วัตถุดิบที่ดี คือหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ร้านอาหารควรคำนึงถึงอยู่เสมอครับ โดยเฉพาะอาหารที่เน้นความเรียบง่ายแบบสไตล์อาหารจากอิตาลี ซึ่งโดยมากจะไม่ใส่เครื่องปรุงมากเกินกว่า 3-4 อย่างในเมนูพาสต้า ยิ่งต้องเน้นที่ความสด สะอาด และคุณภาพดีเป็นที่ตั้ง และนี่คืออีกหนึ่งร้านที่เน้นเรื่อง “เส้นสด” ฉบับ Homemade Pasta ที่คุณอาจเคยได้ยิน แต่ยังไม่เคยได้ลองกับร้านที่มีชื่อว่า Mad Sugar Café ที่วันนี้ MenDetails ขอหยิบมา รีวิว ให้ทุกท่านได้หิวไปพร้อม ๆ กัน สปอยก่อนเลยว่า ถ้าคุณชอบพาสต้าอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ร้านนี้เป็นอีกร้าน ที่ควรมาลอง
ร้านซ่อนตัวอยู่ที่ชั้น 3 บนร้าน Tropic City
ร้าน Mad Sugar Café ตั้งอยู่ชั้น 3 ของตัวอาคารที่ด้านล่างเป็นนร้าน Tropic City บนถนนเจริญกรุง โดยเดินขึ้นจากด้านข้าง วนขึ้นไปชั้น 3 ครับ ถือเป็นร้านที่แอบ ๆ หน่อย ไม่ค่อยเปิดเผยตัวให้เห็นจากด้านนอกสักเท่าไร ซึ่งเหมือนอาศัยการบอกปากต่อปากเป็นหลักนั่นเอง พอเดินขึ้นบันไดมาเรื่อย ๆ จะเห็นป้ายอันใหญ่เขียนว่า Mad Sugar ซึ่งเขียนด้วยมือบนผ้าพิมพ์ลาย เปิดประตูเข้าไป ตัวร้านจะตกแต่งด้วยสีขาวสว่าง เรียกว่าแตกต่างจากด้านนอกอย่างเห็นได้ชัดครับ
เมนูของร้านจะแบ่งตามประเภทของซอสที่ใช้ผัดครับ ได้แก่ Red / White / Green และ Chili หรือผัดพริกนั่นเอง เรียบง่ายมาก ๆ โดยมุ่งเน้นไปที่เส้นสดซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งของตัวร้าน จะเป็น Station ทำแป้ง ซึ่งมีวัตถุดิบต่าง ๆ มากมายวางอยู่บน Counter แบบทำให้เห็นกันไปเลยว่า “ของฉันสดจริง”
เริ่มต้นกันที่เมนูเน้นความสดอย่าง Pesto กันครับ
นอกจากเส้นสดแล้ว ซอส Pesto เอง ก็จำเป็นต้องสดเช่นกัน เพื่อให้ได้รสชาติที่ดี มีความหอมและมันจากน้ำมันมะกอก / ผักโขม / Pine Nuts ซึ่งพอทางร้านยกมาวางบนหน้าเราแล้ว รู้สึกได้เลยครับว่า มันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน กับเมนู Bacon Spinach Pesto (180.-) ที่ใช้เส้นสดของทางร้านทำเอง ผัดกับ Bacon / Spicach / Sweet Basil / มะเขือเทศ และ Cashew Nut โรยหน้าด้วย Pamesan Cheese ขูดหยาบ ๆ ซึ่งรสชาติแรกที่เข้าปาก ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ กับความเบา หอมอ่อน ๆ ของซอส Pesto และ Sweet Basil เข้าคู่กับมะเขือเทศเป็นอย่างมาก เรียบง่าย และไม่รู้สึกเลี่ยนแต่อย่างใด
