ทุกครั้งที่คุณใส่เสื้อผ้า คุณก็ต้องซักเพื่อทำความสะอาดถูกมั้ยครับ บ่อยครั้งที่เสื้อผ้าตัวโปรดดันหดหรือออกมาไม่เหมือนตอนซื้อใหม่ๆ หลังจากซักเพียงครั้งเดียว จึงเป็นคำถามที่น่าสนใจว่า “คุณพอจะรู้หรือไม่ว่า เสื้อตัวโปรดของคุณควรซักแบบไหน” เพราะเสื้อผ้าแต่ละตัว ชุดแต่ละชุดนั้น ทำมาจากใยผ้าที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้มีการดูแลรักษาที่แตกต่างกันออกไป เสื้อผ้าแต่ละตัวจึงจำเป็นต้องมีป้ายสัญลักษณ์เล็กๆ ไว้คอยแนะนำเรื่องการทำความสะอาดนั่นเอง ฉะนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า สัญลักษณ์ที่ติดอยู่บนเสื้อผ้านั้นมีความสำคัญอย่างไรบ้าง
-นี่คือสัญลักษณ์ต่างๆ ที่จะปรากฏบน Care Label บนเสื้อของคุณ-
เชื่อได้เลยว่า เวลาเราสวมใส่เสื้อผ้านั้น น้อยคนที่จะสังเกตป้ายหรือสัญลักษณ์ที่ติดอยู่ตรงคอหรือตรงมุมเล็กๆ ตามเสื้อและกางเกง คราวนี้เราลองมาสังเกตกันใหม่นะครับ ลองสังเกตดีๆ แล้วจะได้รู้ว่าป้ายเล็กๆ มันมีดีกว่าที่คิด และป้ายเล็กๆ ที่เราพูดถึงนั้น มีชื่อว่า Laundry symbols หรือ Care Label ที่บอกเกี่ยวกับขนาดผ้า ชนิดของผ้า การดูแลรักษา และการทำความสะอาด เพื่อที่เราจะได้ดูแลและทำความสะอาดเสื้อผ้าได้อย่างถูกวิธี และยังเป็นการถนอมเสื้อผ้า ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยาวนานมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้เราขอแบ่งหมวดหมู่เป็น … หมวด ได้แก่ การซัก / การฟอกขาว / การซักแห้ง / การอบแห้ง การตาก และการรีด บอกแล้วว่าป้ายเล็กๆ ดังกล่าว มีความสำคัญมากจริงๆ นะครับ ใครยังไม่พลิกดู รีบกลับไปหยิบเสื้อตัวโปรดมาดูด่วนๆ ไม่แน่ คุณอาจกำลังทำร้ายเสื้อของคุณอยู่ก็เป็นได้
การซักเสื้อผ้า
ถึงแม้ว่าสัญลักษณ์จะมีมากมายชวนให้งงงวย แต่เชื่อเถอะว่าสัญลักษณ์เหล่านี้มีความสำคัญกับเสื้อผ้าของคุณอย่างมาก งั้นเราไปดูสัญลักษณ์แรกกันเลยกับ การซัก รู้หรือไม่ว่า การซักนั้นมีหลากหลายรูปแบบ หากซักผิดวิธี อาจทำผ้าหด ผ้ายืด เปลี่ยนทรงโดยไม่รู้ตัวนะครับ
-การซักจริงๆ มีหลากหลายมากกว่านี้นะครับ แต่นี่คือสัญลักษณ์ที่มักพบเจอได้บ่อย สิ่งที่ควรจำสำหรับสัญลักษณ์เหล่านี้ หลักๆ คือ ซักเครื่องหรือซักมือ และผ้าตัวไหนห้ามซัก-
การใช้สารฟอกขาว
เมื่อซักผ้าเสร็จแล้ว เรามาต่อกันด้วย การฟอกขาว ซึ่งสัญลักษณ์นี้ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะผ้าแต่ละชนิดนั้นไม่สามารถใช้ร่วมกับสารฟอกขาวได้ เนื่องจากอาจไปทำลายโครงสร้างของเนื้อผ้า ทำให้ผ้านั้นเสียหายและมีอายุการใช้งานที่น้อยลง ที่สำคัญหากซักผิดทำเสื้อตัวโปรดพัง อาจต้องเสียเงินซื้อใหม่แบบไม่จำเป็น
