ถ้ามีใครสักคน ชวนคุณไปลองทานอาหารจากเชฟระดับ Michelin Star ที่ทำอาหารไทยให้กลายเป็นที่รู้จักในระดับโลก และมีร้านอาหารของตัวเองทั้งใน Sydney / Perth / Melbourne / London / Singapore และ Hong Kong มาก่อน คุณคิดว่าคุณจะอยากลองไปทานดูมั้ย? และถ้าอาหารต่อจานนั้นเริ่มต้นเพียง 70.- หล่ะครับ?
Someday Everyday คือร้านข้าวแกงแห่งใหม่โดย เชฟ David Thompson ซึ่งร่วมมือกับ คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค เจ้าของพื้นที่ Warehouse 30 และ เชฟปริญญ์ ผลสุข อดีตหัวหน้าเชฟแห่งร้าน Nahm (ร้าน Nahm เปิดเมื่อปี 2001 และสามารถคว้ารางวัล Michelin Star ได้ภายใน 6 เดือน ถือเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกใน List Michelin Star เลยก็ว่าได้ ซึ่งเชฟ David Thompson เป็นเจ้าของ) ทั้ง 3 ร่วมกันก่อตั้งร้านชื่อว่า Someday Everyday ขึ้น เน้นรังสรรค์อาหารคุณภาพจากวัตถุดิบชั้นยอดในท้องถิ่นเป็นหลัก
ร้าน Someday Everyday นั้น เน้นปรุงอาหารคุณภาพในปริมาณไม่มากต่อครั้งครับ เลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดในพื้นที่ และที่สำคัญ ราคาจะต้องเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งด้วยฝีมือเชฟระดับนี้ กับราคาเริ่มต้นที่ 70.- เราชาว MenDetails อยากให้ทุกท่านมาลองทานกันสักครั้งให้ได้ครับ
เปิดประตูเข้ามา จะเจอพื้นที่สั่งอาหารเลย ที่นี่ก็คล้ายๆ กับร้านข้าวแกงทั่วๆ ไปครับคือ “บริการตัวเอง” กล่าวคือ หลังจากที่คุณสั่งอาหาร ทั้งข้าวเปล่า (20.-) ราดกับข้าว 1 อย่าง (70.-) หรือจะสั่งเป็นถ้วยแยก (ถ้วยละ 100.-) เป็นกับข้าวแบ่งกันทานแล้ว ก็จะต้องถือจานข้าวหรือกับข้าวอื่นๆ ที่เราสั่งไปจ่ายเงินที่จุดชำระเงินปลายทาง แล้วจึงนำอาหารขึ้นไปทานที่ชั้น 2 เนื่องจากพื้นที่ด้านหลังของ Counter อาหาร คือพื้นที่ครัวที่จะ โขลก / ต้ม / หั่น / บีบ / เชื่อม / ผัด อยู่ตลอดเวลา
-เป็นเมนูธรรมดาๆ ที่ไม่ธรรมดามากๆ ครับ กับไข่พะโล้-
เมนูเด็ดของที่นี่ ต้องขอยกให้ “ไข่พะโล้” เลยครับ เพราะปรุงออกมาได้ยอดเยี่ยม โดยความลับอยู่ที่ไข่ที่เลือกใช้ เลือกแบบสดใหม่ที่สุดเท่าที่จะหาได้ ต้มเพียง 3 นาที พอให้เป็นยางมะตูม นุ่มๆ แล้วนำลงแช่ในน้ำพะโล้ที่ต้มด้วยเครื่องพะโล้เน้นๆ ไม่ผสมผงพะโล้สำเร็จใดๆ จนกลายเป็นไข่พะโล้ยางมะตูมที่เรียกได้ว่า “ว้าวทุกคำที่เข้าปากเลยทีเดียว”
ถ้วยต่อมาที่อยากให้ลองกันก็คือ “ซี่โครงหมูอ่อนต้มใบมะดัน” ถึงแม้วันที่เราไปนั้น น่าจะมีคนแย่งส่วนกระดูกอ่อนไปหมดแล้ว แต่ด้วยเครื่องที่จัดเต็มอย่างใบมะดัน ต้มรวมกับมะขาม / ขิง ทานรวมกันทั้งหมดในคำเดียว ได้รสชาติกลมกล่อมอย่างบอกไม่ถูก ส่วน “จับฉ่ายแห้ง” ก็เป็นอีกเมนูที่น่าสนใจ เนื่องจากทางร้านผัดวุ้นเส้นกับผักได้นุ่มและไม่เละหรือแห้งแข็งจนเกินพอดี จับคู่กับเป็ดรมควัน แปลกใหม่แต่ลงตัว ทั้ง 2 เมนูนี้ ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ คือดีงามมากจริงๆ
-ซ้ายไปขวา | ซี่โครงหมูอ่อนต้มใบมะดัน / แกงระแวงเนื้อ / จับฉ่ายแห้ง-
อีกเมนูที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ต้องยกให้ “แกงระแวงเนื้อ” ซึ่งทางร้านเลือกใช้เนื้อจาก Australia นำมาต้มกับแกงเขียวหวาน ผัดให้แห้ง พร้อมใส่ขมิ้นขาว ตัดเปรี้ยวด้วยมะม่วง ถือว่า “มัน / หวาน / เผ็ด และเปรี้ยว” ครบรสดีจริงๆ
ของหวานนั้นมีให้เลือกหลากหลายครับ ซึ่งส่วนมากจะเน้นเป็นวัตถุดิบหรือผลไม้ตามฤดูกาล ที่ขึ้นชื่อจริงๆ คงเป็น “ข้าวเหนียวเปียกลำไยมะพร้าวอ่อน” (50.-) โดยทางร้านเลือกใช้ข้าวเหนียวดำคุณภาพแบบคัดเม็ด ได้ความเหนียวกำลังทาน ต้มพร้อมลำไยอบแห้ง และผิวส้มเขียวหวานตากแห้ง ราดด้วยน้ำกะทิ เค็มๆ มันๆ บอกเลยว่าดี แบบที่คนชอบทานของหวานต้องมาโดนด้วยตัวเอง โดยทางร้านแจ้งว่า “ทุกเมนูของหวาน ทางร้านทำเองทั้งสิ้น”
ใครที่ชื่นชอบอาหารไทยเป็นทุนอยู่แล้ว เราคิดว่า Someday Everyday คืออีกหนึ่งร้าน “ราดข้าว” ที่น่าสนใจกับเมนูอาหารไทยที่ยังคงดำรงไว้ซึ่งวิถีแห่งรสชาติอันแสนละมุน / ขั้นตอนอันพิถีพิถัน และเวลาที่ต้องใช้ใจทำ แวะมาลองทานกันได้นะครับที่ Warehouse 30 หรือถนนเจริญกรุง 30 นั่นเอง