เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ว่าใคร ๆ ต่างก็อยากกินอาหารอร่อย ๆ ทำให้เนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกับอาหารยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ ทำให้ไม่ว่าจะภาพยนตร์ อนิเมชั่น ซีรีส์ ไปจนถึงนิยาย การ์ตูน ต่างหยิบยกเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกับอาหารมาเล่าใหม่ได้ไม่รู้จบ และทำให้ผู้คนที่เสพสื่อดังกล่าวอยากกินอาหารที่อยู่ในเรื่องราวเหล่านั้น และในวันนี้ MenDetails ก็เลือกหยิบ 8 ซีรีส์อาหาร ที่รับรองว่าจะทำให้ทุกท่านดูไปหิวไป จนอยากจะกินอาหารประเภทต่าง ๆ ที่ปรากฏในเรื่องขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เลยล่ะครับ แต่ละเรื่องจะเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกันเลย
Donburi Iinchou (2020) คุณหนูประธานนักเรียนกับข้าวดงบุริของเธอ
พอพูดถึงซีรีส์ที่เกี่ยวกับอาหาร ประเทศแรกที่เราไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือประเทศญี่ปุ่นครับ ซีรีส์ของญี่ปุ่นที่มีความเกี่ยวข้องกับอาหาร ล้วนมีเสน่ห์และหยิบยกอาหารที่ต่างกันจากทั่วญี่ปุ่นมาเล่าได้อย่างน่าสนใจ และน่ากินไปพร้อม ๆ กัน
Donburi Iinchou เป็นซีรีส์ญี่ปุ่นที่ดัดแปลงมาจากมังงะในชื่อเดียวกัน โดยเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่อาหารประเภท “ข้าวหน้า” หรือ Donburi ของญี่ปุ่นนั่นเองครับ ซึ่งข้าวหน้าแต่ละอย่างที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง มีทั้งข้าวหน้าแบบที่เราน่าจะคุ้นเคยตามร้านอาหารญี่ปุ่น ไปจนถึงข้าวหน้าแปลก ๆ อย่างข้าวหน้าพิซซ่าญี่ปุ่น แต่สามารถทำได้ที่บ้านแบบง่าย ๆ
เนื้อเรื่องเล่าถึง คุณหนูประธานนักเรียน ผู้เพียบพร้อมทุกอย่าง ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างเข้มงวด มาพบกับ โยชิดะ เด็กหนุ่มร่วมห้องผู้ชอบโดดเรียน และพบว่าเขามีความสามารถในการทำ Donburi ขั้นเทพ จนคุณหนูที่ไม่เคยลิ้มรสชาติความเรียบง่ายของอาหารอย่าง Donburi ติดใจ หลังจากนั้นเธอมักจะมาขอให้เขาทำ Donburi หน้าต่าง ๆ ที่เธออยากกินอยู่เสมอ ในแต่ละตอนก็จะมีข้าวหน้าแบบต่าง ๆ ไม่ซ้ำกัน ซึ่งจะมีแทรกวิธีการทำอย่างง่ายให้ด้วย
ซีรีส์มีอาหารเด่นคือ Donburi แต่ก็ยังแฝงเรื่องราวชีวิตในรั้วโรงเรียนมัธยมปลายของญี่ปุ่นเข้ามาด้วย และยังแทรกความโรแมนติก กับคอมเมดี้เข้ามาอีกเล็กน้อย เพื่อเป็นสีสัน โดยเฉพาะส่วนคอมเมดี้ ที่เวลาคุณหนูประธานนักเรียนกิน Donburi แล้วจะเกิดรีแอคชั่นเล่นใหญ่เล่นโต บรรยายความอร่อยของอาหาร แล้วโซ้ยจนเกลี้ยงก็ทั้งขำทั้งน่ารักครับ
Gilded chopsticks (2014) ยอดพ่อครัววังจักรพรรดิ
