หากพูดถึงประเภทนาฬิกา ที่ผู้ชายหลายคนอยากได้มาครอบครองเป็นเจ้าของ เชื่อว่า นาฬิกา chronograph หรือ นาฬิกาจับเวลา น่าจะเป็นนาฬิกาที่หลายคนนึกถึง เพราะความซับซ้อนของกลไก ความน่าหลงใหลในการจับเวลา ความสวยงามในการออกแบบนาฬิกาแต่ละเรือน รวมถึงยังสะท้อนไลฟ์สไตล์ ความชอบ รวมถึงทำให้เราดูดีขึ้นด้วย
แต่ทุกท่านทราบหรือไม่ว่ากว่าจะมาเป็นนาฬิกาจับเวลาอย่างทุกวันนี้นาฬิกา chronograph มีจุดเริ่มต้นอย่างไร และปัจจุบันนาฬิกาจับเวลามีแบ่งออกหลัก ๆ ได้กี่ประเภท ในครั้งนี้ MenDetails ขอพาทุกท่านเดินทางไปหาคำตอบร่วมกับเรา ย้อนไปดูการเดินทางของนาฬิกาจับเวลา จากจุดเริ่มต้นสู่การเป็นนาฬิกาข้อมือในทุกวันนี้ว่ามีเส้นทางเป็นอย่างไรครับ
จากกีฬาแข่งม้าในฝรั่งเศส สู่ฟังก์ชันยอดนิยมในปัจจุบัน
นาฬิกาจับเวลาที่เราใช้ปัจจุบัน ไม่ได้มีจุดเริ่มต้นมาจากสมัยโบราณอย่างที่หลายคนคาดเดา เพราะมันเพิ่งกำเนิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 เท่านั้น โดยเป็นผลงานของชายชาวฝรั่งเศส ชื่อ Louis Moinet ศาสตราจารย์ด้านปราณีตศิลป์แห่งพิพิธภัณฑ์ Louvre ผลิตขึ้นมาในปี 1816 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้กับเครื่องมือทางดาราศาสตร์ ในขณะที่นาฬิกาจับเวลาที่ผลิตเพื่อใช้งานทั่วไปและวางขายในตลาดจริง ๆ เริ่มต้นในปี 1821 จากฝีมือของชายฝรั่งเศสชื่อ Nicolas Mathieu Rieussec หนึ่งในช่างทำนาฬิกาประจำราชสำนัก
ในยุคนั้นเป็นช่วงที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 (Louis XVIII) กำลังครองราชย์อยู่ พระองค์ทรงโปรดปรานกีฬาแข่งม้ามาก และอยากทราบว่าการแข่งแต่ละครั้งใช้เวลานานเท่าไหร่ จึงให้ Nicolas Mathieu Rieussec ไปคิดค้นนาฬิกาที่ใช้จับเวลามาจนเกิดเป็นนาฬิกา Chronograph เรือนแรก เขานำผลงานไปต่อ Academy of Sciences ของฝรั่งเศสเพื่อขอยื่นจดสิทธิบัตร ทำให้นาฬิกาจับเวลาถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการในที่สุด
หลังจากที่ term ของคำว่า Chronograph เริ่มเป็นที่รู้จัก เหล่าช่างทำนาฬิกาทั่วยุโรปก็เริ่มให้ความสนใจนาฬิกาชนิดนี้ และเริ่มทำการพัฒนากลไกของมันให้ดีและแม่นยำยิ่งขึ้น รวมไปถึงเปลี่ยนรูปแบบของนาฬิกา จากแบบเดิมเป็นนาฬิกาที่บรรจุอยู่ในกล้องไม้หรู ต้องใช้หมึกในการมาร์คจุดจับเวลา ก็กลายเป็นนาฬิกาที่ไม่ต้องใช้หมึก ก่อนจะพัฒนาเป็น Pocket Watch ในลำดับถัดมา
เมื่อเข้าสู่ต้นศตวรรษที่ 20 นาฬิกาจับเวลาได้รับความนิยมอย่างมากในหลายสายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักบิน ทหาร ไปจนถึงนักกีฬา นักแข่งม้า นักแข่งรถ ล้วนต้องการนาฬิกาจับเวลาที่สามารถพกพาได้สะดวก ไม่ต้องคอยหยิบออกมาดูเหมือน Pocket Watch ทำให้แบรนด์นาฬิกาต่าง ๆ แข่งกันพัฒนานาฬิกาข้อมือ Chronograph ที่ไม่ใช่แค่จับเวลาอย่างเดียว แต่ต้องบอกเวลาได้ด้วย
โดย Longines คือเจ้าแรกทำสำเร็จในปี 1913 และจากนั้นเป็นต้นมา แบรนด์นาฬิกาทุกค่ายในตลาด ก็หันมาพัฒนานาฬิกาข้อมือ Chronograph รวมถึงฟังก์ชันใหม่ ๆ ในการจับเวลา และในปี 1969 นาฬิกา Automatic Chronograph เรือนแรกก็ถือกำเนิดขึ้น จากความร่วมมือของผู้ผลิตนาฬิกา Heuer, Breitling, Buren และ Hamilton ร่วมกับ Dubois-Depraz ผู้เชี่ยวชาญด้านกลไกในการพัฒนากลไก Caliber 11 ทำให้เกิดเป็นนาฬิกาที่เรียกว่า Chronomatic หลังจากนั้นนาฬิกาจับเวลาก็กลายเป็นหนึ่งในฟังก์ชันคู่นาฬิกาข้อมือที่ผู้ชายอยากมีไว้ครอบครองจนถึงปัจจุบัน
ประเภทย่อยของ นาฬิกา Chronograph
