เมื่อเราเดินทางท่องเที่ยว นอนพักตามโรงแรมต่าง ๆ สิ่งหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจ คือ อาหารเช้าครับ นอกจากจะเป็นมื้อที่สำคัญกับเราแล้วยังเป็นมื้อสำคัญของโรงแรมเช่นกัน เพราะเป็นอาหารมื้อเดียวที่ผู้เข้าพักแทบทุกคนจะได้กิน ทำให้ อาหารเช้าโรงแรม ถือเป็นหน้าตาของโรงแรมเลยก็ว่าได้ หากโรงแรมไหนที่ทำอาหารเช้ารสชาติไม่ดี หรือ คุณภาพแย่ ก็ส่งผลต่อการเลือกเข้าพักของเราได้ครับ
หากเราสังเกตเวลาที่เราพักตามโรงแรม หลายแห่งมักบอกว่าอาหารของตนนั้น เป็นอาหารเช้าแบบใด ไม่ว่าจะเป็น Continental, English หรือ American Breakfast ที่เราอาจจะไม่ได้สนใจมากนัก แต่รู้หรือไม่ว่า อาหารเช้าสามแบบนี้ มีความแตกต่างกันพอสมควร MenDetails คิดว่า หากรู้จักเอาไว้ ในครั้งต่อไป เราสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกเข้าพักโรงแรมได้ครับ อาหารเช้าโรงแรมทั้งสามแบบ มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันครับ
Continental Breakfast อาหารเช้าเบา ๆ สไตล์ยุโรป
ในโรงแรมทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะโรงแรมในแถบยุโรป และอเมริกันบางแห่ง อาหารเช้าแบบ Continental Breakfast จัดเป็นตัวเลือกพื้นฐานที่โรงแรมจะมีให้ และส่วนใหญ่อาหารเช้าแบบนี้จะฟรี เพราะไปบวกรวมกับค่าห้องแต่แรกแล้ว
อาหารเช้าลักษณะนี้ ชื่ออาจฟังดูหรูหรา แต่มันประกอบไปด้วยอาหารเบา ๆ ไม่หนักท้องมาก เช่น พวกผลไม้ เบเกอรี่ ขนมปัง ซีเรียล แยม กาแฟ น้ำผลไม้ และบางแห่งอาจจะมีชีส โยเกิร์ต หรือเนื้อ cold cut มาให้ด้วย อาหารเช้าแบบนี้ใช้เวลาทำไม่นาน ไม่ยุ่งยาก ง่ายต่อการกิน ผู้เข้าพักสามารถเลือกหยิบอาหารที่ต้องการ นั่งโต๊ะแล้วกินได้ในเวลาไม่นาน หรือจะถือออกไปจากโซนอาหารเลยก็ได้ ด้วยความที่มันเป็นอาหารเช้าเบา ๆ ที่ไม่มีอะไรมาก หลายโรงแรมจัดเลือกที่จะจัดวางมันให้สวยงามเพื่อเพิ่มความหรูหราแทน
ต้นกำเนิดของ Continental Breakfast ก็มาตามชื่อของมัน คือ มาจากแผ่นดินใหญ่ของยุโรป (ไม่นับเกาะอังกฤษ) โดยเฉพาะพวกฝรั่งเศส ที่นิยมกินอาหารเช้าแบบเบา ๆ มาตั้งแต่ยุคกลาง แล้วไปเน้นหนักในมื้อกลางวันแทน คำนี้เริ่มใช้กันในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 และแพร่หลายเมื่อขึ้นศตวรรษที่ 20 เพราะกิจการท่องเที่ยวเริ่มเฟื่องฟู การเดินทางระหว่างประเทศเริ่มง่ายมากขึ้น