หลายคนน่าจะรู้จักเรื่องนี้จากประโยคพากย์ไทยสุดติดหูเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่าง “หอมจริง ๆ มันคืออะไร” ไปจนถึงกระแส นมเปรี้ยวทอด ที่ในตอนนั้นมีคนทำตามมากมาย และนี่คือสิ่งที่มาจากซีรีส์ Gilded chopsticks ซีรีส์ฮ่องกงเรื่องนี้ครับ
เรื่องนี้เป็นแนว ดราม่า คอมเมดี้ ย้อนยุค ที่ใช้จีนในปลายสมัยจักรพรรดิคังซี จักรพรรดิองค์ที่ 4 ของ ราชวงศ์ชิง (1661 – 1722) มาเป็นฉากของเรื่อง โดยมีตัวเอกคือ เกาเทียนเป่า คุณชายตกอับจากเมืองหยางโจว ผู้ชื่นชอบการทำอาหารและรักการกินอาหารอร่อยเป็นที่สุด เขาเดินทางมาตั้งหลักใหม่ที่ปักกิ่ง แล้วเปิดร้านขายซาลาเปาเล็ก ๆ ที่เรียกว่า เปาปลาเค็ม ความหอมและรสชาติความอร่อยเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว
วันหนึ่งวันหนึ่งองค์ชายสี่ มาตลาดเพื่อหาซื้อ เปาปลาเค็ม ไปถวายองค์จักรพรรดิ จนมาเจอกับร้านของ เกาเทียนเป่า และเหตุการณ์ทั้งหมดนำไปสู่การที่เกาเทียนเป่า จับพลัดจับผลูได้เข้าไปทำงานเป็นพ่อครัวในวัง แต่การเข้ามาเป็นพ่อครัวในวังก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเขาต้องต่อสู้กับเหล่าพ่อครัวคนอื่น ๆ ที่จ้องจะกลั่นแกล้งเขา ไปจนถึงความวุ่นวายในการชิงบัลลังก์ของเหล่ารัชทายาท
แม้จะมีปมอื่น ๆ ของตัวละครในเรื่อง และความคอมเมดี้จากนิสัยและท่าทางของตัวละคร แต่หัวใจสำคัญคือการทำอาหารก็ไม่ได้หายไป เพราะนอกจากนมเปรี้ยวทอด หรือเปาปลาเค็ม ที่คนไทยจำได้แล้ว ในเรื่องยังมีอาหารอื่น ๆ ที่เกาเทียนเป่า และผองเพื่อน ตั้งใจทำให้ทุกคนในวังได้กินอีก ไม่ว่าจะเป็น ไก่ขอทาน น้ำขิงใส่นม ไปจนถึง แกงกะหรี่ไก่ ชวนให้คนดูน้ำลายสอ
Samurai Gourmet (2017) ความสุขแบบเรียบง่ายจากอาหารของคุณลุงวัยเกษียณ
เพราะอาหารมีเรื่องราวของตัวเอง และผูกพันกับความทรงจำของคนกินอย่างไม่น่าเชื่อ และ ซีรีส์อาหาร เรื่องนี้ จะพาเราไปติดตามชีวิตของคุณลุงวัยเกษียณ ทาเคชิ คาสุมิ กับงานอดิเรกในการตามหาร้านอาหารอร่อย ๆ ที่ในแต่ละเมนูล้วนมีความผูกพันกับเขาไม่ว่าจะเป็นในอดีต หรือปัจจุบันก็ตาม
ซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าความสุขแบบเรียบง่ายของคุณลุงวัยเกษียณ กับท่าทางที่เขาได้กินอาหารอร่อย ๆ พร้อมเรื่องราวของอาหาร เหมือนเป็นการผจญภัยเล็ก ๆ ในแต่ละวัน นอกจากนี้ เขายังมีอีกหนึ่งตัวตนในจินตนาการ คือ ซามูไรไร้นาย ที่เหมือนเป็นตัวตนที่คอยผลักดันให้เขาได้ทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่เขาไม่กล้าทำมาก่อน หรือสะท้อนความไม่พอใจในการกินอาหารแต่ละครั้งของเขา ซามูไรคนดังกล่าวก็จะแสดงมันออกมา
