ลองนึกถึงเมืองที่เหมือนเป็นหลังคาโลกดูครับ เราเชื่อว่าคุณคงนึกออกเพียงไม่กี่ที่ และที่ๆ คนไทยเริ่มไปกันเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องยกให้เมืองนี่เลยครับ ‘Leh Ladakh’ นอกจากจะเป็นเมืองที่อยู่สูงราว 3,500+ เมตร จากระดับน้ำทะเลแล้ว ยังเป็นเมืองที่ถ่ายรูปสวยงามเกือบทุกรูปที่กด ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ยอดเยี่ยม เต็มไปด้วยเทือกเขาเล็กๆ น้อยๆ / ทะเลสาบแสนสวย แค่นั่งเครื่องบินแล้วมองออกจากหน้าต่างก็คุ้มแล้ว แต่สิ่งที่หลายๆ คนอาจนึกไม่ถึงก็คือ “สภาพอากาศ” ที่โหดหินและคาดเดาไม่ได้ในแต่ละวัน ดังนั้นถ้าคุณกำลังจะเดินทางไปที่นี่ ‘Leh Ladakh’ นี่คือบทความที่คุณควรอ่านครับ
อย่าไปเลยช่วงหน้าหนาว ปลายปีนี่เลิกคุยเลยครับ
สิ่งแรกที่ควรรู้เลยคือ ช่วงเดือนที่ไม่ควรไปเที่ยวครับ เนื่องจากบางเดือนที่ Leh Ladakh นั้นอาจมีติดลบถึง -20 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ เป็นช่วงเดือนที่หนาวเหน็บอย่างยิ่ง แถมนอกจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่แล้วนั้น ถนนหลวงหลายสายจะถูกปิด ไม่ให้คมนาคมได้ และร้านค้าจะเปิดอย่างเบาบาง จึงถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่ควรไปเยือน Leh Ladakh นั่นเอง
ช่วงเวลาที่น่าไปเที่ยวที่สุดคือ “ตั้งแต่เดือน 5 ถึงเดือน 8”
เนื่องจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างดีด้วยอุณหภูมิราวๆ 16-21 องศาเซลเซียส ในช่วงกลางวัน และ 3-6 องศาเซลเซียส ในช่วงกลางคืน ทำให้เหมาะสมอย่างยิ่งในการเดินทางนั่นเอง แต่ก็อย่าได้วางใจไปนะครับ เพราะถ้ามีลมเมื่อไร อุณหภูมิจะลดลงกว่า 3-5 องศาได้สบายๆ (หรือมากกว่านั้น)
สภาพอากาศสุดเหวี่ยง “กลางวันคือร้อน กลางคืนคือหนาว”
อากาศมันก็จะเหวี่ยงๆ แบบคาดเดาอะไรไม่ค่อยได้ครับ กลางวันที่ร้อนเนื่องจากแดดโดยตรงเลย ถ้าเจอแดดคือแรงใช่เล่นครับ ถึงแม้ว่าอุณหภูมิจะอยู่ราวๆ 15-20 องศาเซลเซียส ก็ตามที บางครั้งหากยืนตากแดดนานๆ อาจทำให้ผิวไหม้ได้โดยไม่รู้ตัวเลยก็มี อากาศสุดเหวี่ยงประมาณว่า ถ้าคุณเจอลม อาจหนาวขึ้นมาทันที / นั่งในร่มมากก็ไม่ได้ / แต่ถ้ายืนตากแดดนานไปก็อาจจะโดนแดดเผา ทั้งที่มีอุณหภูมิเย็นประมาณหนึ่งเลยก็ตาม / ตกดึกคือหนักหนาเลยครับ เย็นแบบสุดๆ
สิ่งจำเป็นอย่างแรกเลยคือ “หน้ากากกันฝุ่น” และ “ทิชชู่เปียก”
-เพิ่มสเปรย์นำ้แร่เข้าไปด้วย เชื่อเรา-
เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ลมแรงและมีเทือกเขาสูง ทำให้ฝุ่นค่อนข้างเยอะมากครับ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือหน้ากาก ยิ่งโดยเฉพาะตอนกลางคืนที่เรานอนเนี่ย หากใครไปนอนแบบที่พักธรรมดาๆ อาจพบเจอฝุ่นลอยในอากาศมากเป็นพิเศษ ดังนั้นควรติดหน้ากากกันฝุ่นไปด้วยนะครับ ส่วนของอีกชิ้นที่ตามกันมาแบบติดๆ ก็คือ ทิชชู่เปียก บอกเลยว่า “ทิชชู่เปียก” คือตัวช่วยที่จำเป็นอย่างยิ่ง เวลาต้องการทำความสะอาดแบบเร่งด่วน
