สำหรับใครที่กำลังคาดหวังว่า ร้านนี้จะมีพนักงานแต่งตัวสวยหรู พร้อมบริการะดับโรงแรม 5 ดาวนั้น อาจต้องปรับเปลี่ยนมุมมองสักหน่อยครับ เพราะที่แห่งนี้จะให้บรรยกาศเหมือนคุณมานั่งทานอาหารบ้านเพื่อนที่ค่อนข้างบ้าคลั่งเรื่องวัตถุดิบ และอยากให้คุณได้ลองทานอาหารคุณภาพ จากวัตถุดิบที่ดีที่สุด (ที่พวกเขาหาได้) ในราคาที่เข้าถึงได้ ทว่า มีลำดับในการเสิร์ฟเมนูต่าง ๆ ที่ค่อนข้างชัดเจน จึงให้ความรู้สึกเหมือน Fine Dining หน่อย ๆ แต่ที่แน่ ๆ คือ บรรยากาศแบบ Chef Table จริง ๆ ลอยอยู่ในอากาศอย่างชัดเจน กับ รีวิว Food Hub Home ที่พวกเราหยิบมาฝากทุกท่านกันครับ
เหมือนมาทานอาหารบ้านเพื่อนจริง ๆ เพราะที่นี่คือ “บ้าน”
ก่อนอื่นต้องขออธิบายคร่าว ๆ ของคำว่า Chef Table เสียก่อนนะครับ เพราะที่มาที่ไปของคำดังกล่าวนั้น มีจุดเริ่มต้นมาจากการชวนเชิญลูกค้าคนสำคัญ ไปนั่งทานที่บ้านของเชฟเอง และใช้โต๊ะของ Chef ในการรับประทานอาหารจริง ๆ ได้เห็นครัวจริง ๆ ทำให้เห็นจริง ๆ ซึ่งที่นี่ มีบรรยากาศดังกล่าวลอยคละคลุ้งอยู่ ทว่า อาจเรียกว่า Chef Table ได้ไม่เต็มปากนัก เพราะเจ้าของไม่ได้มีอาชีพ หรืออยู่ในวงการอาหาร ทว่า พี่เต๋อ (เจ้าของร้าน) ชื่นชอบและหลงไหลในวัตถุดิบต่าง ๆ ที่เขาได้ประสบพบเจอมาตลอดการทำงานเป็น Private Guide ที่ญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายปี นี่จึงเป็นเหมือนจุดแข็งที่ทำให้ Food Hub Home เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายของการเดินทางมาลิ้มลองถึง ถนนเจิญกรุง 20
บ้าน 2 ชั้น ห้องเล็ก ๆ กับพื้นที่ให้บริการไม่เกิน 6 คน (ณ วันที่ 20 กันยายน 2564) เพียงเดินเลี้ยวเข้าซอยเจริญกรุง 20 มาเล็กน้อย แล้วนับไปหลังที่ 2 ทางซ้าย หากทุกท่านพร้อมแล้ว ตามทีมงาน MenDetails มาได้เลยครับ
หมุดหมายของคนรักเนื้อ
สำหรับตัว MenDetails เองแล้วนั้น เคยมีโอกาสได้ไปลองทานเนื้อ Hida Beef ถึงถิ่น ซึ่งเรียกว่าได้เป็นเนื้อที่ตราตรึงใจมากที่สุดชนิดหนึ่ง และถือเป็น Top 3 จากการประกวดเนื้อระดับประเทศเลยทีเดียว แต่ที่นี่ คุณจะยังได้ลองทานเนื้อสันคอ A5 คุณภาพสูงที่มีความนุ่มเด้งไม่เฉพาะตัว ในรูปแบบ Sukiyaki ทานพร้อมกับไข่ Organic เรียกว่าเข้ากันได้ดีที่สุด นอกจากนั้นแล้วเ เนื้อคุณภาพอันดับ 1 อย่างเนื้อ Kagoshima A5 คุณก็จะได้ลิ้มลองเช่นเดียวกัน ทั้งหมดนี้มาในราคา 1,550.- เท่านั้นครับ (เมนูเนื้อ 1,250.- บวก Exclusive Set อีก 300.-)
ว่ากันด้วยจานสุดประทับใจกันก่อน
ครั้งนี้เราขอเริ่มต้นด้วย “จานที่เราประทับใจ” ก่อนละกัน จานที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง คงหนีไม่พ้น Hida Wagyu A4 ซึ่งถือเป็นเนื้อที่มีรสชาติยอดเยี่ยม ราดด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ชวนให้นึกถึงวันที่ได้ลิ้มลอง Hida Beef ณ เมือง Takayama เลยทีเดีย เนื้อนุ่มกำลังทานครับ ซอสรสชาติดี แต่ก็สามารถใส่เกลือได้ตามใจชอบนะครับ (มีบริการไว้ที่โต๊ะ)
