเศษของท่านเคาท์ดูบ้าง ก็เลยไปถามหาเครื่องดื่มของเคาท์ Negroni จนในที่สุดก็กลายเป็น Negroni ค็อกเทลคลาสสิก รสขมนุ่ม ที่ Campari Vermouth เเละ Gin เดินทางมาบรรจบกัน
หลังจากที่ Negroni ได้รับความนิยม ตระกูล Negroni จึงเปิดโรงกลั่นทำ Negroni เเบบสำเร็จรูปขึ้นมาเอง ในชื่อ Antico Negroni
นั่นเป็นเรื่องราวที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ในเเง่ของประวัติศาสตร์ยังมีการถกเถียงกันอยู่ไม่จบสิ้น บ้างก็ว่า Camilo Negroni ไม่ได้มียศท่านเคาท์ บ้างก็ว่าไม่มีคนชื่อ Camilo Negroni ในตระกูล Negroni สักคนเดียว ไปจนถึงว่า จริง ๆ เเล้วเครื่องดื่มนี้ ถูกคิดค้นโดยนายพลชาวฝรั่งเศส ชื่อ Pascal-Olivier de Negroni ฯลฯ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คงไม่มีทางหาคำตอบที่แท้จริง 100% ได้ เอาเป็นว่าเราเรียนรู้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยพอสนุกสนานก็พอนะครับ
Negroni เครื่องดื่มยอดนิยมของผู้ชายในงาน Pitti Uomo
งาน Pitti Uomo ถือเป็นงานแสดงสินค้าเเฟชั่นสำหรับผู้ชายที่มีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการเเต่งกายเเบบ Sartorial ของผู้ชาย ที่เน้นเสื้อผ้าที่ตัดเย็บอย่างประณีต โดยงานนี้จะจัดขึ้นที่จัดขึ้นที่เมือง Florence บ้านเกิดของ Negroni นั่นเอง และทุก ๆ ปีก็จะมีเหล่าบรรดาบริษัทห้างร้าน ที่ออกบูธเปิดตัวสินค้าใหม่ รวมถึงผู้ที่ไปร่วมชมงาน ที่ต่างคนต่างแต่งกายกันอย่าง “จัดเต็ม” ให้ช่างภาพทั้งหลายรัวชัตเตอร์กันเต็มที่
เเละในงาน Pitti Uomo นี่เอง ที่เครื่องดื่ม Negroni จะเป็นที่นิยมสั่งของเหล่าผู้ชายเเต่งกายดีที่ไปร่วมงาน เรียกว่า “เนโกรนี่” ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า บาร์ต่าง ๆ ทั่วเมือง Florence จะต้องเตรียมตัวเสิร์ฟกันแบบไม่หยุดมือ จนทำให้ Negroni ได้รับภาพพจน์ว่าเป็น “Sartorial Drink” ไปโดยปริยาย เเถมด้วยตัวรสชาติขมนุ่มของมัน บวกกับสีเเดงเลือดนกน่าหลงใหล ช่างเข้ากับผู้ชายในชุดสุดเนี้ยบเสียเหลือเกิน
Negroni week งานประจำปีที่ทั้งได้ดื่มเเละได้บุญ
หลายคนอาจจะไม่รู้ ว่า Negroni นั้น เป็นเครื่องดื่มที่มีการจัดงานของตัวเองเป็นประจำทุกปี ที่เราเรียกกันว่า Negroni week เเละในประเทศไทยก็มีการจัดงานนี้ด้วยเหมือนกัน
Negroni week ไม่ได้เป็นงานที่มีประวัติยาวนานหรือต้นกำเนิดนน่าสนใจอะไร ความจริง มันเป็นงานที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่กี่ปีด้วยซ้ำ เพราะมันเริ่มจัดครั้งเเรกในปี 2013 จากการร่วมมือกันของ Campari บริษัทเหล้าสมุนไพรที่เป็นหนึ่งในต้นกำเนิดของ Negroni กับนิตยสารเหล้าชื่อดัง Imbibe ที่ต้องการจัดกิจกรรมที่ชวนคนมาดื่ม เเละบริจาคเงินไปด้วย
