MenDetails
  • Home
  • Style
  • Women
  • Life
  • Gadgets
  • Money
  • Video
  • Contact Us
  • User Agreement
  • Advertising
Facebook
Twitter
Instagram
YouTube
MenDetails
MenDetails
  • Home
  • Style
  • Women
  • Life
  • Gadgets
  • Money
  • Video
  • Contact Us
  • Advertising

MDs’ LIFE | รู้จัก แก๊สน้ำตา อาวุธที่มีความเป็นมายาวนาน จากสงครามโลกครั้งที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

Total
15
Shares
15
0
0

ถ้าพูดถึง แก๊สน้ำตา หลายคนน่าจะนึกถึงฉากในภาพยนตร์แอคชั่น / สงคราม ๆ ต่าง ที่มีการใช้อาวุธสู้กัน หรือที่ใช้กันในหน่วยปฏิบัตการพิเศษที่เราอาจจะได้เห็นภาพจากข่าวต่างประเทศ ไปจนถึงในเกม

เรารู้จักแก๊สน้ำตาว่ามันทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่รู้ไหมว่า อาวุธชนิดนี้ มีความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี โดยย้อนกลับไปได้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และทุกท่านเคยสงสัยกันไหมว่าเจ้าแก๊สน้ำตาที่เราเห็นใช้กันอยู่ในปัจจุบัน มีส่วนประกอบของอะไร ถ้าโดนแล้วจะทำให้แค่น้ำตาไหลจริงหรือไม่ และถ้าหากเราโดนแก๊สน้ำตาจริง ๆ จะมีวิธีป้องกันอย่างไร

วันนี้ MenDetails ขอพาทุกท่าน รู้จักกับอาวุธชนิดนี้ให้มากขึ้นครับ ถ้าพร้อมแล้วไปรู้จักกันมันไปพร้อมกันครับ


แก๊สน้ำตา อาวุธจากสงครามโลกครั้งที่ 1

แก๊สน้ำตา หนึ่งในอาวุธเคมีที่ถูกใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1

แก๊สน้ำตา มีการบันทึกการใช้งานครั้งแรกที่ไม่แน่ชัดนัก ว่าถูกใช้ที่ไหนเป็นครั้งแรก และใครเป็นคนคิดค้นคนแรก แต่นักประวัติศาสตร์และนักวิชาการ ต่างลงความเห็นกันว่า มันถูกใช้เป็นครั้งแรกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1

สิ่งที่เป็นต้นกำเนิดของแก๊สน้ำตาที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ถูกใช้โดยกองทัพฝรั่งเศส ในเดือนสิงหาคม 1914 ในช่วงการปะทะกันที่เราเรียกว่า Battle of the Frontiers เป็นการต่อสู้ของฝรั่งเศสกับเยอรมนี ที่นี่เองที่เชื่อกันว่า แก๊สน้ำตาถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรก โดยปาเป็นลูกระเบิดเข้าไปทางฝรั่งเยอรมนี

มีนักวิจัย นักวิชาการหลายคน เชื่อว่าฝรั่งเศสมีการทดลองพัฒนาแก๊สน้ำตาก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เพื่อหาวิธีใหม่ ๆ ในการควบคุมฝูงชน แต่ได้มาใช้งานจริงในสงครามโลกครั้งที่ 1

แก๊สน้ำตาที่ถูกใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น เป็นฉบับที่มีความรุนแรงสูงมาก มีอันตรายถึงชีวิต ทำให้เกิดการแสบไหม้ดวงตา ผิวหนัง สำลัก ผิวหนังแตก และทำให้เสียชีวิตได้

เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง จึงมีการนำอาวุธชนิดนี้มาใช้สำหรับตำรวจและทหารมากขึ้น โดยประเทศอย่างสหรัฐอเมริกามีการทำให้แก๊สน้ำตาถูกกฏหมาย แล้วค่อย ๆ พัฒนามาเป็นแก๊สน้ำตาที่เรารู้จักในปัจจุบัน ที่ถูกลดความรุนแรงลงแล้ว

สำหรับในประเทศไทย มีบันทึกว่าแก๊สน้ำตาถูกนำเข้ามาก่อนช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครองวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ครับ

