Men in Black : International หรือชื่อไทย หน่วยจารชนสากลพิทักษ์โลก เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟแอ็คชั่นคอเมอดี้ภาคที่ 4 ของหนังแฟรนไชส์สายลับชุดดำ MIB ที่สร้างมาจากการ์ตูนคอมมิคชื่อดัง โดยภาคนี้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้กำกับคือ เอฟ. แกรี เกรย์ ผู้กำกับผิวสีเจ้าของผลงาน The Italian Job ส่วนทีมนักแสดงก็ได้ คริส เฮมสเวิร์ธ (Chris Hemsworth) จาก Avengers: Endgame และ เทสซา ทอมป์สัน (Tessa Thompson) จาก Thor: Ragnarok มารับบทนำเป็นคู่หูคู่ใหม่แทน วิล สมิธ กับ ทอมมี่ ลี โจนส์
นอกจากนี้เนื้อหาของกลุ่มสายลับจับเอเลี่ยนในภาคนี้ ยังขยายจักรวาลขององค์กรชุดดำ ย้ายโลเคชั่นจากแต่เดิมเน้นปฏิบัติภารกิจในเมืองนิวยอร์คและในประเทศสหรัฐอเมริกา มาที่สาขากรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และมีการผจญภัยไปในหลายประเทศทั้งในทวีปยุโรปและแอฟริกา โดยเรื่องของคอสตูม ยูนิฟอร์มหลักของภาคนี้เปลี่ยนมาใช้ชุดสูทของแบรนด์อังกฤษแท้ๆอย่าง Paul Smith เช่นเดียวกับยานพาหนะที่หันมาใช้รถจากัวร์วินเทจของอังกฤษ แต่ตัวละครยังคงใช้นาฬิกาข้อมือ Hamilton Ventura แบรนด์ดังจากสหรัฐฯเหมือนเดิม
ขณะเดียวกันภาคนี้ยังเป็นภาคแรกที่มีเอเจ้นท์ผู้หญิงออกลุยงานภาคสนามคือ Agent M ที่รับบทโดย เทสซา ทอมป์สัน และแน่นอนว่า นิวรอลไลเซอร์ (Neuralyzer) หรือ เครื่องลบความทรงจำที่เป็นเครื่องหมายการค้าของหนังตระกูล Men in Black ก็ยังมีบทบาทอยู่ ซึ่งทางเข้าลับๆ ไปสู่เอ็มไอบีสาขาลอนดอน อยู่ในร้านเครื่องพิมพ์ดีดเก่าๆแห่งหนึ่ง
Men in Black : International ภาคนี้เล่าถึง “เอเจนท์ เอช” หนึ่งในเอเจนท์ที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดประจำสำนักงานเอ็มไอบีกรุงลอนดอน ด้วยผลงานชิ้นโบแดงกับการกอบกู้โลกจากเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนสุดอันตราย ครั้งนี้เขาพบตัวเองอยู่ใจกลางการสืบสวนเรื่องของ “หนอนบ่อนไส้” ภายในหน่วยงานของเขาเอง โดยมี “เอเจนท์ เอ็ม” เจ้าหน้าที่สาวฝึกงานที่ถูกส่งตัวมาจากสาขานิวยอร์คเพื่อมาเป็นคู่หูกับเขา
สำหรับภารกิจกวาดล้างเอเลี่ยนครั้งใหม่ การเปลี่ยนตัวนักแสดงถือว่ามีผลกระทบกับความสนุกพอสมควร เพราะ คริส เฮมสเวิร์ธ ไม่ได้มีความตลกธรรมชาติแบบ วิล สมิธ ทำให้เสน่ห์ในพาร์ทคอเมอดี้ของหนังค่อนข้างด้อยลงไป แต่การขยายขอบเขตโดยเปลี่ยนบรรยากาศมาเล่าเรื่องคดีมนุษย์ต่างดาวในยุโรปบ้าง ก็ทำให้พล็อตเรื่องน่าสนใจขึ้น ด้วยมุขตลกที่ล้อไปกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทั้งต่างชาติ และ ต่างดาว ถือว่า “ผ่าน”
MIB 2019 ยังคงใช้ฉากแอ็คชั่นมันๆ เป็นจุดขาย ถึงแม้ไม่ได้จัดเต็มสุดๆ ด้วยกราฟฟิคอลังการงานสร้าง รวมถึงน่าเสียดายที่บทสนทนาในหนังอาจจะเยอะไปสักหน่อย อีกทั้งตัวละครใหม่ๆ เองก็ยังไม่มีเสน่ห์พอจะตรึงคนดูได้อยู่หมัด โดยส่วนตัวคิดว่า เทสซา ทอมป์สัน ทำได้ดีกว่า คริส เฮมสเวิร์ธ เล็กน้อย น่าสนใจอย่างยิ่งหากภาคต่อไปเธอจะได้มีโอกาสไปแสดงร่วมกับ วิล สมิธ ขณะที่ตัวละครจอมขโมยซีนที่สุดคือ “เจ้าตัวเบี้ย” (Pawny) มนุษย์ต่างดาวร่างเล็กจอมกวน ผู้ช่วยของ Agent M นี่แหละ
แม้ว่า Men in Black : International อาจจะยังไม่สามารถเทียบชั้น Men in Black 3 ภาคแรกที่มี วิล สมิธ ได้ (MIB 4 ถูกตีความว่าเป็นภาคแยก มากกว่าภาคต่อ) แต่ก็ถือว่าเป็นภาคที่มีสีสันและความแปลกใหม่หลายอย่าง โดยหากภาคต่อไปจะมีการกลับรวมกับหน่วยจารชนพิทักษ์จักรวาลในสหรัฐฯกับหน่วยอื่นๆในหลายประเทศทั่วโลก ก็ถือว่าเป็นโปรเจกต์ที่น่าสนใจของโลกภาพยนตร์
Men in Black International วันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์