ในช่วงที่ จอห์น เมเยอร์ (John Mayer) มือกีตาร์หนุ่มชื่อดังวัย 40 ปี กำลังจะเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ในไทยเป็นครั้งแรกในวันที่ 3 เม.ย. นี้ หนึ่งในศิลปินไม่กี่คนที่สร้างสถิติในการมีอัลบั้มติดอันดับ 1 ของ Billboard’s Top Rock Album Chart ถึง 7 ครั้ง และมีเพลงติดอันดับชาร์ท Hot Rock Songs กว่า 25 เพลง ดังนั้น เราลองมาทำความรู้จักกับ นักร้องเสียงดีและมือกีต้าร์สายบลูส์หน้าตาหล่อเหลาคนนี้กันให้มากขึ้นดีกว่า
จอห์น เมเยอร์ มีชื่อเต็มว่า จอห์น เคลย์ตัน เมเยอร์ (John Clayton Mayer) เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 1977 ที่เมืองบริดจ์พอร์ท เมืองขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐคอนเนคทิคัต ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกา พ่อและแม่ของ จอห์น เป็นครูทั้ง น้อยคนจะรู้ว่าเครื่องดนตรีชิ้นแรกที่เขาเล่นอย่างจริงจังคือ คลาริเน็ต ตอนม.ต้น ก่อนที่ชีวิตของ จอห์น จะพลิกผัน หลังได้ชมฉากโซโล่กีตาร์ของ มาร์ตี้ แม็คฟลาย ในเรื่อง Back to the Future เขาจึงขอยืมกีตาร์จากคุณพ่อ และเริ่มต้นเรียนรู้วิถีทางของมันจากร้านขายกีตาร์แถวบ้าน ช่วงวัยรุ่น จอห์น หลงใหลการเล่นกีตาร์อย่างหนัก แทบจะใช้เวลาตลอดวันกับมัน จนพ่อกับแม่เคยพาไปหาจิตแพทย์เลยทีเดียว
ทั้งนี้ จอห์น เคยเข้าศึกษาที่ Berklee College of Music ซึ่งนอกจากจะมีความสามารถด้านการเล่นกีตาร์แล้ว เขายังแต่งเนื้อร้องและเขียนทำนองเพลงได้ด้วย ส่วนเครื่องดนตรีชนิดอื่นที่ จอห์น เล่นได้คล่องแคล่วไม่แพ้กีตาร์ก็คือ เปียโน ส่วนศิลปินรุ่นพี่ที่เขาชื่นชอบมีทั้ง สตีวี เรย์ วอห์น, จิมมี เฮนดริกซ์, อัลเบิร์ต คิง, อัลเบิร์ต คอลลินส์, เฟรดดี คิง และ บัดดี้ กาย เป็นต้น แต่เมื่อเรียนไปได้ไม่กี่ปี เขาก็ลาออก เดินทางจากบอสตันไปแอตแลนต้าเพื่อตามหาความฝันในการเป็นศิลปินอาชีพ
จอห์น เมเยอร์ เริ่มมีชื่อเสียงขึ้น หลังการออก อัลบั้ม Inside Wants Out ที่เป็น EP กับค่ายเพลงอินดี้ เมื่อเดือนกันยายน ปี 1999 แนวเพลงเป็นสไตล์ อะคูสติกร็อกป็อป และมีกลิ่นอายของเพลงบลูส์ ผสมอยู่ ต่อมาค่าย Columbia Records ได้ทาบทาม จอห์น ไปร่วมงาน โดยในปี 2001 เขาก็มีอัลบั้มเต็มครั้งแรกชื่อ Room for Squares ซึ่งจะประสบความสำเร็จในเรื่องยอดขายเป็นอย่างดี มีเพลงที่ได้รับความนิยมคือ Your Body Is a Wonderland และ Neon
ขณะที่ในปี 2003 Heavier Things อัลบั้มที่สองของเขามีเพลงดังอย่าง Something’s Missing , Only Heart และ Daughters ที่ส่งให้เขาได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำจากหลายเวที ปี 2006 อัลบั้มสามของ จอห์น Continuum กลายมาเป็นหนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีซของเขา นอกจากเพลงฮิตมากมาย อาทิ Waiting on the World to Change , Say และ Gravity เพลง Your Body Is a Wonderland ในอัลบั้มนี้ยังทำให้เขาได้รับรางวัลแกรมมี่อวอร์ดสาขานักร้องชายเพลงป็อปยอดเยี่ยมในปีเดียวกัน และ Battle Studies อัลบั้มที่สี่ในปี 2009 ที่มีเพลง Who Says กับ Half of My Heart ให้เป็นที่พูดถึง
สลับมาดูชีวิตส่วนตัว แน่นอนว่าหน้าตาที่หล่อเหลาบวกกับลุคสะพายกีตาร์บนเวทียิ่งทำให้สาวๆจำนวนมากหลงเสน่ห์ จอห์น เมเยอร์ ทำให้เขามีข่าวพัวพันกับผู้หญิงมากหน้าหลายตาจนได้รับฉายาว่า คาสซาโนว่า โดยสาวๆชื่อดังที่เคยคบหาและมีข่าวกับเขา อาทิ เจสสิก้า ซิมป์สัน, ไมลีย์ ไซรัส, เจนนิเฟอร์ อนิสตัน, เทย์เลอร์ สวิฟต์ , เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ และ เคที เพอร์รี่
