เมื่อพูดถึง Sex เราก็มักนึกถึงกิจกรรมที่คู่รักจะแสดงออกถึงความรักที่มีให้กัน และเพื่อการมีลูกหลานไว้สืบสกุล ทว่าวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ ข้อดี sex ว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ดีและมีคุณภาพอย่างเป็นประจำนั้นมีข้อดีและมีประโยชน์มากกว่าที่กล่าวไปแล้วหลายเท่าเลยทีเดียว
งานวิจัยของมหาวิทยาลัยรัฐฟลอริดาในสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อว่า Quantifying the Sexual Afterglow ได้พูดถึงผลดีของการมีเพศสัมพันธ์ที่มีคุณภาพอย่างเป็นประจำของคู่รัก ว่าจะช่วยทำให้ทั้งสองคนมีความสุขมากขึ้นเป็นเวลาต่อเนื่องยาวนานถึง 48 ชั่วโมงหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์กัน
วิธีการวิจัยก็คือการเก็บข้อมูลจากคู่แต่งงานใหม่จำนวน 418 คู่ โดยฝ่ายชายและหญิงจะแยกกันจดบันทึกและตอบคำถามว่าทั้งคู่ได้มีเพศสัมพันธ์กันในวันนั้นหรือไม่และรู้สึกอย่างไรกับชีวิตคู่และชีวิตรักของตัวเอง ซึ่งผลจากการวิจัยพบว่าในวันใดที่คู่รักแต่ละคู่มีเพศสัมพันธ์กันนั้น พวกเขาจะอารมณ์ดี รวมทั้งมีทัศนคติที่ดีและพอใจกับชีวิตคู่ของตัวเองเพิ่มมากขึ้นยาวนานถึง 48 ชั่วโมง ไม่ว่าในวันต่อมาพวกเขาจะมีเพศสัมพันธ์กันหรือไม่ก็ตาม ซึ่งทางคณะวิจัยเรียกปรากฎการณ์แบบนี้ว่า “Sexual Afterglow”
งานวิจัยไม่ได้จบแค่นั้น เพราะหลังจากเก็บข้อมูลครบ 2 อาทิตย์แล้วนั้น ทีมวิจัยได้กลับไปติดตามผลจากคู่แต่งงานทั้ง 418 คู่ในอีก 2-3 เดือนถัดมา และพบว่าคู่แต่งงานที่มีเพศสัมพันธ์กันอย่างสม่ำเสมอนั้น ยังคงให้คะแนนความพอใจในชีวิตคู่ที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แต่งงานที่มีเพศสัมพันธ์กันน้อยครั้งกว่า และนั่นส่งผลโดยตรงกับสภาพครอบครัวโดยรวมที่ดีกว่า เพราะคู่ที่มีความสุขมากกว่านั้นจะทะเลาะเบาะแว้งกันน้อยลง ความรักใคร่ที่มีอยู่เสมอช่วยลดปัญหาครอบครัวลงได้อย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลให้ลูกของทั้งคู่เติบโตอย่างมีความสุขและมีคุณภาพมากกว่า (บางคู่แต่งงานมีลูกกันก่อนแต่งงานแล้ว)
แม้งานวิจัยนี้จะสรุปว่าการมีเพศสัมพันธ์ หรือ sex กันอย่างเป็นประจำนั้นจะส่งผลดีต่อชีวิตคู่ในระยะยาว แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ sex ที่จะส่งผลดีแบบนั้นได้ต้องเป็น sex ที่มีคุณภาพและเกิดจากความรักความเอาใจใส่ที่ทั้งสองฝ่ายอยากที่จะมอบความสุขให้กันและกันจริง ๆ ไม่ใช่สักแต่ว่าทำให้จบ ๆ แล้วก็แยกกันไป ดังนั้นปริมาณอย่างเดียวไม่ตอบโจทย์แต่ต้องเน้นที่คุณภาพด้วยนะครับ