เมื่อชาวยุโรปจากแผ่นดินใหญ่ มาเที่ยวเกาะอังกฤษ สไตล์การกินอาหารที่มื้อเช้าถือว่าจัดหนักจัดเต็ม เป็นอะไรที่คนจากแผ่นดินใหญ่ไม่คุ้นเคย คนอังกฤษเลยเริ่มคิดค้นอาหารเช้าแบบใหม่ให้ถูกจริตคนจากแผ่นดินใหญ่มากขึ้น เกิดเป็น term ที่เรียกว่า Continental Breakfast
และเมื่อคนจากยุโรปเดินทางไปเที่ยวสหรัฐอเมริกา คนอเมริกันที่กินอาหารเช้าที่หนักท้องและให้พลังงานไม่แพ้คนอังกฤษ จึงได้รับวัฒนธรรมการกินอาหารเช้าแบบเบา ๆ ของชาวยุโรปไปด้วย ในช่วงเวลานั้นผู้จัดการโรงแรมทั้งหลายก็กำลังหาวิธีในการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายอาหารเช้าอยู่ เพราะคนอเมริกันด้วยกันเอง ไม่ใช่ว่าทุกคนอยากกินอาหารเช้าที่หนักท้องมากจนเกินไป แต่อยากกินอะไรเบา ๆ ที่ใช้เวลาไม่นานมากกว่า เช่น นักธุรกิจที่มาพักในโรงแรมต่างถิ่น ทำให้โรงแรมในอเมริกาเริ่มกันมาเสิร์ฟอาหารเช้าแบบ Continental Breakfast มากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ Continental Breakfast จึงแพร่หลายไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในแถบเอเชีย หรือ อเมริกาใต้ ที่คนกินอาหารต่างจากชาวยุโรป อังกฤษ และอเมริกันอย่างสิ้นเชิง หลายโรงแรมก็เลือกเอาอาหารเช้าแบบนี้มาเป็น อาหารเช้าโรงแรม
English Breakfast อาหารเช้าจัดหนักสไตล์อังกฤษ
ในบรรดาอาหารเช้าโรงแรมที่ไม่ใช่ Buffet อาหารเช้าแบบนี้ถือว่าจัดหนักที่สุด บางโรงแรมอาจจะให้มาเยอะมากจนเราอิ่มจนถึงมื้อกลางวันได้เลยครับ อาหารเช้าแบบนี้จะประกอบด้วย ไส้กรอก ขนมปังปิ้ง ถั่ว เบคอน ไข่ และผักอย่างมะเขือเทศ เห็ดกับชา กาแฟหรือน้ำผลไม้ จะเป็นอาหารหลักที่เราจะได้กินในอาหารเช้าแบบนี้ครับ และจะมาในปริมาณที่มากพอสมควร บางโรงแรมเราสามารถขอให้เขาลดปริมาณของอาหารลงได้ครับ
อาหารเช้าแบบนี้ จะมีลูกเล่นอยู่บ้างเล็กน้อย เพราะในแต่ละภูมิภาคของอังกฤษก็อาจจะมีเมนูท้องถิ่นบางอย่างเพิ่มเข้ามา เช่น ข้าวต้ม ปลาย่าง พุดดิ้งดำ หรือเบเกอรี่อื่น ๆ และโรงแรมที่เสิร์ฟอาหารเช้าแบบ English Breakfast นอกประเทศอังกฤษ ก็อาจจะมีเมนูพิเศษเหล่านี้เช่นเดียวกันครับ แต่หลัก ๆ จะไม่หนีไปจากที่กล่าวมาแน่นอน
หากเราเข้าพักโรงแรมไหนที่ไม่มีอาหารเช้าแบบ Buffet แต่เสิร์ฟเป็นแบบ English ขอให้รู้ไว้เลยว่านี่คืออาหารเช้าที่ดีที่สุด ทั้งปริมาณอาหารจัดเต็ม ให้พลังงานต่อร่างกายอย่างมหาศาล และที่สำคัญอาหารเช้าแบบนี้ทางโรงแรมมักจะทำแบบจานต่อจานครับ
American Breakfast อาหารเช้าแบบอเมริกันที่คนไทยคุ้นเคย