แก๊สน้ำตาถือเป็นอาวุธที่ไม่ถึงชีวิต และเป็นอาวุธขั้นต้นในการใช้ควบคุมฝูงชน หรือ ปราบจราจล แต่มันก็ยังส่งผลกระทบทั้งในระยะสั้นและยาวต่อคนที่ถูกแก๊สน้ำตา ในขณะเดียวกันภายใต้อนุสัญญาเจนิวา แก๊สน้ำตานับเป็นสารเคมีที่ใช้ในสงคราม และถูกขัดขวางไม่ให้ใช้ในสงครามด้วยเช่นกัน การนำมาใช้กับประชาชนจึงเป็นที่ถกเถียงกันถึงความเหมาะสม เพราะสถานการณ์ที่สามารถใช้ได้นั้น ต้องเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้แล้วจริง ๆ


ประเภทของแก๊สน้ำตา

ถ้าจะพูดให้ถูกต้อง แก๊สน้ำตาไม่ใช่แก๊ส แต่เป็นของแข็งหรือของเหลวที่กลายเป็นละอองของเหลว และมีสารเคมีบางประเภทผสมอยู่ที่ถือเป็นแก๊สน้ำตา

แก๊สน้ำตามีมากมายหลายประเภท แบ่งตามส่วนประกอบทางเคมีของแก๊ส โดยประเภทของแก๊สที่ใช้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มีทั้ง OC gas, PAVA, CS gas, CN gas, Bromoacetone หรือ Xylyl bromide เป็นต้น แก๊สแต่ละชนิดจะมีความอันตรายไม่เท่ากัน

แก๊สน้ำตา แบบ CS

ในปัจจุบัน แก๊สน้ำตาที่นิยมใช้ มีอยู่ 2 ประเภท คือ OC gas กับ CS gas ครับ

OC ย่อมาจาก Oleoresin Capsicum หรือที่เราน่าจะรู้จักกันในชื่อ สเปรย์พริกไทย ซึ่งมีสาร Capsaicin เป็นสารที่ให้ความเผ็ดในพริก เป็นสารจากธรรมชาติที่ทำให้ฉุนหรือแสบ

ขณะที่ CS gas นั้น มาจากสารเคมีชื่อ 2-chlorobenzalmalononitrile ส่งผลต่อประสาทสัมผัสในร่างกาย ทำให้ผิวหนังเกิดการปวดแสบปวดร้อน ไอ สำลัก น้ำตาไหล จาม หายใจไม่ออก

ส่วนประเภทที่เลิกใช้ไปแล้ว เช่น CN gas เพราะมีสารเคมีอันตรายถึงชีวิตครับ


ผลกระทบจากการโดนแก๊สน้ำตา

หากโดนแก๊สน้ำตาเข้าไป จะเกิดผลอะไรบ้าง ในที่นี้จะขอพูดถึงแก๊สประเภท CS gas เป็นหลักนะครับ

การโดนแก๊สน้ำตา สามารถส่งผลได้ทั้งในระยะสั้นและยาว โดยแก๊สน้ำตาจะส่งผลต่อ ตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจเป็นหลัก อาการฉับพลันหลังจากสัมผัสกับแก๊ส คือ แสบจมูก มีน้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ส่วนผิวหนังจะรู้สึกแสบ ปวมแดง หากเข้าปาก จะแสบปาก น่ำลายไหล อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน และหากเข้าตา ทำให้น้ำตาไหล แสบตา ลืมตาไม่ขึ้น อาจทำให้ตาบอดชั่วคราวได้

ส่วนอาการระยะยาว หรือได้รับในปริมาณที่มาก อาจมีการอักเสบจากการแพ้ทำให้เกิดผื่นคัน หรือผิวหนังเหมือนถูกไฟไหม้ รวมถึงอาจทำให้ตาบอกถาวร

แก๊สน้ำตาแบบ CS gas เมื่อสัมผัสจะออกฤทธิ์ทันที และคงอยู่นานได้ถึง 30 นาที แม้จะออกจากบริเวณที่มีแก๊สน้ำตาแล้ว แต่ในบางรายอาหารสามารถอยู่ได้นานหลายวัน หากได้รับในปริมาณมาก หรือบริเวณที่ไม่มีการถ่ายเทของอากาศ จะทำให้ผลของมันรุนแรงยิ่งขึ้น