แต่ละตอนของซีรีส์ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน นอกจากแสดงให้เห็นความสุขที่เรียบง่ายของการกินอาหาร อิสระจากการเกษียณ และปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่าง ๆ ที่เขาได้พบเจอในแต่ละตอน อย่างตอนหนึ่ง เขาเดินไปเจอร้านอาหารที่เขาไม่เคยสังเกต เพราะที่ผ่านมาต้องรีบไปทำงาน เขาจึงตัดสินใจเข้าไปนั่งกินอาหารเที่ยงในร้าน แล้วเห็นซามูไรที่เป็นตัวตนในจินตนาการสั่งอาหารมากินพร้อมสาเก เขาจึงสั่งเบียร์มากินพร้อมกับข้าวเที่ยงของเขา โดยรู้สึกถึงความอิสระที่ไม่ต้องเร่งรีบจากการทำงาน เพราะการสั่งเบียร์มากินตอนเที่ยงถือเป็นความพิเศษที่คนทำงานทั่วไปทำไม่ได้
หรือจะเป็นเรื่องราวของเขากับหลานสาว ผ่านการไปนั่งกินยากินิคุ (เนื้อย่างแบบญี่ปุ่น) ก็ใช้เรื่องราวของอาหารเป็นการบอกเล่าความสัมพันธ์ รวมถึงซามูไรที่ออกมาสะท้อนความไม่พอใจของเขาในมารยาทของหลาน และท่าทางการกินของทาเคชิก็เรียกน้ำย่อยของคนดูให้ทำงานได้ไม่ยาก ที่สำคัญ ร้านอาหารที่ปรากฏในซีรีส์ทั้ง 12 ตอน ล้วนเป็นร้านอาหารที่มีอยู่จริงทั้งสิ้นครับ
Let’s Eat (3 Seasons) การเดินทางของชายผู้รักในการกินและผองเพื่อน
คราวนี้เรามาดูทางฝั่งซีรีส์เกาหลีกันบ้าง แม้จะมี ซีรีส์อาหาร หลายเรื่อง แต่หนึ่งในนั้นที่เราคิดว่าน่าสนใจ ทั้งในเรื่องของอาหารและเนื้อหา ไปจนถึงความสัมพันธ์ของตัวละคร ก็ต้องเป็นซีรีส์ Let’s Eat ทั้ง 3 Seasons นี่ล่ะครับ
Let’s Eat ทั้ง 3 Seasons มีตัวเอกเป็นชายหนุ่มอาชีพขายประกันที่เป็นกูรูด้านอาหาร และมีเสน่ห์เหลือล้น ชื่อ กู แทยอง กับเรื่องการพบเจอผองเพื่อนและผู้คนที่ต่างกันในแต่ละ Seasons และได้กินอาหารอร่อย ๆ ร่วมกัน ในแต่ละ Seasons จะทิ้งช่วงเวลาห่างกัน เปลี่ยนสถานที่ และเปลี่ยนเหล่าตัวละครที่จะมาร่วมมื้ออาหารไปกับเขา
ต้องบอกว่าซีรีส์นี้นำเสนออาหารได้น่ากินมาก ๆ ครับ ในแต่ละฉากที่เหล่าตัวละครได้ร่วมโต๊ะกัน จะมีอาหารไม่ซ้ำเมนู นอกจากอาหารเกาหลีแล้ว ยังมีอาหารจากชาติอื่น ๆ โผล่มาให้เราเห็นเป็นระยะ ๆ อีกด้วย เมื่อไปนั่งในร้านอาหาร กู แทยอง ก็จะพูดถึงวิธีการกินที่ถูกต้อง พร้อมกับลงมือกินพร้อมเพื่อน ๆ อย่างเอร็ดอร่อย ชวนให้คนดูหิวไปตาม ๆ กัน ยิ่งมุมกล้องที่ถ่ายทอดออกมา เสียงเคี้ยว ท่าทางมีความสุขเวลากิน ทำให้เรารู้สึกอยากไปนั่งกินตรงนั้นด้วยเลยครับ
นอกจากเรื่องอาหารแล้ว ก็จะมีเรื่องความโรแมนติก ความสัมพันธ์ของกู แทยอง กับนางเอกในแต่ละ Season และยังมีคู่พระ / นาง รองให้ได้ลุ้นกันอีก ส่วนธีมของแต่ละ Seasons ก็ต่างกันไปด้วยครับ อย่าง Season 1 จะพูดถึงคนแปลกหน้าที่มาอาศัยอยู่ด้วยกัน ทำความรู้จักกัน กินอาหารอร่อย ๆ ไปด้วยกัน Season 3 จะพูดถึงอาหารที่เป็นความทรงจำในช่วงวัยรุ่น แต่ไม่ว่า Seasons ไหน อาหารที่อยู่ในเรื่องก็น่ากินทั้งนั้นครับ