-อันนี้ก็สำคัญครับ ควรดูให้ดีๆ เรื่องสารฟอกขาว-
การซักแห้ง
เนื่องจากผ้าบางชนิดนั้นเป็นผ้าที่ต้องการการดูแลรักษาเป็นพิเศษ การซักแห้ง จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำความสะอาดคราบสกปรกบนเสื้อผ้าได้ แต่ก็ต้องดูให้ดีครับ เพราะผ้าบางชนิดก็ไม่สามารถที่จะซักแห้งได้เช่นเดียวกัน (ออกจะยุ่งยากสักนิด)
-หลายคนอาจคิดว่า การซักแห้งน่าจะเป็นวิธีถนอมผ้าที่ดีที่สุด แต่สำหรับผ้าบางชนิด อาจเป็นการทำร้ายเส้นใยมากกว่าจะเป็นการรักษาก็เป็นได้-
การอบแห้ง
การอบแห้ง ข้อนี้สำคัญเช่นกัน เพราะผ้าบางชนิดนั้นมีวิธีการอบแห้งที่แตกต่างกันออกไป บางชนิดอบแห้งได้ ส่วนบางชนิดไม่ควรอบแห้ง รวมไปจนถึงอุณหภูมิที่มีผลต่อคุณภาพเส้นใยหลังจากอบ ดังนั้นก่อนจะอบแห้งก็ควรที่จะเชคและตรวจสอบ มองที่สัญลักษณ์ให้ดีก่อนเสมอ
-เสื้อผ้าบางชนิด หากอบด้วยอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม เสื้อดังกล่าวจะหดลงอย่างเห็นได้ชัด-
การตากผ้า
เริ่มไม่เชื่อแล้วใช่มั้ยครับ Care Label จะลงรายละเอียดจนถึงเรื่องการตากผ้าเลยทีเดียว แต่เชื่อเราเถอะครับว่า เสื้อผ้าบางชนิดนั้น ต้องการการดูแลไปจนถึงการตากผ้าเลยทีเดียว เนื่องจากการตากผ้าที่ถูกวิธี จะช่วยให้โครงสร้างยังคงรูปอยู่ในลักษณะที่สมบูรณ์เพียงพอต่อการใช้งานที่ยาวนานนั่นเอง
-เจ้า Care Label นี่ละเอียดสุดๆ จริงๆ-
การรีดผ้า
และสุดท้าย การรีดผ้า กระบวนการสุดท้ายก่อนเก็บเสื้อเข้าตู้ สำหรับสัญลักษณ์นี้เราอาจจะเห็นกันจนคุ้นชินแล้ว แต่หากมองให้ดีๆ แต่ละภาพจะมีจุดที่ไม่เหมือนกันและมีความหมายแตกต่างกันออกไป ก่อนรีดก็ควรระมัดระวัง หากผ้าที่ซื้อมานั้นเป็นผ้าที่ต้องรีดด้วยไฟอ่อน แต่เรากลับรีดด้วยอุณหภูมิไฟสูงสุด ก็อาจทำให้ผ้านั้นไหม้หรือเสียหาย แย่สุดคือนำมาใช้งานไม่ได้นั่นเอง
-ผ้าคุณภาพสูงอย่างเช่น ลินิน / ไหม /เส้นใยขนสัตว์ บางครั้งต้องการการดูแลอย่างดี หากรีดผิดวิธีก็อาจทำให้ตัวผ้าแปรสภาพได้-
ได้ทำความรู้จักกับสัญลักษณ์กันไปแล้ว ต่อไปเวลาซักผ้ารีดผ้า ตากผ้า ก็อย่าลืมสังเกตป้ายเล็กๆ กันให้ดีนะครับ นอกจากจะช่วยดูแลรักษาเสื้อผ้าให้ใช้ได้นานแล้ว เมื่อถึงเวลาจำเป็นเช่นต้องไปส่งเสื้อแฟนไปซัก คุณอาจช่วยอธิบายเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี้ให้แฟนคุณรู้ได้ด้วย หล่อแบบมีความรู้ ก็ดูดีไปอีกแบบนะครับ