หากนึกถึงเบอร์เกอร์ พวกเรานึกถึงอะไรกัน? ขนมปังที่กรอบนอกนุ่มใน เนื้อแสนฉ่ำ หรือชีสเยิ้มๆ ละมุนลิ้น? ถึงแม้ว่าเบอร์เกอร์จะเป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่ถูกตราหน้าว่าเป็น Junk food แต่เมนูนี้ก็ยังได้รับความนิยม เป็นที่ชื่นชอบ และเป็นสวรรค์สำหรับคนรักของอร่อยอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นหากจะเลือกทานเบอร์เกอร์สักชิ้น เราก็คงเลือกเบอร์เกอร์ชิ้นที่ดีที่สุด จากวัตถุดิบที่ดีที่สุด เช่นเดียวกันกับ ร้านเบอร์เกอร์ ที่มีชื่อว่า Burger Bro ร้านเบอร์เกอร์ ฝีมือคนไทย ที่ไม่ได้มีดีแค่เป็นเบอร์เกอร์ธรรมดา แต่ที่นี่เน้นหนักเป็นพิเศษกับการคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบที่มีคุณภาพจริงๆ มาให้พวกเราได้ลิ้มลองกัน
บรรยากาศดีๆ กลิ่นไอ American ชัดเจน
เมื่อเดินเข้ามาด้านในของร้าน สัมผัสแรกก็คงจะเป็นกลิ่นอายของความเป็นอเมริกันสไตล์ ด้วยคู่สีแดงและเหลืองที่ตัดกัน ผสานกับรูปภาพ และเสียงเพลงคลอเบาๆ ที่ทำให้เรานึกถึงร้านอาหารสักร้านในนิวยอร์กเลยก็ว่าได้ ถึงแม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ที่นี่มีที่นั่งให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 โซน ได้แก่ โซนด้านล่าง โซนด้านบน และโซนด้านนอก ใครชอบบรรยากาศแบบไหนก็สามารถเลือกนั่งกันได้ตามสบาย
หลังจากจับจองที่นั่งกันได้แล้ว เราขอประเดิมกันด้วยเมนู Appetizer อย่าง Onion Ring (ราคา 80 บาท) หัวหอมทอดที่มีความกรอบนอกนุ่มใน เมื่อกัดเข้าไปนอกจากแป้งที่กรอบไม่อมน้ำมันแล้ว ยังสัมผัสได้ถึงความหวานของหอมได้เป็นอย่างดี หากใครที่ชอบทานซอส ก็ยิ่งทำให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
เมนูถัดมา Chili Dog (ราคา 100 บาท) ฮอทดอกที่ใช้ขนมปัง Homemade ที่ทั้งนุ่ม ทั้งหอม และมีความหวานของเซโมลิน่า เพิ่มไส้กรอกชิ้นโตแล้วราดด้วย Chilli and Minced Pork Sauce (ซอสหมูสับ ซึ่งเป็นสูตรพิเศษของทางร้าน) จากนั้นนำไปอบกับชีส และท็อปด้วยพริกดองที่ทางร้านทำเอง ทำให้ฮอทดอกชิ้นนี้มีความกลมกล่อม ไม่เลี่ยน และไม่หนักชีสจนเกินไป ขอแนะนำว่าให้รีบทานตอนทำเสร็จใหม่ๆ อย่าทิ้งเอาไว้นาน เพราะยิ่งร้อนยิ่งทำให้ความนุ่มของขนมปัง ความกรอบนอกนุ่มในของไส้กรอก และรสชาติเข้มข้นของชีสนั้น ผสมผสานเข้ากันได้เป็นอย่างดี
-ทานตอนร้อนๆ คือดีงาม-
มาร้านเบอร์เกอร์ทั้งที หากไม่พูดถึงเบอร์เกอร์ก็คงจะแปลก เรามาต่อกันที่เมนูถัดไปอย่าง Burger Bro (ราคา 139 บาท) เมนูออริจินัลของทางร้าน หากใครที่ชื่นชอบเนื้อและเบค่อน มาแล้วไม่สั่งถือว่าพลาดมาก เพราะเบอร์เกอร์ชิ้นนี้ประกอบด้วยเนื้อโคขุน (Thai-French Natural Beef) ที่สุกกำลังดี ทำให้เนื้อมีความฉ่ำ บวกกับเบค่อนที่กริลล์มาในระดับที่ไม่แข็งจนเกินไป จึงทำให้มีกลิ่นหอมโดดเด้งขึ้นมา เมื่อทานรวมกันแล้วความหอมของเบค่อนจะเด่นออกมามากเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นใครที่ชื่นชอบเบค่อนและเนื้อควรต้องลอง
