ถ้าพูดถึงรองเท้า Adidas หลายน่าจะนึกไปถึงรุ่นดัง ๆ ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Superstar, EQT, NMD หรือ Ultra Boost แต่ Adidas ยังมีซีรีส์รองเท้าที่สาวกรองเท้า Sneaker รุ่นเก๋าหลายคนบอกว่าคลาสสิก ในขณะที่บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อมันด้วยซ้ำ นั่นก็คือ Adidas City Series ครับ
ประวัติเรื่องราวความเป็นมาของมันค่อนข้างจะซับซ้อนและหายากสักหน่อย แต่โชคดีที่เว็บ MR Porter ได้รวบรวมข้อมูลออกมาเป็นประวัติความเป็นมาของรองเท้าซีรีส์นี้เอาไว้ ทาง MenDetails จึงขอแปลและเรียบเรียงบางส่วนใหม่ผสมกับการค้นคว้าของเราเอง ออกมาเป็นประวัติศาสตร์ฉบับรวบรัดของรองเท้าซีรีส์นี้ให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ และขอให้เครดิตกับทาง MR Porter เอาไว้ ณ ที่นี้
Adidas City Series คือ
นี่คือซีรีส์รองเท้าของ Adidas ที่หากย้อนไปคงต้องไปตั้งต้นกันในช่วงปลายยุค 1950s จุดเด่นของรองเท้าซีรีส์นี้ คือ การตั้งชื่อรองเท้าแต่ละคู่ตามเมืองใหญ่ ๆ ของยุโรป (ก่อนที่ภายหลังเมื่อมันโด่งดังไปยังอเมริกาช่วงยุค 90s จะมีการเอาเมืองในทวีปอเมริกาเหนือมาใช้)
การออกแบบของรองเท้าซีรีส์นี้จะเหมือนกันตรงที่ ตัวรองเท้าจะมีแถบ 3 สี ตัดกับตัวรองเท้า พร้อมกับมีชื่อเมืองสลักอยู่ จุดที่ทำให้รองเท้าที่มีชื่อของแต่ละเมืองต่างกัน คือ รองเท้าแต่ละคู่มีสีที่ต่างกันไปตามเอกลักษณ์และสีสันของแต่ละเมือง รวมถึง Gimmick เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ Adidas ใส่ไว้ในรองเท้า อย่างตัวหนังรองเท้าที่ต่างกัน หรือ ตัว Sole รองเท้า ที่โดยปกติจะเป็น Gun Sole แต่บางรุ่นจะเป็น Rubber Sole ไปจนถึงลิ้นรองเท้า หรือทรงตรงส้นเท้า ประกอบกับการที่ Adidas เป็นผู้บุกเบิกการทำการตลาดรองเท้าแบบยุคใหม่ คือ ทำให้แต่ละคู่มีเอกลักษณ์ มีความโดดเด่น และมีจำนวนจำกัด ทำให้รองเท้าซีรีส์นี้กลายเป็นหนึ่งในรองเท้าที่นักสะสมจำนวนไม่น้อยอยากได้มาครอบครอง
จุดเริ่มต้นที่ไม่ได้วางแผนทำเป็นซีรีส์
จุดเริ่มต้นของรองเท้าซีรีส์นี้ ย้อนกลับไปช่วงปลายยุค 1950s ที่ Adidas ผลิตรองเท้ากีฬาชื่อรุ่นว่า Rom (หรือ Rome) เป็นรองเท้าสไตล์อิตาเลี่ยนสีขาว คาดด้วยแถบสีฟ้า สำหรับต้อนรับกีฬาโอลิมปิก 1960 ที่ในครั้งนั้นอิตาลีเป็นเจ้าภาพ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นการทำเป็นซีรีส์แต่อย่างใด เพราะในตอนแรกรองเท้าซีรีส์นี้ Adidas ไม่ได้วางแผนที่จะทำแบบอื่น ๆ ออกมาขาย ทำให้ไม่มีความเคลื่อนไหวของซีรีส์นี้มากนัก
จนกระทั่งช่วงปี 1967 / 1968 Adidas เปลี่ยนชื่อรองเท้ารุ่น Jaguar ของตัวเองเป็นชื่อ “Athens” เพื่อต้อนรับโอลิมปิกที่ Mexico และเพื่อเป็นการให้เกียรติประเทศต้นกำเนิดของโอลิมปิก โดยออกแบบเป็นรองเท้าสีฟ้าคาดแถบขาว คล้ายกับธงของกรีซ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มใช้ชื่อเมืองมาตั้งเป็นชื่อรุ่นรองเท้าในเวลาต่อมา เช่น Kingston, Vienna หรือ München 72 ที่ผลิตขึ้นเพื่อต้อนรับโอลิมปิกที่ Munich ในปี 1972 แล้วค่อย ๆ กลายเป็น City Series