การป้องกันและปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากโดน แก๊สน้ำตา

ในเมื่อเรารู้ผลของมันต่อร่างกายแล้ว แต่ถ้าหากเราโดนแก๊สน้ำตา หรือเห็นคนที่โดนแก๊สน้ำตา เราจะมีวิธีการปฐมพยาบาล หรือป้องกันตัวเองได้อย่างไรบ้าง นี่คือสิ่งที่แนะนำครับ

ในเบื้องต้น หากเราต้องเข้าไปในบริเวณที่มีแก๊สน้ำตา หรือจะมีการใช้แก๊สน้ำตา เราสามารถพกหน้ากากกันแก๊สไปได้ หรือการใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก รวมไปถึงแว่นตาว่ายน้ำก็สามารถใช้กันละอองของแก๊สได้

การสวมเสื้อผ้าแขนยาว กางเกงขายาว ก็ช่วยลดโอกาสที่แก๊สจะสัมผัสกับผิวหนังได้โดยตรง ดังนั้นไม่ควรใส่เสื้อแขนสั้น หรือกางเกงขาสั้น หากรู้ว่าจะมีการใช้แก๊สน้ำตา และเมื่อรู้ว่ามีการใช้แก๊สน้ำตาเกิดขึ้น ให้รีบออกมาจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด 

น้ำเปล่า สามารถล้าง แก๊สน้ำตา ได้ส่วนหนึ่ง

หากสัมผัสกับแก๊สน้ำตาเข้าไปแล้ว วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อออกจากบริเวณที่มีการใช้ หากผิวหนังหรือดวงตาถูกแก๊สน้ำตา ให้เอาน้ำเปล่าล้าง จะสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ จนกว่าผลของแก๊สจะค่อย ๆ บรรเทาลง

ส่วนของเสื้อผ้านั้น ห้ามสัมผัส หรือปัดเด็ดขาด เพราะแก๊สที่ตกค้างอยู่บนเสื้อผ้า จะกระจาย หรือติดมือ เมื่อไปสัมผัสกับร่างหายจะเกิดอาการแสบขึ้นอีกครั้ง เมื่อกลับถึงบ้านควรทำการซักล้างทันที และควรซักล้างแยกจากเสื้อผ้าปกติ

เมื่อกลับถึงบ้าน เราก็ควรอาบน้ำให้สะอาดด้วยเช่นกัน เพื่อชะล้างสารตกค้างทั้งหลาย และคอบสังเกตอาการ หากมีอาการแพ้รุนแรง ควรไปพบแพทย์ทันที


และนี่คือเรื่องราวของ แก๊วน้ำตา อาวุธที่มีความเป็นมายาวนาน และไม่ได้ทำให้แค่น้ำตาไหลเท่านั้น แต่มีความรุนแรงมากกว่าชื่อของมันมากนัก และยังเป็นอาวุธที่มีการถกเถียงกันว่าไม่ควรนำมาใช้กับประชาชนเด็ดขาด

เราหวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์กับทุกท่าน เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า ในอนาคต เราอาจจะได้สัมผัสกับแก๊สน้ำตาหรือไม่ แต่การรู้ไว้เพื่อรับมือ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ เพราะการกันไว้ ย่อมดีกว่าแก้

Total
15
Shares
Share 15
Tweet 0
Share 0
Related Topics
  • tear gas
  • ประวัติแก๊สน้ำตา
  • ผลกระทบแก๊สน้ำตา
  • วิธีป้องกันแก๊สน้ำตา
  • แก๊สน้ำตา
Previous Article

MDs’ WATCH | Snoopy มีเอี่ยวอะไรกับ OMEGA ? ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ของมหามิตรต่างวงการ ที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เราเคยคิด

View Post
Next Article

MDs’ MONEY | รายได้ 200,000 บาท กับผลวิจัยที่อยากตอบคำถามว่า เงินซื้อความสุขได้ไหม ?