สำหรับใครที่ชื่นชอบในความนุ่ม หอม และความมันของเนื้อ MenDetails ขอแนะนำ Angus Burger ( ราคา 230 บาท) ที่สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ด้วยขนมปังชาโคล บวกกับเนื้อวัว Angus นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้เนื้อมีความนุ่มและความมันแทรกอยู่ในตัว เพียงแค่คำแรกเราก็รู้สึกได้ถึงความชุ่มฉ่ำของเนื้อในระดับที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
และสำหรับคนที่กำลังมองหาเบอร์เกอร์เนื้อที่ไม่ธรรมดา Love’em Wagyu (ราคา 300 บาท) ก็เป็นหนึ่งตัวเลือกที่เราอยากให้คุณลอง ด้วยเนื้อนำเข้าจากออสเตรเลีย มีความหอมและนุ่ม เมื่อกัดเข้าไปก็จะสัมผัสได้ถึงรสชาติเนื้อที่เต็มคำ เสิร์ฟคู่กับ fried potatoes ที่แตกต่างจาก french fries ธรรมดาทั่วไป เพราะใช้มันฝรั่งทั้งชิ้นจริงๆ ทำให้เนื้อมันฝรั่งมีความแน่นหนามากกว่า ถือเป็นเมนูสำหรับนักชิมที่ต้องการมองหาที่สุดของเบอร์เกอร์มาเก็บไว้เป็นลายแทงส่วนตัวได้เลยทีเดียว
ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะจบจากเมนูเบอร์เกอร์สารพัด เรามาต่อด้วย Fish&Chip (ราคา 200 บาท) เมนูนี้ถึงแม้จะดูเป็นเมนูเบสิก แต่ด้วยตัวแป้งที่มีความกรอบ เมื่อกัดเข้าไปแล้วเราก็จะพบกับความนุ่มของเนื้อปลาที่ค่อนข้างฉ่ำและไม่แห้งจนเกินไป เมื่อทานคู่กับทาทาร์ซอสแล้ว เมนูนี้ก็ถือเป็นอะไรที่ลงตัว ส่วนใครที่รักสุขภาพ ทางร้านก็มี Caesar Salad (ราคา 150 บาท) มาไว้คอยให้บริการ โดยทางร้านจะเน้นผักออแกนิคจากฟาร์ม ทำให้ผักสลัดของที่นี่ค่อนข้างสดและกรอบมากทีเดียว
ปิดท้ายด้วยความพิเศษด้วย Striploin (ราคา 450 บาท) สเต็กเนื้อสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อติดมัน เพราะเนื้อชนิดนี้นั้นจะมีมันแทรกตรงกลาง ทำให้เนื้อมีความนุ่มเป็นอย่างดี และอีกหนึ่งไฮไลต์ของเรา Tenderloin (ราคา 700 บาท) ในความสุกระดับ Medium Rare ทำให้เนื้อสเต็กที่ได้มีความนุ่ม ละมุนลิ้น และมีความหวานที่กำลังพอดี ไม่เหนียวจนเกินไป โดยเมนูนี้สามารถสั่งซอสมาทานคู่กันได้ทั้งหมด 3 อย่างเลยนะครับ แต่เราขอแนะนำว่าทานเนื้อเน้นๆ คุณจะได้สัมผัสกับรสชาติเนื้อแบบเต็มๆ คำ โดยไม่ต้องปรุงแต่ง เท่านี้ก็เป็นสวรรค์ของคนที่ชอบทานเนื้อแล้วล่ะ
-จานนี้คือ Recommended แท้ๆ เลยครับกับ Tenderloin นุ่ม หอม อร่อย-
สำหรับสาวกคอเบอร์เกอร์ที่อยากจะมานั่งชิลล์หรือกำลังหาเบอร์เกอร์พิเศษสักชิ้น ลองแวะมาได้ที่ร้าน Burger Bro กันได้เลย ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณ พระราม 9 ซอย 49 เข้าซอยไปประมาณ 100 – 200 เมตร ร้านอยู่ทางขวามือ ที่สำคัญร้านนี้เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย เย็น ที่นี่ก็พร้อมต้อนรับและคอยให้บริการนักชิมผู้หิวโหยอย่างเช่นพวกเราชาว MenDetails อยู่เสมอ อย่าลืมแวะไปลองของเด็ดที่ Burger Bro กันนะครับ