แต่ละคนจะมีสไตล์การเที่ยวต่างประเทศแตกต่างกันไปครับ เราว่าหลายคนชอบไปวางแพลนเที่ยวเอง เพราะความสนุกของทริปเริ่มตั้งแต่การจัดทริปนี่แหละครับ ไปที่ไหนไปกินอะไร เลือกวิธีการเดินทางต่างๆ เอง ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่เที่ยวเองง่าย เพราะระบบการขนส่งสาธารณะครอบคลุม แต่แม้ว่าจะทำการบ้านไปดีมากๆ อย่างไร บางทีก็มีอะไรที่พลาดไปเหมือนกัน เราเลยอยากแชร์ แอพพลิเคชั่น และ ภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้น ที่เราได้ใช้จริงในทริป และช่วยทำให้ เที่ยวญี่ปุ่นเอง ง่ายขึ้น
4 แอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ เที่ยวญี่ปุ่นเอง ง่ายขึ้น
Google Map
ปัญหาที่เกิดขึ้นเวลาไปประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ คือ ป้ายบอกทางหรือชื่อร้านค้า มักเป็นภาษาที่เราอ่านไม่ออกครับ ฉะนั้นการมีแอพแผนที่ติดเครื่องไว้สำคัญมากครับ แก้ปัญหาหลงทิศ ไปผิดทางของนักท่องเที่ยว โหมดที่เราจะแนะนำให้คุณใช้ คือ โหมด Live View ครับ หากต้องการใช้ ให้นำสมาร์ทโฟนตั้งขึ้นเพื่อสแกนตึกหรือสถาปัตยกรรมรอบตัว
เมื่อแอพระบุได้ว่าอยู่ตรงไหน จะมีไอคอนชี้บอกทิศทางที่เราต้องเดินไปยังจุดหมายครับ ซึ่งเปิด Live View แล้วดูทางง่ายกว่าการอ่านเส้นทางในแมพมาก ข้อควรระวัง คือ หากเป็นเมืองชนบทที่ไม่ค่อยมีตึก แอพจะระบุที่อยู่ไม่ได้ครับ ส่วนเวลากลางคืนไม่มีผลกระทบต่อการสแกน นอกจากนี้ยังสามารถเช็คได้ด้วยว่าบริเวณใกล้ตัวเรานั้น มีร้านอาหาร คาเฟ่ สถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม หรือปั๊มน้ำมันอยู่ไหม
TripAdvisor
เป็นอีกหนึ่งแอพที่มีประโยชน์มากๆ ไม่ว่าจะไปประเทศไหนก็ใช้งานได้อย่างแน่นอนครับ เรียกว่าเป็นตัวช่วยคอมพลีททริปก็ได้ ภายในแอพ TripAdvisor จะรวบรวมข้อมูลในการท่องเที่ยวของแต่ละเมืองเอาไว้ มีทั้งแนะนำโรงแรมที่พัก แนะนำร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ไปจนถึงกิจกรรมที่น่าสนใจในช่วงเวลาที่เราจะไปเที่ยวครับ โดยแต่ละที่จะมีรีวิวจริงจากคนที่เคยแวะเวียนไปแล้วครับ
อย่างที่เราไปนาโกย่า ก็ใช้ TripAdvisor ช่วยในการดูงานเทศกาลระหว่างวางแพลนทริป จะมีแนะนำวันเดย์ทริปให้ไป Shirakawa-go หมู่บ้านมรดกโลก และชวนชมเทศกาลไฟประดับ Nabana No Sato Winter Illumination ส่วนร้านอาหารไม่ได้ลิสต์ไว้จริงจังนัก เราค่อนข้างมั่นใจในรสชาติอาหารญี่ปุ่น เลยไปหาเอาหน้างาน รอบนี้ก็แวะไป ร้าน Kyoya ตามรีวิวในแอพมาครับ
Japan Direct
ข้อดีของประเทศญี่ปุ่น คือ รถไฟต่างๆ มาตรงเวลามาก ขบวนไหนจะมาถึงกี่โมงกี่นาที ไม่ค่อยคลาดเคลื่อนจากที่แจ้ง จึงทำให้เราวางแผนเวลาในแต่ละวันได้ง่าย Japan Direct เป็นแอพสำหรับคำนวนเวลาในการเดินทาง จะมีข้อมูล Departing และ Arriving บอกจำนวนต่อของการเดินทางว่าจากสถานที่ A ไปสถานที่ B มีวิธีการเดินทางกี่แบบ และแบบไหนเปลี่ยนรถกี่ต่อ และมีราคาของรถไฟเที่ยวนั้นๆ บอกไว้อยู่ด้วย (หากใช้ JR Pass ก็ไม่ต้องจ่ายในหลายๆ ขบวน)
Payke
เราเพิ่งเคยใช้แอพ Payke ในการทริปญี่ปุ่นครั้งนี้ และมันมีประโยชน์มากจนอยากให้ทุกคนโหลดทุกเครื่องไว้ครับ เป็นแอพแปลภาษาผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยแค่สแกน barcode ก็จะมีข้อมูลขึ้นมาว่าสินค้าตัวนั้นคืออะไร มีไว้ทำอะไร ส่วนใหญ่ถ้าเป็นของใน Phamacy หรือ Donkihote สแกนได้เกือบทุกชิ้นเลยครับ
พวกผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเอง, สกินแคร์, เครื่องสำอาง, ยา, ขนมของกินต่างๆ จะมีข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษขึ้นมา สามารถเอาไว้เช็ครสชาติ, สี, ชนิดของสินค้า บอกรายละเอียดว่าของชิ้นนี้ใช้ทำอะไร บางตัวที่มีคนใช้เยอะ จะมีรีวิวจากผู้ใช้และ ranking ว่าโปรดักส์ตัวนี้ได้รับความนิยมขนาดไหน ดีหรือไม่ดีอย่างไรด้วยครับ ใช้ได้จริงๆ เลยครับ ตัวอย่างตอนที่ซื้อขนมแล้วไม่รู้ว่ามันคือรสอะไร แอพตัวนี้ก็ช่วยได้
ภาษาญี่ปุ่น จำไปใช้เป็นคำๆ ไป
- ประโยคที่ทุกคนได้ใช้กันบ่อยที่สุด คือ すみません。(ซุมิมาเซน) เทียบเท่ากับคำว่า excuse me เอาไว้ใช้เวลาขอทาง ขอร้อง หรือให้ใครช่วยอะไร บางทีถ้าจะเรียกพนักงานเสิร์ฟก็พูดประโยคนี้ได้เลยครับ
- บอกขอบคุณก็เป็นอีกหนึ่งประโยคดีๆ ที่ได้ใช้จริงครับ คนญี่ปุ่นจะบริการดีและไนซ์มาก เวลาได้รับอะไร เราสามารถบอกขอบคุณด้วย ありがとう ございます。(อาริกาโตะ โกไซมัส) ซึ่งเป็นประโยคระดับสุภาพสุด หากพูดแค่ อาริกาโตะ ระดับความสุภาพจะลดลงมา ไม่มีครับ/ค่ะ
- อีกสถานการณ์หนึ่ง เอาไว้ช่วยเวลาถามทาง บางทีอาจเกิดเหตุการณ์ที่แบตโทรศัพท์หมด หรือสัญญาณเน็ตหาย จะได้เอาไว้ใช้ถามสถานที่จากคนญี่ปุ่นครับ แต่ส่วนใหญ่เวลาตอบกลับมาเร็วๆ เราฟังไม่ทันหรอกครับ เลยแนะนำให้จำคำง่ายๆ แค่คำว่า ซ้าย ひだり (ฮิดาริ), ขวา みぎ (มิหงิ), ตรงไป まっす (มัตสึหงุ) เอาไว้ช่วยยืนยันทิศทางในทางเดิน
- หนึ่งประโยคที่ได้ใช้บ่อยๆ ถามว่า ห้องน้ำอยู่ที่ไหนครับ/คะ トイレはどこですか。(ทอยเระ วะ โดโคะ เดสก๊ะ)
- การจะถามว่าคุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม ถามว่า Do you speak English น่าจะดีที่สุดครับ แต่เราเคยเจอคนญี่ปุ่นที่เมื่อได้ยินภาษาอังกฤษแล้วเดินเลี่ยงไปเลย ลองฝึกประโยคคำถามว่า คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม ในภาษาญี่ปุ่นเอาไว้ก่อนก็ดีครับ 英語が話せますか?(เอโกะ โวะ ฮานะเซ มาสุ ก๊ะ?)
- เมื่อถึงเวลาช็อปปิ้ง พอเปิดลิสต์ของที่มีไว้ก็อาจต้องขอความช่วยเหลือจากพนักงาน ว่ามีของชิ้นนี้ขายไหม สามารถพูดได้ว่า ◯◯はありますか? (◯◯ วะ อะริมัส ก่ะ?) หมายถึง มี…มั้ย?
- เวลาเข้าร้านอาหาร ควรจะจำศัพท์เรียกเนื้อสัตว์ไว้ครับ เนื้อหมู เรียกว่า บูตะนิขุ, เนื้อวัว เรียกว่า กิวนิขุ, เนื้อไก่ เรียกว่า โทรินิขุ, ปลา เรียกว่า สะคะนะ, กุ้ง เรียกว่า เอบิ และปู เรียกว่า คานิ ครับ และเมื่อทานเสร็จถึงเวลาเรียกเก็บเงิน ต้องบอกว่า お勘定お願いします。(โอะคันโจ เนไง ชิมัส)
- ต้นตำรับญี่ปุ่นเรื่องการทานซูชิ จะใส่วาซาบิมาใต้เนื้อปลา หากคุณไม่ทานวาซาบิหรืออยากกำหนดปริมาณเอง สามารถสั่งได้ว่า さび抜き (ซาบินูคิ) หมายถึง ซูชิที่ไม่ใส่วาซาบิมาด้านใน
MenDetails มองว่า การไป เที่ยวญี่ปุ่นเอง เดี๋ยวนี้ไม่ยากเลยครับ เพียงแค่วางแพลนเที่ยวให้ดี ศึกษาเส้นทางการเดินทาง เลือกที่พักที่ตอบโจทย์ก็ครบแล้ว และอย่าลืมโหลดแอพพลิเคชั่นสำหรับช่วยไกด์ในทริปไปด้วย จะได้เที่ยวได้สะดวกขึ้น ถ้ามีเวลาฝึกภาษาไปหน่อยรับรองมีประโยชน์อย่างแน่นอน