View Post
You May Also Like
View Post

MDs’ STYLE | แบรนด์ Anderson & Sheppard หนึ่งในห้องเสื้อที่โด่งดังที่สุดในย่าน Savile Row

View Post

MDs’ INTERVIEW | Still working! วลีติดปากของ คุณ Kikuo Ibe กว่าจะมาเป็น G-SHOCK กับการทดสอบความทนทานเกือบ 200 รายการ

View Post

MDs’ LIFE | 5 นิสัยเสีย ที่จริง ๆ แล้วอาจไม่ได้แย่ และดีกับเรามากกว่าที่คิด

หนัง LGBTQ+
View Post

MDs’ LIFE | ฉลองเดือน Pride Month กับ 5 หนัง LGBTQ+ ที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางเพศอันสวยงาม

View Post

MDs’ LIFE | ชวนมารู้จัก New York City Cocktail เครื่องดื่มที่ถูกตั้งชื่อตามเขตทั้ง 5 ของ NYC

View Post

MDs’ LIFE | ประโยชน์ของการ นอนกลางวัน การงีบสั้น ๆ ให้พร้อมลุยกับกิจกรรมช่วงบ่ายได้ดีขึ้น

View Post

MDs’ LIFE | รู้จัก Apéritif กับ Digestif เครื่องดื่มก่อน – หลังอาหารในวัฒนธรรมการกินของยุโรป

View Post

MDs’ STYLE | แนะนำ 3 ชุด แต่งตัวไปงานแต่งงาน กับงานที่จัดในโรงแรม หรือ Formal Venue

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Featured
  • MDs’ STYLE | แบรนด์ Anderson & Sheppard หนึ่งในห้องเสื้อที่โด่งดังที่สุดในย่าน Savile Row

    View Post
  • MDs’ INTERVIEW | Still working! วลีติดปากของ คุณ Kikuo Ibe กว่าจะมาเป็น G-SHOCK กับการทดสอบความทนทานเกือบ 200 รายการ

    View Post
  • MDs’ LIFE | 5 นิสัยเสีย ที่จริง ๆ แล้วอาจไม่ได้แย่ และดีกับเรามากกว่าที่คิด

    View Post
  • หนัง LGBTQ+

    MDs’ LIFE | ฉลองเดือน Pride Month กับ 5 หนัง LGBTQ+ ที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางเพศอันสวยงาม

    View Post
  • MDs’ LIFE | ชวนมารู้จัก New York City Cocktail เครื่องดื่มที่ถูกตั้งชื่อตามเขตทั้ง 5 ของ NYC

    View Post
Social Links
hydroflask.co.th
MenDetails Instagram
  • 1
    MDs’ STYLE | 4 เรื่องเกี่ยวกับ “สูท” ที่ผู้ชายเข้าใจผิดมาตลอด
  • 2
    MDs’ FAVORITES | นาฬิกา Tissot ‘Le Locle’ สำนึกรักบ้านเกิดของทิสโซต์ที่สวิส
  • 3
    MDs’ LIFE | แทนคำบอกรัก “ด้วยคุกกี้ Homemade” ที่คุณเองก็ทำได้ในวันวาเลนไทน์นี้
  • 4
    MDs’ STYLE | 5 เหตุผลว่าทำไมผู้ชายควร ใส่เสื้อแจ็คเก็ต กันให้มากขึ้น
  • 5
    MDs’ LIFE | 4 อุปกรณ์ ถ่ายรูป ที่หาได้ง่าย ๆ ในบ้าน ช่วยให้ภาพถ่ายดูดีขึ้นกว่าเดิมได้อีกระดับ
  • 6
    MDs’ STYLE | ‘Collar Roll’ เสน่ห์ความโค้งของปกเสื้อเชิ้ต ที่ผู้ชายมีสไตล์ทุกคนควรรู้
  • ลงทุนทองคำดีไหม 7
    MDs’ MONEY | “ลงทุนทองคำดีไหม” ข้อดี-ข้อเสีย ที่ผู้ชายควรรู้ ก่อนตัดสินใจลงทุนใน ‘ทองคำ’
  • 8
    MDs’ INTERVIEW | 3 หนุ่ม 1 สาวกับรองเท้า More’s Friday
  • 9
    MDs’ REVIEW | ตัดสูท ที่ Pinky Tailor ร้านสูทที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน (Part 1)
  • 10
    MDs’ STYLE | Vault by Vans Lite LX Collection
MenDetails
  • Contact Us
  • User Agreement
  • Advertising
BE A BETTER MAN

Input your search keywords and press Enter.