สำหรับใครที่ไม่ค่อยชอบความเหม็นเขียวของซอส Pesto จากบางร้าน ที่ Mad Sugar น่าจะตอบโจทย์นะครับ เพราะไม่เหม็นเขียวเลยแม้แต่น้อย แถมทานได้เรื่อย ๆ เผลอแป๊บเดียว ทั้งจานก็เริ่มวางเปล่า เหลือไว้เพียงความหอมในปาก ก่อนที่เราจะเปลี่ยนไปจดจ่อที่จานต่อไป
จานถัดมา เรามาลองเป็น Chili Pasta กัน
ให้อ่านชื่อกันก่อนครับ เพราะแค่อ่านชื่อ ก็คงคิดเหมือน ๆ กันว่า จานนี้น่าจะอร่อยแน่นอนกับ Prawn Butter Lemon Chili (280.-) แค่ชื่อที่แจกแจงส่วนผสม ก็ชวนให้อย่างลองชิมยังไงบอกไม่ถูก ซึ่งหน้าตาถือว่า Presentation ดีมากทีเดียว เห็นกุ้งตัวใหญ่ ๆ ที่วางอยู่ในจานแบบเต็ม ๆ ตา ซึ่งจานนี้โดดเด่นด้วยความหอมจากตัวกุ้ง มะเขือเทศ และกระเทียมที่ผัดจนสุกกำลังดี ถึงแม้กลิ่น Lemon จะไม่ค่อยออกมาก็ตาม แต่โดยรวมถือว่าผัดได้ดี และมีความหอมมันที่จัดเต็ม กุ้งตัวใหญ่ถึง 4 ตัว เรียกว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว
เท่านั้นยังไม่พอครับ เรายัง Move ไปสู่จานที่ 3 ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากลองเมนูสุด Classic อย่าง Carbonara กันดูว่า ทางร้านจะทำออกมาเป็นแบบไหน ว่าแล้วก็จัดต่อกับ Bacon Carbonara (220.-) ซึ่งถึงแม้ว่าส่วนผสมจะเขียนชัดครับว่าใส่ Cream ในเมนูนี้ แต่ก็มาลองดูกันครับว่า จะออกมาเลี่ยน หรือมีความข้นที่กลมกล่อมกันแน่
เอาเข้าจริง ถือเป็นเมนูที่ข้นและรสชาติไข่มาเต็ม ๆ ถ้าจะถามว่าขาดอะไร คงเป็น Cheese ที่น่าจะใส่มาอีกนิด ให้ Balance กับกลิ่นไข่อีกสักหน่อย ทว่า รวม ๆ ถือว่าทางร้านทำออกได้ดีมากทีเดียว เรียกได้ว่า ถ้าคุณชอบความเข้มข้นที่นุ่มละมุนแล้วล่ะก็ นี่อาจเป็นร้านที่คุณไม่ควรพลาด
ถ้าให้พูดถึงพาสต้าในไทย จริง ๆ แล้วมีหลากหลายร้านมากนะครับที่ปรุงเส้นพาสต้าได้ดีมาก ๆ แต่ถ้าเป็นพาสต้าเส้นสด ในกรุงเทพฯ อาจมีไม่มากนักครับ ยกตัวอย่างเช่น La Dotta ซึ่งมีประเภทของเส้นพาสต้าให้เลือกมากมาย ทว่า ที่ Mad Sugar Café นี้ อาจไม่มีเส้นหลากหลายให้เลือก อีกทั้งเส้นพาสต้าที่เห็น มีรูปร่างคล้าย ๆ กับเส้นบะหมี่ก๋วยเตี๋ยวไข่ยังไงบอกไม่ถูก (แต่รสชาติไม่เหมือนนะครับ) ดังนั้น ถ้าคุณคาดหวังจะได้ทานพาสต้าเส้นแปลก ๆ จากที่นี่ อาจไม่เป็นอย่างที่หวังนะ แต่หากคาดหวังเรื่องรสชาติเบา ๆ ไลท์ ๆ ทานได้เรื่อย ๆ ที่นี่น่าจะตอบโจทย์ครับ
เอาล่ะ อ่าน รีวิว เรามาถึงตรงนี้ เราเองเชื่อลึก ๆ ว่า คุณน่าจะอยากได้ลองทานร้าน Mad Sugar ตามเราแล้วใช่มั้ยครับ ร้าน Mad Sugar Café ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญกรุง 28 สามารถจอดรถได้ที่หน้าร้าน หรือจอดรถที่ลานจอด ณ บ้านเลขที่ 1 แล้วเดินมาได้เช่นเดียวกัน ว่าแล้วก็ตามไปลองได้เลยครับ