ครีมกันแดด พกไปด้วย และเลือกเสื้อผ้าป้องกัน UV คุณภาพสูง
-ครีมกันแดดสำคัญมากครับ แต่เสื้อสะท้อน UV จาก Columbia นั้นช่วยได้มากทีเดียว แนะนำเพิ่ม Fleece ไปด้วยครับ เพราะตอนกลางคืนค่อนข้างหนาวเลยแหละ-
อย่างที่แจ้งไว้ข้างต้นครับว่า “ที่นั่นแดดแรง” สิ่งที่เหมือนจะไม่ต้องติดตัวไปเวลาไปเที่ยวเมืองหนาวๆ อย่างครีมกันแดดก็จะมีความจำเป็นที่นี่แบบไม่รู้ตัวครับ แต่ถ้าคุณไม่อยากทาครีมให้มันยุ่งยากเหนอะผิว แนะนำเปลี่ยนเป็นใส่เสื้อผ้ากันแดดที่สะท้อน UV ดีๆ ไปสักตัว 2 ตัว ไว้สวมทับเสื้อ Base Layer (อ่านการแต่งกายลุยหน้าหนาวแบบ Layering ได้ที่นี่) จะได้ช่วยกัน UV ได้อีกชั้นหนึ่ง
Outerwear คือสิ่งสำคัญ เลือกที่กันลมได้ 100% จะดีที่สุด
-Windbreaker ที่มาพร้อม UV Protection น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับทริปนี้-
จากที่ MDs เล่าไปข้างต้นนะครับ สิ่งที่เป็นอันตรายมากอันดับต่อมาก็คือ “ลม” ดังนั้นคุณควรเลือก Outerwear คุณภาพสูงครับ เอาไปใส่กันลมแบบจริงๆ จังๆ เนื่องจากลมที่ ‘Leh Ladakh’ นั้นค่อนข้างโหดร้ายมากจริงๆ ยิ่งด้วยระดับความสูงราว 3,500+ เมตรด้วยแล้ว พนันได้เลยครับว่า ไม่มีวันไหนไม่เจอลมแน่นอน ติดไปสักตัวครับ รับรองสบายแน่ๆ เชื่อเรา (รวมถึงกางเกงกันลมด้วยนะครับ)
สุดท้าย แนะนำให้ไปเช็คร่างกายก่อนเดินทาง เพราะด้วยระดับความสูงแบบนี้ คุณอาจก้าวเท้าไม่ออกเลยก็เป็นได้
ยิ่งสูง Oxygen ยิ่งเบาบางครับ บางคนอาจประสบปัญหาด้านการหายใจ บ้างอาจทนความสูงระดับนี้ไม่ได้ ดังนั้นคุณควรไปเช็คร่างกายเสียก่อน เพราะถ้าคุณเจอปัญหาข้างต้นแล้วหล่ะก็ “คุณอาจเดินก้าวไม่ออกเลยก็มี” เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและปริมาณ Oxygen นั้นมีผลอย่างมากต่อระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย หากทราบว่าไม่น่าไหว อาจขอยาจากคุณหมอไว้ล่วงหน้าก็เป็นการดีนะครับ
Leh Ladakh ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองที่แสนสวยงาม แต่บอกเลยครับว่า ความงามที่คุณเห็นภาพจอโทรศัพท์หรือจอคอมฯ นั้น แลกมาด้วยสภาพร่างกายที่ต้องปรับตัวค่อนข้างมาก การเตรียมตัวล่วงหน้าที่ดี จะช่วงให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างราบรื่นครับ แนะนำเสื้อผ้ากันแสง UV อย่าง Omni-Shade ที่กัน UV-A และ UV-B ได้มากกว่า 95% รวมถึง Outerwear ที่สามารถกันลมได้ดีเยี่ยมอย่าง Omni-Tech ที่นอกจากจะกันน้ำแล้ว ยังกันลมได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณสามารถหาเสื้อผ้าเหล่านี้ได้ที่ Columbia Store ทุกสาขาได้เลยครับ
Credit Photos : Keerati Kittisoponpong