แต่ความนิยมของรองเท้าซีรีส์นี้ก็ยังไม่สูงนัก จนกระทั่งช่วงยุค 80s ที่ถือว่าเป็นยุครุ่งโรจน์ของรองเท้าซีรีส์นี้ ด้วยหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น โอลิมปิกที่ Los Angeles สหรัฐอเมริกา ที่ในการแข่งวิ่ง มีนักวิ่งหลายคนสวมรองเท้าของ Adidas ที่ออกแบบมาให้เป็นเอกลักษณ์สัมพันธ์กับสีของเมืองตัวเอง แต่แทนที่ Adias จะสลักชื่อเมืองลงไปบนรองเท้า พวกเขากลับใส่ชื่อของนักวิ่งคนนั้น ๆ ลงไปแทน และในโอลิมปิกปีนั้นนักกีฬาที่ใส่รองเท้าของ Adidas เป็นนักกีฬาที่คว้าเหรียญทองได้มากที่สุด Adidas จึงเอาเรื่องนี้ไปโฆษณา โดยอ้างว่าพวกเขาออกแบบรองเท้าที่มีความโดดเด่นต่างกันออกไปในแต่ละสถานการณ์ ทำให้ยอดขายของรองเท้าซีรีส์นี้เพิ่มขึ้น
แต่จุดที่ทำให้รองเท้านี้ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะบนเกาะอังกฤษ ก็คือ “ฟุตบอล” ครับ โดยเฉพาะวัฒนธรรม Casual ของวงการลูกหนังที่เริ่มขึ้นในช่วงยุค 70s วัฒนธรรมนี้เกี่ยวข้องกับพวก “ฮูลิแกน” แฟนบอลหัวรุนแรงของอังกฤษ ที่มีวัฒนธรรมย่อยเรียกว่า Casual เป็นการใส่เสื้อผ้าจากแบรนด์กีฬาราคาแพง หนึ่งในนั้นคือรองเท้า Adidas ไปชมเกมฟุตบอลทีมของตัวเอง แทนการใส่เสื้อทีม ผ้าพันคอแบบแฟนบอลปกติ ส่วนหนึ่งเพื่อหลบเลี่ยงสายตาของตำรวจ และเลี่ยงการโดนทำร้ายจากเหล่าฮูลิแกนของทีมคู่แข่ง
เดิมรองเท้าซีรีส์นี้มีไม่กี่รุ่นที่วางขายบนเกาะอังกฤษ และมักเป็นรุ่นที่ราคาถูก คนอังกฤษเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องรุ่นรองเท้าอื่นมากนัก เพราะในยุคนั้นการติดต่อสื่อสารยังยากลำบาก พวกเขาจะพบรองเท้าซีรีส์นี้รุ่นอื่น ๆ ที่หายากและมีราคาแพงเมื่อเดินทางไปยังทวีปหลัก เพื่อชมการแข่งขันของทีมรัก (และแน่นอนว่าพวกฮูลิแกนก็ตามไปด้วย และมักจะไปปล้นสินค้าราคาแพงมาใส่) การซื้อรองเท้าซีรีส์นี้กลับมาบนเกาะอังกฤษทำให้สาวกรองเท้าและกีฬาหลายคนรู้ว่ายังมีรองเท้ารุ่นอื่น ๆ ที่หายากอยู่อีกมาก นอกจากนี้มันยังทำให้รุ่น München กลายเป็นรุ่นที่ใครมีถือว่าสุดเท่
ซึ่งรองเท้าเหล่านี้ในปัจจุบันก็ถือเป็นของสะสมที่มีค่า มีราคาไปแล้วสำหรับสาวกรองเท้า Sneaker หรือใครที่ต้องการตามเก็บรุ่นเก่า ๆ
การกำเนิดใหม่ในปัจจุบัน
ปัจจุบันเราแทบไม่เห็น Adidas ปล่อย City Series ออกมามากนัก แต่นั่นไม่ได้แปลว่า Adidas จะเอารองเท้าซีรีส์นี้ใส่กรุแล้วไม่คิดจะกลับมามองมันอีก เพราะความนิยมในตัวรองเท้ายังพอมีอยู่บ้าง โดยเฉพาะช่วงทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 21 ที่แฟนบอลอังกฤษรุ่นใหม่ที่ไม่ทันความนิยมของรองเท้าซีรีส์นี้ช่วงยุค 80s ทำให้ Adidas ผลิตรองเท้าบางรุ่นในซีรีส์ออกมาใหม่
นอกจากผลิตใหม่แล้ว บางรุ่นยังได้รับการตีความใหม่ ในฐานะส่วนหนึ่งของ Spezial series รวมถึงมีการร่วมมือกับร้านค้าเพื่อผลิตรองเท้ารุ่นพิเศษออกมาด้วย ทำให้รองเท้า City series ยังคงไม่หายไปไหน และได้รับความนิยมอยู่ ในฐานะรองเท้าที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ซ่อนอยู่ในความเรียบง่าย และรองเท้าที่มีเรื่องราวยาวนานทำให้สายสะสมหลายคนอยากได้มาครอบครอง
นี่คือเรื่องราวของรองเท้า City series ที่เราทำการแปล ค้นคว้า และเรียบเรียงใหม่มาให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ ขอขอบคุณทางเว็บ MR Porter สำหรับข้อมูลอีกครั้ง และหวังว่าบทความนี้อาจจะทำให้ใครหลายคนรู้จักและเริ่มหันมามองรองเท้าซีรีส์นี้บ้างนะครับ