หลายคนอาจเข้าใจว่านาฬิกาจับเวลา น่าจะมีแค่ฟังก์ชั่นจับเวลาโดยการกดปุ่ม ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่สำหรับเหล่าผู้รู้และผู้รักในนาฬิกาทั้งหลาย จะเถียงขาดใจเลยว่าไม่เหมือนกัน เพราะมันมีรายละเอียดในการใช้งานหรือการจับเวลาไม่เหมือนกัน MenDetails ขอยกตัวอย่างนาฬิกา Chronograph 3 ประเภทหลัก ๆ ให้ทุกท่านได้ทราบว่า มันมีชื่อเรียกว่าอะไรและแตกต่างกันอย่างไร
นาฬิกา Chronograph ทั่วไป
นี่น่าจะเป็นประเภทของนาฬิกา Chronograph ที่เราพบเห็นได้บ่อยที่สุด นาฬิกาจะมีหน้าปัดจับเวลาแยกและปุ่มสำหรับกดจับเวลา ซึ่งหน้าปัดจับเวลาของนาฬิกามีตั้งแต่หน้าปัดเดียวที่พบเห็นได้ในนาฬิกายุคเก่า ไปจนถึงแบบสามหน้าปัด แถมในปัจจุบันแบรนด์นาฬิกาไม่ได้ใส่แค่ฟังก์ชันจับเวลาอย่างเดียว แต่ยังใส่ฟังก์ชั่นอื่น ๆ อย่างการบอกวันเดือนปีหรือบอกข้างขึ้นข้างแรมลงไปด้วย
หน้าปัดจับเวลาจะมีทั้งจับเวลา 1 นาที 30 นาที และ 1 ชั่วโมงครับ ในปัจจุบันที่เราเห็นก็จะมีทั้งสามหน้าปัดครบในเรือนเดียว
Flyback chronograph
นาฬิกา Flyback Chronograph เป็นเหมือนนาฬิกาขั้นกว่าของ Chronograph ปกติ เพราะการออกแบบที่มีความซับซ้อนกว่า นอกจากจับเวลาได้แล้ว เรายังสามารถ restart กลับไปจุดเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องกดปุ่มเพื่อหยุดจับเวลา ซึ่งเปรียบเสมือนการ Flyback บินกลับไปจุดเริ่มต้น
Rattrapante Chronograph
Rattrapante เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า เสี้ยววินาที (Split-second) ซึ่งนาฬิกาจับเวลาแบบนี้ สามารถเรียกว่า Split-second Chronograph หรือ Double Chronograph ก็ได้
สาเหตุที่เรียกแบบนี้ เพราะนาฬิกา Rattrapante มีกลไกจับเวลาแยกกันเป็นสองกลไก เพื่อให้จับเวลาแยกกัน มีบ่อยครั้งที่นาฬิกาประเภทนี้ถูกจำสลับกับนาฬิกา Flyback chronograph ครับ
นาฬิกาจับเวลากับการใช้งาน
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา น่าจะทำให้ทุกท่านเข้าใจและเห็นภาพของนาฬิกา Chronograph มากขึ้น ว่ามีความเป็นมาอย่างไร แบ่งประเภทย่อย ๆ ออกได้เป็นอะไรบ้าง แต่หลายคนอาจจะมีคำถามว่า ในชีวิตประจำวันที่ไม่ได้มีความจำเป็นต้องจับเวลา นาฬิกาจับเวลาจะมีประโยชน์อย่างไร
สำหรับคนที่ไม่ใช่นักกีฬา นักแข่ง นักบิน หรือทหารที่ต้องใช้งานการจับเวลาเพื่อฝึกซ้อม หรือเพื่อการคำนวนต่าง ๆ แล้ว คำตอบจะเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์และแฟชั่นครับ อย่างที่เราพูดเสมอว่านาฬิกาเป็นเครื่องประดับที่สามารถบ่งบอกตัวตน ความชอบ รสนิยม ไปจนถึงสไตล์ของผู้สวมใส่ได้ นาฬิกาจับเวลาก็เป็นเช่นนั้น นอกจากเรื่องดีไซน์ความสวยงามแล้ว มันยังมีประวัติศาสตร์หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของนาฬิกาเรือนนั้น ๆ ซ่อนอยู่ด้วย
ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาจับเวลาที่ MenDetails ชื่นชอบ อย่าง OMEGA Speedmaster, Hamilton Intra-Matic Chronograph H หรือ Rolex Cosmograph ‘Daytona’ ล้วนบ่งบอกตัวตนของผู้สวมใส่ รวมถึงเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจทั้งสิ้น นาฬิกาจับเวลาจึงไม่จำเป็นต้องนำมาใส่เพื่อใช้จับเวลาเสมอไปครับ
ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่เราอยากให้ทุกท่านได้รู้เกี่ยวกับนาฬิกา Chronograph และหวังว่าใครที่ไม่เคยสนใจนาฬิกาประเภทนี้เลย จะเริ่มเกิดความสนใจกับมันมากขึ้น ส่วนใครที่ชื่นชอบอยู่แล้ว ก็จะได้เห็นเรื่องราวการเดินทางก่อนที่มันจะมาอยู่บนข้อมือของเราอย่างทุกวันนี้ครับ