ว่ากันว่า เพลง Dear John ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เธอตั้งใจสื่อถึง จอห์น เมเยอร์ ส่วนช่วงปี 2013 เขาก็เคยมีผลงานร่วมกับอดีตแฟนอย่าง เคที เพอร์รี่ กับ เพลง Who You love ด้านสาวที่ จอห์น ตั้งใจแต่งเพลงให้ ว่ากันว่าเป็น เพลง Shadow Days ซิงเกิลในอัลบั้ม Born and Raised ที่เขาน่าจะพูดถึง เจนนิเฟอร์ อนิสตัน เรียกว่าความรักของส่งอิทธิพลมาถึงงานเพลงพอสมควร
แม้ว่าภาพลักษณ์ด้านชีวิตรักของ จอห์น เมเยอร์ จะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หลายต่อหลายครั้งเขาให้สัมภาษณ์อย่างไม่ระมัดระวังคำพูด แต่ในเรื่องของดนตรีเขาคือมือกีตาร์อันดับต้นๆของ ศตวรรษ 21 การรันตีด้วยรางวัลศิลปินชายยอดเยี่ยมจากเวที People’s Choice Awards ในปี 2015 โดยนอกจากจะได้ร่วมเแจมกับ อีริก แคลปตัน , บัดดี้ กาย และศิลปินเพลงบูลส์มากฝีมือบนเวทีต่างๆแล้ว ซีนที่น่าจดจำน่าจะเป็นการโชว์ร่วมกันของ จอห์น เมเยอร์ กับ บีบี คิง ศิลปินผิวสีเจ้าของฉายา ราชาเพลงบลูส์ ที่งาน Guitar Center’s King of the Blues ในปี 2006 ระหว่างการแสดง เขาพูดชื่นชม บีบี คิง ไม่ขาดปาก จนมือกีตาร์รุ่นใหญ่เขิน พร้อมกล่าวว่า ถ้าแกไม่หยุดชม ฉันจะลุกหนีแล้วนะ เรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งงาน จุดนี้แสดงให้เห็นว่า จอห์น ให้การเคารพศิลปินรุ่นพี่มากๆ
หลายคนยกย่องว่า จอห์น เมเยอร์ คือ กีตาร์ฮีโร่ ไม่กี่คนในยุคมิลเลเนียมที่บริษัทผลิตกีตาร์ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก เพราะวัยรุ่นไม่ได้สนใจเครื่องดนตรีอย่าง กีตาร์ อีกต่อไป จากกระแสของวงการเพลงที่แปรเปลี่ยนไปเป็นการฟังเพลงแนว EDM ที่ใช้เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แทน แต่ จอห์น ก็ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาฝีมือและสร้างผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มคนที่ยังคงชื่นชอบการเล่นกีตาร์อยู่
ปี 2012 อัลบั้มที่ห้าคือ Born and Raised เปลี่ยนแนวมาเป็น คันทรีร็อก และ โฟล์กร็อก มากขึ้น มีเพลงที่โดดเด่น Shadow Days , Speak for Me , Something Like Olivia และ Queen of California พร้อมตามมาติดๆกับ Paradise Valley อัลบั้มที่หกในปี 2013 ซึ่งมีเพลงฮิตอย่าง Paper Doll, You’re No One ‘Til Someone Lets You Down และ Who You Love
จนมาถึง The Search for Everything อัลบั้มที่เจ็ดของ จอห์น เมเยอร์ ที่วางแผงในปี 2017 เรียกว่ามือของเขายังไม่ตกเลย โดยอัลบั้มนี้โทนเพลงของเขากลับมาอ่อนหวานโรแมนติก แต่ก็มีจังหวะสนุกเล็กแทรกอยู่ เพลงดังในอัลบั้มนี้มีทั้ง Emoji of a Wave, Rosie, In the Blood, Love on the Weekend และ You’re Gonna Live Forever in Me ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเติบโตทางอารมณ์ของ จอห์น ทำให้ผลงานช่วงหลังของเขาดูนิ่ง และมีเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
John Mayer Asia Tour Live in Bangkok 2019 จึงเป็นโอกาสดีมากๆ ที่คุณจะได้ชมการแสดงจาก จอห์น เมเยอร์ หนึ่งในศิลปินและมือกีตาร์ที่ดีที่สุดในโลก ชายผู้สร้างภาพจำด้วยการปรากฏตัวบนเวทีพร้อมกับกีตาร์คู่ใจ ราวกับมันเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ของตัวเขาเอง