แม้ทิศทางของตลาดรถยนต์ในปีนี้จะไม่ได้เติบโตตามเป้าหมายที่หลายแบรนด์วางไว้นัก แต่ทุกค่ายก็ยังคงพัฒนาและเผยโฉมรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาเป็นตัวเลือกดี ๆ สำหรับทุกคนเสมอ ในส่วนของรถยนต์ที่ซื้อมาขับเองนั้น จะเรียกว่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคล สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2020ค่าย Honda ครองอันดับ 1 ในตลาดส่วนนี้และล่าสุดก็กำลังจะเปิดตัวรถยนต์ Hybrid ภายใต้ชื่อ e:HEV (อี-เอชอีวี) ครับ MenDetails ขอพาทุกคนไปทำความรู้จัก Honda e:TECHNOLOGY ระบบการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใหม่จากฮอนด้า เพื่อเตรียมตัวก่อนยลโฉมรถใหม่กันครับ
ทิศทางของ Honda ในอุตสาหกรรมยานยนต์
ยุคนี้การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้น ถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานของหลายองค์กร ซึ่ง Honda เองก็มี Vision เช่นนั้น ภายในปี 2030 ฮอนด้าตั้งใจดำเนินงานภายใต้การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เพื่อผลักดันให้สังคมก้าวไปสู่การเป็น Carbon-free Society และ Collision-free Society พูดง่าย ๆ คือ ปลอดมลพิษและปลอดอุบัติเหตุ และตั้งเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 2 ใน 3 ของยอดจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าทั่วโลกภายในปีนั้นด้วยครับ
ซึ่งการที่จะพาให้แบรนด์ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ ยนตรกรรมต่าง ๆ ที่ผลิตขึ้นจะต้องมีการลดการสิ้นเปลืองของพลังงาน มีอัตราการปล่อยก๊าซจากตัวเครื่องยนต์ในปริมาณต่ำลง จากอดีตที่รถยนต์ทำงานด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine) หรือก็คือรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงวิ่ง ค่อย ๆ พัฒนามาเป็นระบบขับเคลื่อนแบบผสม เครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้า และแบบใช้ไฟฟ้า 100% แทน เพื่อลดมลพิษทางอากาศ ช่วยประหยัดน้ำมันและอัพเกรดสมรรถนะของรถยนต์ ซึ่งเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าของ Honda นั้น จะถูกเรียกว่า e:TECHNOLOGY ครับ
รู้จักกับ Honda e:TECHNOLOGY
e:TECHNOLOGY เป็นชื่อเรียกเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่คิดค้นโดยค่าย ฮอนด้า เพื่อที่จะนำไปใช้งานกับทุกผลิตภัณฑ์ของฮอนด้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมถึงเครื่องยนต์อเนกประสงค์และเทคโนโลยีในการจัดการพลังต่าง ๆ โดยแบ่ง e:TECHNOLOGY ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
1. ระบบขับเคลื่อนไฮบริด (Hybrid Vehicle) หรือ e:HEV
เป็นการผสานพลังงานลูกผสมของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์สันดาปและแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน จะช่วยเรื่องสมรรถนะการขับที่ดีเยี่ยม แรงบิดและอัตราเร่งที่แรง แต่ก็ยังขับขี่ได้นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน อย่างรุ่น Honda Accord Hybrid เป็นตัวที่ใช้ระบบไฮบริดรุ่นเก่า Sport Hybrid i-MMD แต่หลังจากนี้ระบบไฮบริดชุดใหม่จะถูกเรียกว่า e:HEV ครับ
2. ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Vehicle)
เป็นระบบที่ผสมผสานการทำงานจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้ารองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าจากภายนอกได้ด้วยการเสียบปลั๊ก ทั้งเสียบจากสถานีชาร์จไฟหรือเสียบจากแท่นชาร์จที่ติดตั้งในบ้าน สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้เป็นระยะทางไกลกว่ารถไฮบริดธรรมดา มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับที่ต่ำอย่างรุ่น Honda CR-V PHEV ที่กำลังรอลุ้นนำเข้าเมืองไทย
3.ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (Battery Electric Vehicle)
ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนและมีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์อย่างรุ่น Honda e
4.ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Fuel Cell Vehicle) ใช้พลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงไฮโครเจนในการขับเคลื่อน มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ โดยปล่อยของเสียเป็นน้ำอย่างรุ่น Honda Clarity Fuel Cell
จุดที่น่าสนใจของระบบไฮบริด e:HEV
สรุปแล้ว e:HEV ที่กำลังจะเปิดตัวใหม่นี้ คือ รถยนต์จากค่าย Honda ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริดประสิทธิภาพสูงนั่นเองครับ ซึ่งจากนี้ไปผลิตภัณฑ์ของฮอนด้าทั้งหมดที่ใช้เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง จะมีอักษร e: กำกับอยู่ในชื่อผลิตภัณฑ์
โดยข้อดีของรถยนต์ประเภทไฮบริด ก็จะล้อไปกับเป้าหมายในระยะยาวของฮอนด้าที่ตั้งใจไว้เรื่องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมครับ เนื่องจากระบบไฮบริิดจะใช้น้ำมันจากเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ควบคู่กันไป ฉะนั้นจะสามารถลดมลพิษที่ปล่อยจากตัวรถได้ เพราะมีการเผาไหม้เชื้อเพลิงน้อยลง
และยังช่วยประหยัดน้ำมันเพราะรถไฮบริดสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้ในช่วงออกตัวรถ จังหวะชะลอความเร็ว ขับในอัตราคงที่ความเร็วต่ำอีกด้วย ในช่วงที่รถหยุดนิ่งอยู่กับที่ เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดทำงานทันที จึงทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองต่ำกว่ารถเครื่องยนต์ใช้น้ำมันทั่วไป
Honda City e:HEV ที่กำลังจะเปิดตัวในไทย
รถรุ่นแรกของฮอนด้าในบ้านเราที่ใช้ระบบ Honda e:TECHNOLOGY ตัวใหม่นี้ คือ Honda City e:HEV 2021 ไฮบริดคาร์ประสิทธิภาพสูงตัวแรกของฮอนด้าที่จะเปิดตัวในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ครับ
ส่วนในฝั่งตลาดยุโรปก่อนหน้านี้มีเปิดตัว Honda Jazz Generation 4 ไปแล้ว เป็น e:HEV เช่นกัน
สำหรับ Honda City e:HEV ถือเป็นครั้งแรกในตลาดประเทศไทยที่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ Full-hybrid ลงในรถระดับ ECO Car และ B-Segment ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร มีอัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 9.4 วินาที มีมาตรวัดดีไซน์ใหม่พร้อมหน้าจอ MID 7 นิ้ว ระบบเบรกมือไฟฟ้าและระบบช่วยชะลอความเร็็วพวงมาลัย และคาดว่ามีระบบ Honda Sensing ด้วย
ถือว่า Honda เป็นค่ายรถที่พัฒนาไปในทิศทางที่ตัวเองตั้งเป้าหมายไว้ สำหรับ e:TECHNOLOGY เทคโนโลยีไฟฟ้าจากฮอนด้านี้ คาดว่าเราจะได้มีโอกาสเห็นในผลิตภัณฑ์ตัวต่อไปในอนาคตเพิ่มอีกครับ และสำหรับรายละเอียดอย่างเป็นทางการทั้งหมดของ Honda City e:HEV ต้องรอติดตามไปพร้อมกันครับ