หากพูดถึงลักษณะของอาหารเช้าโรงแรมที่คนไทยคุ้นเคยที่สุด น่าจะหนีไม่พ้นอาหารเช้าแบบ American Breakfast แน่นอนครับ อาหารเช้าแบบนี้ ให้พลังงานไม่แพ้กับ English Breakfast ครับ ถ้ามองโดยรวมแล้วอาจจะดูจัดเต็มน้อยกว่าเล็กน้อย และมีรายละเอียดที่ต่างกันในอาหารบางอย่าง แต่ให้พลังงานไม่ต่างกันมากนัก
อาหารเช้าลักษณะนี้ ประกอบไปด้วย เมนูที่ทำจากไข่ ไม่ว่าจะเป็น ไข่ดาว ไข่คน ไข่ต้ม ไข่ลวก ไส้กรอก และเบคอน ขนมปังปิ้งกับเนยหรือแยม ซีเรียล ในบางโรงแรมอาจมีแพนเค้กเป็นตัวเลือกเพิ่มเติม กินคู่กับกาแฟ หรือน้ำผลไม้
อาหารเช้าลักษณะนี้ทางโรงแรมอาจจะจัดเตรียมเอาไว้ให้ หรือ อาจจะเป็นแบบเลือกตักเองตามใจชอบก็ได้ แม้จะไม่หนักท้องเท่า English Breakfast แต่ให้พลังงานถึงตอนเที่ยงได้แน่นอน
อาหารเช้าโรงแรม แบบ Buffet และ Local Breakfast
เราขอแถมท้ายด้วยอาหารเช้าอีกหนึ่งลักษณะที่คนเอเชียน่าจะคุ้นเคยกันดี นั่นคือ อาหารเช้าแบบ Buffet ครับ และตรงตามชื่อของมัน เพราะอาหารเช้าลักษณะนี้สามารถเลือกเดินตักได้ตามใจชอบ มีอาหารให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเบเกอรี่ ไข่ เบคอน ไส้กรอก อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ผักต่าง ๆ ไปจนถึงเครื่องดื่ม ผลไม้ที่หลากหลาย ส่วนใหญ่เราจะพบเห็นอาหารเช้าลักษณะนี้ได้ทั่วไปตามโรงแรมใหญ่ ที่มีชื่อเสียง เพราะมีแขกเข้าพักมาก จึงต้องทำอาหารหลากหลายประเภทตอบสนองความต้องการ และยิ่งมีอาหารมาก ก็สามารถสร้างความประทับใจให้ผู้เข้าพักได้มากขึ้นด้วย
อาหารเช้าแบบ Buffet ยังเปิดช่องทางให้ประเทศที่อาหารการกินต่างจากชาวยุโรป และอเมริกัน อย่างชาวเอเชีย สามารถจัดอาหารเช้าจำพวก อาหารท้องถิ่น หรือ Local Breakfast ไว้ได้ด้วยครับ ทำให้ผู้เข้าพักได้กินอาหารที่เป็นอาหารของวัฒนธรรมนั้นจริง ๆ และยังทำให้ผู้เข้าพักที่มาจากต่างประเทศได้ลองกินอาหารท้องถิ่นด้วย ในขณะเดียวกันการเป็น Buffet ก็ทำให้มีอาหารสากลอย่าง ไส้กรอก ไข่ เบคอน เบเกอรี่ไว้รองรับอีกทาง
รู้อย่างนี้แล้ว ครั้งหน้าเวลาเข้าพักที่โรงแรม หากอาหารเช้าคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราเลือกพักโรงแรมนั้น ๆ ถ้ามีระบุไว้ว่าอาหารเช้าเป็นแบบใด เราจะได้เข้าใจชัด และสามารถตัดสินใจได้ถูกครับ เพราะ MenDetails คงไม่สามารถตัดสินแทนทุกท่านได้ว่า อาหารเช้าแบบไหนดีกว่ากัน อยู่ที่ความชอบของแต่ละคนล้วน ๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด อาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นอย่าลืมทานอาหารเช้านะครับ