Midnight Diner (5 Seasons) ร้านอาหารยามวิกาล ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว
พูดถึงซีรีส์เกี่ยวกับอาหารทั้งที ก็คงจะขาดเรื่องนี้ไปไม่ได้ Midnight Diner ซีรีส์อาหารจากญี่ปุ่น ดัดแปลงมาจากมังงะ Shinya Shokudo (ที่แปลอังกฤษได้ว่า Midnight Diner) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้คนและอาหารมาถึง 5 Seasons ยังไม่นับการถูกนำไปรีเมคฉบับเกาหลี ฮ่องกง และไต้หวันอีก
Midnight Diner เล่าถึงร้านอาหารเล็ก ๆ ชื่อ Meshiya ในเขต Shinjuku กรุง Tokyo ที่เปิดตั้งแต่เที่ยงคืนถึง 7 โมงเช้า ให้ผู้คนที่หิวโหยยามค่ำคืนได้มาฝากท้อง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัทที่เพิ่งเลิกงาน นักเต้นระบำเปลื้องผ้า ยากูซ่า ไปจนถึงผู้คนอีกมากมายที่แวะเวียนมายังร้านอาหารแห่งนี้ด้วยเหตุผลต่าง ๆ
แม้ร้านอาหารจะมีเมนูจำกัด แต่ประโยคเด็ดของเรื่อง และของเจ้าของร้านที่บอกว่า “เมนูมีเท่าที่เห็น แต่ถ้าลูกค้ามีอาหารที่อยากกิน และทำได้ ก็จะทำให้กิน” ทำให้ลูกค้าแต่ละคนที่แวะเวียนมาที่ร้าน ต่างสั่งอาหารที่ตัวเองชอบ อยากกิน หรือมีเรื่องราวที่ผูกกับมัน แต่ละตอนจะมีอาหารเด่นที่ต่างกันไป และในแต่ละตอนจะมีการพูดถึงตัวละครใหม่ที่เป็นตัวเอกของตอนนั้น ๆ กับปัญหาในชีวิตที่ต้องพบเจอ ซีรีส์จะถ่ายทอดเรื่องราวของตัวละครตัวนั้น พูดถึงปรัชญาการดำเนินชีวิต คำแนะนำของเจ้าของร้าน รวมถึงเรื่องราวของอาหารที่ตัวละครนั้นชื่นชอบ และพูดถึงวิธีปรุงอาหารจานนั้น ๆ ด้วย
Midnight Diner จึงเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของผู้คนที่พบเจอได้ในชีวิตประจำวัน และปัญหาที่มนุษย์ต้องพบเจอ ผูกเข้ากับอาหาร กลายเป็นเรื่องราวที่แสนเรียบง่าย แต่สะท้อนมิติของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “มนุษย์”
Steak (R)evolution (2014) สารคดีของสายเนื้อ
เรื่องนี้อาจจะต่างจากเรื่องอื่น ๆ ที่เราพูดถึงไปก่อนหน้าสักนิด พราะ Steak (R)evolution เป็นสารคดีครับ แต่เพราะเป็นสารคดีที่เกี่ยวกับอาหาร เราจึงขอนำมารวมไว้เป็นหนึ่งในแปดซีรีส์อาหารครับ Steak (R)evolution เป็นสารคดีที่ว่าด้วยเรื่องของเนื้อ และสเต๊ก เอาใจคนรักเนื้อเต็มที่ และรับรองว่าดูจบแล้ว ได้ความรู้และอยากกินสเต๊กไปในเวลาเดียวกันครับ