อีกจานที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นก็คือ ข้าวผัดมันเนื้อ พร้อมชิ้นเนื้อ Kagoshima A5 ย่าง เสิร์ฟคู่ไข่ดองและกระเทียมทอด อันนี้เรียกว่าดีจนน่าตกใจ ซึ่งทางร้านอยากให้เราลองทานแบบไม่ใส่อะไรเลยเสียก่อน เพราะอยากให้ได้รับรสของเนื้อ Kagoshima แบบเต็ม ๆ (ตอนที่ทางร้านปรุงสุก ก็ไม่ได้ใส่อะไรเพิ่มเติมเช่นเดียวกัน) กลิ่นหอมเลยครับ ไม่เหมือนกลิ่นเนื้อทั่ว ๆ ไป ใส่เกลือเพิ่ม ทานคู่กับข้าว / ไข่ดอง และกระเทียมทอดในคำเดียว น่าจะฟินแบบสุด ๆ กันไปเลย
จานต่อมาทีเราประทับใจ คงต้องยกให้ Kushi Kutsu จากเมือง Osaka กับไข่หวาน / กุ้ง และเห็ด ที่บรรจงชุบแป้งแล้วทอด แนะนำให้ลองทานไข่หวานดูนะครับ นุ่มละมุนมากจริง ๆ เห็ดที่มาในจานนั้น หอมมาก ๆ ครับ เรียกว่าเป็นเมนูธรรมดา ๆ ประจำเมือง Osaka ที่ดันแปลงมาได้น่าสนใจและละมุนมากกว่าที่คิด
นอกจากนี้ ยังมี Sukiyaki / Tuna Belly และอื่น ๆ อีกมาก
ไม่ได้หมายความว่าเมนูอื่น ๆ จะรสชาติแย่แต่อย่างใด ทว่าจะให้พูดทั้งหมด อาจกลายเป็นบทความรีวิวที่ยาวเกินความจำเป็น อีกทั้ง Mendetails เอง อยากให้ทุกท่านได้ไปลองชิมด้วยตัวเองดูสักครั้ง เพราะด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่าย แต่อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง อย่างเช่น Sukiyaki เอง ทางร้านก็เลือกเสิร์ฟด้วยเนื้อ Wagyu A5 ช่วงสันคอ ที่มีความนุ่มเด้งที่แตกต่างจากส่วนอื่นอย่างชัดเจน อีกจานที่น่าสนใจคงเป็น Ikura Kappa ที่ทางร้านเลือกเอาไข่ปลาแซลมอนจากเมือง Tokushima มาเป็นส่วนประกอบหลักบนจานนี้ ความพิเศษคือ ไข่ปลาจะไม่คาวเลย ใครที่ทานไข่ปลาแซลมอนแล้วรู้สึกคาวเกินไป แนะนำให้ลองครับ
ส่วน Tuna Belly นั้น ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนชอบทูน่าที่ย่างสักเท่าไรนัก เลยรู้สึกเฉย ๆ อยู่สักหน่อย ส่วนใครที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว อาจช่วงความนุ่มของ Tuna Belly จานนี้มากกว่าเราก็เป็นได้ ตบท้ายด้วย French Crepe มาช่วยชีวิต ซึ่งตัวเครปมีความนุ่มสูงมากครับ (เอกลักษณ์แบบเครปฝรั่งเศส) ทานคู่กับซอสวานิลลา เรียกว่าไม่หวานไป ไม่หนักไป ทานง่ายและรสชาติดีมากทีเดียว
บอกหมด เดี๋ยวไม่ว้าวครับ แนะนำให้ลองกันนะ บางเมนูใช้เวลาทำยาวนานมาก ๆ อย่าง Tako Suimono Soup หรือของหวานที่อยู่ใน Exclusive Set ที่มีชื่อว่า Double Formage Cheesecake อันนี้ถือเป็น Cheesecake ที่ไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน
ด้วยมูลค่า Set Beef ที่เริ่มต้นด้วยราคา 1,250.- ถือเป็นราคาที่คุ้มกับวัตถุดิบนะครับ Portion อาจไม่ได้ใหญ่ แต่ทานครบทั้ง Set เชื่อว่ามีอิ่มแน่นอน แต่ถ้าอยากลองทานเนื้อ Kagoshima A5 ซึ่งเราบอกได้คำเดียวว่าประทับใจจริง ๆ ก็แนะนำให้เพิ่มอีก 300.- ครับ รับรองว่าคุ้ม ส่วนใครไม่ทานเนื้อ ก็จะมี Set Seafood ให้เลือกเช่นเดียวกัน ว่าแล้วก็ลองตามลายแทง รีวิว Food Hub Home ของพวกเรากันได้ จองไม่ยาก (แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น) ช่วงนี้มักมีคิวหลุดบ่อย ๆ ครับ แนะนำให้ลองทัก Chat ไปได้เลย