การจัดงานครั้งเเรกเกิดขึ้นในสหรัญอเมริกา บาร์ที่สนใจสามารถลงทะเบียนในเว็บไซต์ของ Campari โดยเสียค่าลงทะเบียน 25 เหรียญสหรัฐฯ เเต่ละบาร์สามารถเลือกได้ว่าจะไปบริจาคให้องค์กรใด สามารถเลือกได้อิสระ ก่อนที่มันจะเเพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ต่อมาหลายบาร์จึงเพิ่มเงินบริจาคเป็นสัดส่วนจากการขาย Negroni ตลอดทั้งสัปดาห์ จากกิจกรรมเล็ก ๆ จึงกลายมาเป็นงานดื่ม Negroni ประจำปีไปในที่สุด
วิธีผสม Negroni เเละเหล่าญาติพี่น้องของมัน เเบบง่ายเเสนง่าย
Negroni เป็นเครื่องดื่มที่มีวิธีในการผสมที่ง่ายมาก เเต่กลับได้เครื่องดื่มสีน่าหลงใหล เเละรสชาติขมนุ่ม เป็นที่โปรดปรานของนักดื่มทั่วโลก เเต่หากเราจะบอกเเค่ วิิธีผสม Negroni ก็อาจจะสั้นไปเสียหน่อย เราเลยอยากเเนะนำวิธีผสม เหล่าญาติพี่น้องของมันด้วย เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
การผสม Negroni นั้น เป็นการผสมเหล้า 3 อย่าง คือ Campari Vermouth เเละ Gin ในอัตราส่วนที่เท่ากัน หากใส่ Campari 1 shot อีก 2 อย่างที่เหลือก็ต้องใส่ 1 shot เหมือนกันด้วย โดยเราจะทำการเทส่วนผสมทั้ง 3 อย่าง ใส่ลงไปในเเก้ว old-fashioned หรือ เเก้ว rocks เเบบ On the rock เเล้วคนทุกอย่างให้เข้ากัน ก่อนตกเเต่งด้วยเปลือกส้ม หรือ เนื้อส้ม เเค่นี้ก็ได้ Negroni สำหรับดื่มสบาย ๆ
หรือหากอยากลองต้นกำเนิดของ Negroni เปลี่ยนเเก้วเป็น Highball หรือ Collins เเล้วเปลี่ยนจาก Gin เป็น โซดา ในสัดส่วนตามชอบ ตามด้วย Lemon twist หรือมะนาว (บางที่ก็จะเป็นใส่เนื้อส้ม กับ Lemon twist) ก็จะได้ Americano ที่ชาวอเมริกันโปรดปราน
หากอยากได้เก่าเเก่ เเละดั้งเดิมกว่านั้น ก็ขอเเนะนำ Milano-Torino จากการผสม Campari เเละ Vermouth ในส่วนที่เท่ากัน ในเเก้ว old-fashioned ตกเเต่งด้วยเปลือกส้ม / เนื้อส้ม หรือไม่มีก็ได้
นอกจากนั้น Negroni ยังมีพี่น้องอีกหลายตัว ที่เกิดจากการเปลี่ยนเเปลงเหล้า Gin เป็นอย่างอื่น เช่น Boulevardier ที่เปลี่ยน Gin เป็น Bourbon, Tegroni ที่ใช้ เตกีล่า เเทน Gin, Old Pal ที่ใช้ เหล้า Rye เเทน Gin เเละ dry vermouth ผสมกับ Campari
นี่คือที่มา เเละ วิธีผสม Negroni เครื่องดื่มอีกชนิดที่ MenDetails อยากให้สุภาพบุรุษได้รู้จักกัน เพื่อที่เวลาไปดื่มครั้งต่อไป จะได้มีตัวเลือกในการสั่งเครื่องดื่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจาก Negroni เเล้ว ก็ยังมีเครื่องดื่ม Old Fashioned ที่เราเคยเเนะนำไปเเล้ว
เหนือสิ่งอื่นใดเวลาดื่ม เราย้ำเสมอว่า ต้องมีไม่ลืมที่จะมีความรับผิดชอบต่อตนเอง เเละคนรอบข้างด้วยนะครับ เพราะการดื่มมากจนเกินไป ก็ไม่ใช่นิสัยที่ผู้ชายอย่างเราพึงกระทำ เเละยังส่งผลเสียด้วยครับ