เวลาออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง สิ่งที่เราต้องเจออยู่เสมอ ก็คือ แสงแดดนี่ล่ะครับ ซึ่งนอกจากความร้อนที่ได้รับแล้ว แสงแดดยังมีอันตรายมากกว่าที่คิด โดนเฉพาะเจ้า แสง UV ที่มาจากแสงแดด โดยทุกคนคงรู้จักคำว่า รังสี UV หรือแสง UV อยู่แล้วว่ามันมาจากดวงอาทิตย์ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วแสงนี้มันคืออะไรและมีอันตรายกับร่างกายเราอย่างไร รวมถึงทำไมเราจึงควรป้องกันเวลาที่จะไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง วันนี้ MenDetails จึงขอมาเขียนให้ทุกท่านรู้จักกับเจ้าแสง UV มากขึ้น
แสง UV คืออะไร?
เรารู้กันอยู่แล้วว่าแสง UV นั้นมาจากดวงอาทิตย์ แต่ถ้าให้ลงลึกกว่านั้นอีกนิดแสงแดดที่เราเห็นนั้นจัดเป็นคลื่นไฟฟ้าชนิดหนึ่ง และในคลื่นไฟฟ้านั้นประกอบไปด้วยรังสีต่าง ๆ ที่ต่างกันไปตามความยาวคลื่น มีทั้งอินฟราเรด แสงขาว และ UV (Ultraviolet) โดยแสง UV เป็นคลื่นที่มีความยาวสั้นมาก อยู่ที่ 10 – 400 นาโนเมตร เป็นความยาวที่สั้นกว่าแสงขาวที่ตามนุษย์เรามองเห็น ทำให้เรามองไม่เห็นแสง UV ในธรรมชาติ แต่ยาวกว่ารังสี X (X-ray) และรังสี UV ยังเป็นรังสีที่มีเปอร์เซ็นต์น้อยที่สุดในบรรดารังสีจากดวงอาทิตย์ที่ส่งมายังโลก แถมส่วนใหญ่ยังถูกชั้นโอโซนของโลกกรองไว้หมด ก็คงจะไม่ผิดนักหากจะบอกว่าเพราะมีชั้นบรรยากาศที่กรองแสง UV นี่แหละ สิ่งมีชีวิตถึงอาศัยอยู่บนโลกได้
รังสี UV ยังแบ่งย่อย ๆ อีกได้เป็น 3 ประเภท คือ UVA หรือ Soft UV ที่มีความยาวคลื่นมากที่สุด โดยปกติจะไม่ถูกดูดซับจากชั้นบรรยากาศ สามารถผ่านลงไปในชั้นผิวหนังเราได้ UVB มีความยาวคลื่นในช่วงกลาง ส่วนใหญ่ชั้นบรรยากาศโลกจะดูดซับไว้ มีพลังงานที่สูงกว่า UVA สามารถส่งผลร้ายในระดับ DNA หากได้รับเป็นเวลานาน และ UVC หรือ Hard UV มีความยาวคลื่นสั้นที่สุดในบรรดารังสี UV ในขณะเดียวกันก็อันตรายที่สุดด้วย โดยปกติแล้วรังสี UVC จะไม่สามารถเดินทางมาถึงพื้นโลกได้เพราะชั้นบรรยากาศโลกจะดูดซับเอาไว้ก่อน
ปริมาณของแสง UV ที่เดินทางมาถึงพื้นโลกในแต่ละภูมิภาค ช่วงเวลา และฤดูกาลจะมีความแตกต่างกันไป รวมถึงการสะท้อนกับวัตถุก็มีส่วนเพิ่มปริมาณรังสี UV เข้าร่างกาย เช่น ถ้าแสงแดดสะท้อนหิมะ มันจะสะท้อนรังสี UV 60 – 80% หรือ หาดทรายที่สะท้อนรังสีได้ 15% กับน้ำทะเลอีก 5% ใครไปเที่ยวทะเลหน้าร้อนนี่ต้องระวังดี ๆ เลย และเป็นเหตุผลว่าทำไมเราควรใส่แว่นกันแดดเพราะรังสี UV ก็ทำลายดวงตาเราได้เช่นกัน
แม้การรับแสง UV ในปริมาณมาก หรือได้รับติดต่อกันเป็นเวลานานจะเป็นผลเสีย แต่แสง UV ก็มีประโยชน์เช่นกัน อย่าง แสง UVB หากได้รับในปริมาณที่ไม่เข้มข้นมาก จะกระตุ้นการสร้างวิตามิน D ในสิ่งมีชีวิต รวมถึงปัจจุบันที่มนุษย์มีการนำรังสี UV มาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมด้านอื่น ๆ อีกมากมาย
อันตรายจากการได้รับรังสี UV มากเกินไป
ในปัจจุบันที่มนุษย์ทำลายชั้นบรรยากาศโลก ทำให้ชั้นโอโซนที่คอยกรองแสง UV เป็นรูโหว่ รังสี UV จึงส่องลงมาที่โลกมากขึ้น โอกาสที่เราจะได้รับอันตรายจากรังสี UV ก็มากขึ้นเช่นกัน อย่างในช่วงหน้าหนาวที่ท้องฟ้าเปิด แม้อากาศจะเย็นสบาย หรือใครไปเที่ยวเมืองหนาวเจอหิมะ อากาศเย็นจัด แต่แดดออก หลายคนคิดว่ามันไม่ร้อนอาจจะใส่เสื้อผ้าไม่หนา แต่จริง ๆ แล้วเราโดนรังสี UV เข้าไปต็ม ๆ