ฟรองค์ ริบิแยร์ ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ชาวฝรั่งเศส ของสารคนี้ จะพาเราเดินทางไปยังประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องของเนื้อและสเต๊ก ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส อิตาลี สวีเดน อเมริกา บราซิล อาร์เจนติน่า และญี่ปุ่น เพื่อพาเราไปดูที่มาของสเต๊กในแต่ละประเทศ ว่ามีรูปแบบธุรกิจเป็นอย่างไร เลี้ยงวัวกันอย่างไร และลงลึกไปถึงเรื่องของประวัติศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ของสเต๊กในประเทศนั้น ๆ ว่าธุรกิจนี้สะท้อนอะไรบ้าง เพื่อให้เราได้เห็นที่มาของเนื้อที่เอามาทำเป็นสเต๊กแบบเจาะลึกว่ากว่าจะมาเป็นเนื้อชั้นเลิศต้องผ่านอะไรบ้าง และปิดท้ายด้วยการไปกินสเต๊กจากร้านอาหารชื่อดังของแต่ละประเทศว่ามีเทคนิคการปรุงอย่างไร และรสชาติเลิศล้ำขนาดไหน
Kantaro: The Sweet Tooth Salaryman (2017) ตามรอยขนมหวานญี่ปุ่น กับชายผู้หลงใหลในขนมหวาน
มีซีรีส์เกี่ยวกับอาหารคาวมามากแล้ว เรื่องที่ 7 ของเราจะเปลี่ยนแนวมาเป็นของหวานบ้าง แต่จะเป็นของหวานแบบญี่ปุ่นนะครับ กับการเดินทางกินขนมหวานตามร้านขึ้นชื่อในโตเกียว ของ อาเมะทานิ คันทาโร่ พนักงานบริษัทหน้าตายที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่เบื้องหลังคือผู้หลงใหลในของหวานชนิดหาตัวจับยาก และยังเป็นผู้เขียนบล็อคแนะนำขนมหวานที่เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ จนบางครั้งก็ทำให้เพื่อนร่วมงานแอบสงสัยในตัวเขา
ซีรีส์เรื่องนี้ ดัดแปลงมาจากมังงะ 2 เล่มจบ ในชื่อเดียวกัน แม้เนื้อหาจะคล้ายกัน แต่ฉบับซีรีส์กับมังงะจะมีจุดที่ต่างกันเล็กน้อย โดยเฉพาะร้านขนมที่อยู่ในเรื่อง ที่ทั้งสองเวอร์ชั่นเอาร้านเด่น ร้านดัง ที่มีอยู่จริง ๆ มาปรากฏตัวในแต่ละตอนครับ และขนมในเรื่องก็เป็นขนมขึ้นชื่อของทางร้านเช่นกัน เพราะร้านในมังงะบางร้าน ตอนที่ถ่ายทำซีรีส์ร้านปิดตัวลงไปแล้ว แต่ไม่ว่าจะฉบับใด ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าขนมในเรื่องล้วนน่ากินทั้งสิ้นครับ
ขนมหวานที่ปรากฏอยู่ในเรื่องส่วนใหญ่ จะเป็นขนมพื้นเมืองของญี่ปุ่นครับ เช่น Anmitsu, Kakigori หรือ Mitsumame นอกจากนั้นยังมีขนมยุโรปอย่างเค้ก หรือพาร์เฟ่ต์ ที่ร้านขนมร้านนั้นเอามาดัดแปลงให้มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น หรือดัดแปลงจนเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองครับ เมื่อคันทาโร่ไปนั่งกินในแต่ละตอน เราจะได้เห็นภาพขนมญี่ปุ่น ที่ทั้งสวย ทั้งน่ากิน คันทาโร่ก็จะอธิบายทั้งเรื่องราวของร้าน เรื่องราวของขนม และวัตถุดิบต่าง ๆ เสร็จสรรพ
เอกลักษณ์อีกอย่างของซีรีส์นี้ นอกจากขนมแล้ว คือ รีแอคชั่นของคันทาโร่ครับ เมื่อเขาได้กินขนมเข้าไปแล้ว ก็จะมีรีแอคชั่นในจินตนาการเกี่ยวกับขนมที่ตลกหลุดโลก แบบที่เราคุ้นตาในอนิเมชั่นเกี่ยวกับอาหารของญี่ปุ่น (แบบเรื่อง Yakitate Japan หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า เจปัง และเรื่อง Shokugeki no soma) เช่น รสชาติของเมล่อนเข้มข้นจนหัวคันทาโร่กลายเป็นเมล่อน หรืออร่อยจนล่องลอยออกไปอวกาศก็มี
Isekai izakaya Nobu (2018) ร้านอิซากายะในต่างโลก
ปิดท้ายรายชื่อซีรีส์อาหาร ด้วยการเปลี่ยนจากซีรีส์คนแสดงมาเป็นอนิเมชั่นญี่ปุ่นกันบ้างครับ แม้ญี่ปุ่นจะมีอนิเมชั่นเกี่ยวกับอาหารเยอะไม่แพ้ซีรีส์คนแสดง แต่เรื่องที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ มีองค์ประกอบความแฟนตาซีนิด ๆ และยังถ่ายทอดเรื่องราวของความอร่อย รวมถึงความรู้สึกของคนเมื่อได้กินอาหารเหล่านั้น ในตอนนี้ที่เราอยากแนะนำ คือ Isekai izakaya Nobu ครับ
อนิเมชั่นเรื่องนี้ ดัดแปลงมาจาก Light Novel หรือนิยายอ่านสบาย ๆ ของญี่ปุ่น ที่มีการดัดแปลงเป็นมังงะอีกที นอกจากนี้ยังมีแบบคนแสดงด้วย แต่เราคิดว่าแบบอนิเมชั่นจะให้ความรู้สึกเหมือนอ่านนิยายกับมังงะมากกว่า
เรื่องราวในอนิเมชั่นเรื่องนี้ พูดถึงร้านอิซากายะ หรือ ร้านเหล้าญี่ปุ่น ที่ประตูหน้าร้านไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอันใด ไปเชื่อมกับโลกต่างมิติ ที่อารยธรรมคล้ายกับยุโรปยุคกลาง แต่ละวันก็จะมีเหล่าลูกค้าเป็นคนจากโลกนั้นเข้ามาลิ้มรสความอร่อยของอาหารญี่ปุ่น ทำให้ชื่อเสียงของร้านโด่งดังจนมีผู้คนเข้ามากินมากมาย พร้อมกับเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละวัน ที่เกิดขึ้นในร้าน เช่น นายทหารผู้เบื่อหน่ายกับการกินมันฝรั่งทุกวันจนมาเจอมันฝรั่งในโอเด้ง, การถกเถียงระหว่างนายทหารกันว่าไก่คาราอาเกะแบบใดที่อร่อยกว่ากัน ไปจนถึงเรื่องใหญ่อย่างการที่เจ้าของร้านทำปลาไหลย่างซอสญี่ปุ่น ให้คนในเมืองที่มองว่าปลาไหลเป็นปลาที่ไม่มีประโยชน์ ไม่อร่อย ได้ลิ้มรส จนคนทั้งเมืองติดใจ
อาหารที่อยู่ในเรื่องแต่ละตอนก็จะไม่ซ้ำกัน แม้ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูญี่ปุ่นที่พบได้ตามร้านอิซากายะทั่วไป ตั้งแต่ เบียร์ สาเก ไก่คาราอาเกะ ไล่จนไปถึงเทมปุระ แต่ก็ยังมีเมนูชาติอื่น ๆ ที่คนญี่ปุ่นเอามาประยุกต์เป็นของตัวเองด้วย อย่าง สปาเก็ตตี้นาโปลิตัน ที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น และในตอนท้ายของแต่ละตอนยังมี Section เล็ก ๆ ที่สอนเราทำอาหารในเรื่องกินที่บ้านแบบง่าย ๆ หรือ พาไปตามหาร้านอาหารในโตเกียวที่มีชื่อเสียงในการทำอาหารเด่นของตอนนั้น ๆ ให้เรารู้จักและไปลองกินด้วยตัวเอง
รับรองว่าทั้ง 8 เรื่องที่เรากล่าวมานี้ จะต้องทำให้ทุกคนดูไปหิวไป และอยากหาอะไรอร่อย ๆ หรืออาหารที่อยู่ในเรื่องมากินได้แน่ ๆ ครับ นอกจากเรื่องอาหารแล้ว ก็ยังสนุกไปกับเรื่องราวของตัวละครในแต่ละเรื่องอีกด้วย แต่หากว่าใครกำลังมองหาหนังที่ดูได้เพลิน ๆ ระหว่างกินอาหาร เราก็ยังมีแนะนำหนังข้ามเวลา ให้ดูได้เพลิน ๆ อีกด้วยนะครับ