อันตรายจากการโดนรังสี UV มาก หรือนานเกินไปมีตั้งแต่อันตรายที่ไม่ถึงชีวิต อย่างผลกระทบต่อผิวหนัง ทำให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมสภาพอย่างช้า ๆ ขาดความชุ่มชิ้น เกิดรอยเหี่ยวย่น รวมถึงมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังเพิ่มมากขึ้น และถ้านับรวมแล้ว การที่เราอาบแดดแล้วผิวเกรียม ผิวทนก็เป็นผลกระทบต่อผิวหนังจากรังสี UV เช่นกัน แต่เป็นผลกระทบที่ไม่อันตรายนัก แต่ถ้าอาบแดดนานเกิดไปจะทำให้ผิวไหม้ แสบร้อนและคัน ผิวลอก หากได้รับมากเกิดไปอาจทำให้ผิวหนังพุพอง
ในอาการที่อันตรายที่สุด การได้รับรังสี UVB และ UVC (ที่ลงมาพื้นโลกจากช่องโหว่ของชั้นบรรยากาศ หรือได้รับจากอุปกรณ์การแพทย์) เป็นเวลานานอาจส่งผลในระดับ DNA อันตรายถึงชีวิต ทำให้เกิดมะเร็ง เซลล์เม็ดเลือดขาวได้รับความเสียหาย ทำให้ภูมิคุ้นกันอ่อนแอ
อันตรายจากการได้รับรังสี UV มากเกินไป แม้ไม่ได้ส่งผลทันที แต่ในการใช้ชีวิตเราก็ต้องออกกลางแจ้งอย่างเลี่ยงไม่ได้ มันก็จะค่อย ๆ สะสมจนส่งผลร้ายเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้นเวลาเราต้องออกกลางแจ้งก็ควรหาวิธีป้องกันครับ
วิธีป้องกัน UV อย่างง่าย
เมื่อการได้รับ UV มากเกินไปส่งผลเสียต่อร่างกาย เราจึงควรหาวิธีป้องกันเวลาต้องออกกลางแจ้งครับ แม้อากาศจะไม่ร้อนก็ต้องไม่ประมาทครับ
วิธีป้องกันแรกที่หลายคนนึกถึงคงจะเป็นการทาครีมกันแดด แต่เมื่อมองดูชีวิตจริงหลายคนอาจไม่ได้อยากทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้าน จึงมีวิธีอื่น ๆ อย่างเช่น การใช้ร่มเวลาที่ต้องออกกลางแจ้งแดดจัด ๆ หรือแม้กระทั่งการเลี่ยงไม่ออกที่แจ้ง การใช้ครีมบำรุงผิวอื่น ๆ ที่ให้ผิวชุ่มชื่น และการป้องกันรังสี UV เข้าตาด้วยแว่นกันแดด
แต่วิธีที่เราคิดว่าง่ายและใคร ๆ ก็สามารถทำได้ในเบื้องต้น คือ การใส่เสื้อผ้าเพื่อกันแดด อย่างพวกเสื้อแขนยาวเพื่อไม่ให้ผิวของเราโดนแดดโดยตรง แต่แค่เสื้อแขนยาวอาจยังไม่พอเพราะแสง UV สามารถทะลุเสื้อผ้าได้ จึงควรใส่เสื้อที่มี UV Protection ครับ เสื้อแบบนี้จะมีการรับรองจาก Skin Cancer Foundation เป็นรหัส UPF ซึ่งตัวเลขขั้นต่ำคือ UPF 15 ก็สามารถกันรังสี UV ได้มากกว่า 90% แล้ว
หากใครที่กำลังมองหาเสื้อที่มี UV Protection สามารถกันรังสี UV ได้สูง และสวมใส่สบาย หาซื้อได้ง่าย ทาง Uniqlo ก็มีเสื้อ UV Protection ที่สวมใส่สบายทั้งผู้ชายผู้หญิง มีหลากหลายสีสันให้เลือก เป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจครับ สำหรับคนที่อยากหาวิธีป้องกันแสง UV เวลาออกกลางแจ้งแบบง่าย ๆ มีค่า UPF สูงถึงระดับ 40+ เลยทีเดียว
พอรู้อย่างนี้แล้ว เวลาออกกลางแจ้งครั้งต่อไป แม้อากาศอาจจะดูเย็นสบาย แต่ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีรังสี UV นะครับ การหาอะไรมาป้องกันเอาไว้ก่อนย่อมดีกว่าครับ และจะยิ่งดีถ้าของนั้น ๆ สามารถกันรังสี UV ได้ในปริมาณที่สูง เพื่อให้ผิวหนังของเราปลอดภัยจากอันตรายที่อยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด