MenDetails
  • Home
  • Style
  • Women
  • Life
  • Gadgets
  • Money
  • Video
  • Contact Us
  • User Agreement
  • Advertising
Facebook
Twitter
Instagram
YouTube
MenDetails
MenDetails
  • Home
  • Style
  • Women
  • Life
  • Gadgets
  • Money
  • Video
  • Contact Us
  • Advertising

MDs’ LIFE | บางทีคุณอาจจะถือสมาร์ทโฟนที่หนักที่สุดในโลกอยู่ก็เป็นได้

Total
23
Shares
23
0
0

คงพูดได้เต็มปากว่าสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ติดต่อสื่อสารที่สำคัญต่อทุกคนมาก ถ้าเผลอลืมทิ้งไว้ที่บ้านหนึ่งวัน อาจทำงานต่อไม่ได้เลยทีเดียวครับ แล้วทราบไหมว่าสมาร์ทโฟนที่หนักที่สุดในโลกไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย อาจเป็นเจ้าเครื่องในมือที่คุณกำลังถืออยู่นั่นแหละ เพราะเกิดจาก ท่าถือสมาร์ทโฟน ที่ไม่ถูกต้อง

photo : forbes.com

ทำไมเราถึงพูดแบบนั้น? เพราะถ้าคุณ ถือสมาร์ทโฟน ผิดท่า คอและบ่าจะได้รับน้ำหนักราวๆ 27 กิโลกรัมเลยทีเดียว ถ้าจะพูดให้เห็นภาพ แค่เล่นมือถือก็สามารถทำให้คอของคุณได้รับผลเหมือนมีเด็กคนหนึ่งขี่คออยู่ตลอดทั้งวัน ในเมื่อการใช้สมาร์ทโฟนเป็นเรื่องสำคัญและขาดไม่ได้ งั้นมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน และ ท่าถือสมาร์ทโฟน ให้ถูกต้องกันดีกว่าครับ


เมื่อไหร่ที่สมาร์ทโฟนในมือของคุณเป็นเครื่องที่หนักที่สุดในโลก?

photo : esquire.com

คำตอบ คือ เมื่อร่างกายของคุณเสี่ยงต่อการเป็น Text Neck Syndrome ครับ เป็นอาการเจ็บตามกล้ามเนื้อบริเวณ คอ บ่าและไหล่ หากรุนแรงอาจเป็นความเสื่อมของหมอนรองกระดูกได้ ยิ่งคุณก้มหน้าเล่นสมาร์ทโฟนมากเท่าไหร่ ก็จะมีแรงกด (pressure) บริเวณหลังคอมากขึ้นเท่านั้น

photo : renegadetribune.com

หากคุณก้มลงไป 15 องศา คอจะได้รับน้ำหนักราว 12 กิโลกรัม ถ้าก้มลงไปอีกเป็น 30 องศา จะเท่ากับได้รับน้ำหนักราว 18 กิโลกรัม และถ้าเพิ่มเป็น 45 องศา จะได้รับน้ำหนักราว  22 กิโลกรัม ส่วน ท่าถือสมาร์ทโฟน ที่แย่ที่สุด ซึ่งคนส่วนใหญ่เป็นกัน คือ ก้มลงถึง 60 องศา ซึ่งคอจะรับน้ำหนักไปถึง 27 กิโลกรัมเลยทีเดียว


สังเกตสัญญาณอื่นๆ จากร่างกายที่เตือนว่าใช้สมาร์ทโฟนมากไป

-กระพริบตาบ่อยเพราะตาแห้ง ตาล้า-

เดี๋ยวนี้การติดต่อเรื่องงาน หรือจดข้อมูลสำคัญต่างๆ ก็ล้วนอยู่บนสมาร์ทโฟนหมด บางคนถึงกับทำงานผ่านมือถือ ฉะนั้นการหลีกเลี่ยงหรือลดการใช้งานคงทำได้ยาก จนร่างกายเริ่มแสดงอาการบางอย่าง ดวงตาจะเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบไวที่สุดครับ เมื่อใช้งานสมาร์ทโฟนนานเกินไป จะรู้สึกปวดตา ตาแห้งหรือมีอาการเมื่อยล้า  ซึ่งไม่แปลกเลยครับที่รู้สึกแบบนี้ เพราะหากเทียบกับการอ่านหนังสือแล้ว คนเรามักถือสมาร์ทโฟนใกล้ระยะสายตามากกว่า แม้ว่าความขนาดของตัวอักษรจะไม่แตกต่างจากหนังสือก็ตาม  

photo : alobacsi.com

ปกติระยะที่คนเราถือหนังสืออ่าน มักจะห่างจากสายตาราว 14 นิ้ว แต่ถ้าเป็นโทรศัพท์ จะถือห่างจากสายตาราว 6-10 นิ้วเท่านั้น ผลที่เกิดขึ้น จึงมีอาการตาแห้งและปวดตา จนต้องกระพริบตาหรือนวดตาบ่อย

-ปวดมือและง่ามนิ้วมือ-

ถ้าอยู่กับสมาร์ทโฟนเป็นระยะเวลาติดต่อกันนานเกินไป ทั้งพิมพ์ข้อความเยอะและกดไถหน้าจอมาก จะทำให้คุณรู้สึกปวดมือได้ ส่วนใหญ่มักจะรู้สึกปวดมากๆ ช่วงนิ้วโป้งและนิ้วชี้ เพราะเกิดจาก ท่าถือสมาร์ทโฟน นิ้วโป้งอยู่บนจอ ส่วนนิ้วอื่นอยู่รองด้านหลัง 

photo : arlingtonortho.com

 บางคนอาจปวดนิ้วก้อยด้านในเพราะชอบใช้นิ้วก้อยรองโทรศัพท์ไว้ ในระยะยาวต้องระวังเส้นเอ็นอักเสบ จนเกิดอาการบวมและกลายเป็นโรคนิ้วล็อคครับ


ปรับพฤติกรรมท่าเล่นมือถือให้ถูกต้อง

ประโยคสำคัญที่คุณต้องท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจ และค่อยๆ ปรับเปลี่ยนกันไป คือ Bring your phone to face, not face to phone หมายถึงว่า ต้องดึงสมาร์ทโฟนขึ้นมาให้อยู่ในระดับใกล้กับใบหน้า ไม่ใช่ก้มหน้าจนสายตาจะลงไปติดกับสมาร์ทโฟน หากคุณอยู่ใน ท่าที่ไม่ได้ก้มหน้าลง (0 องศา) และใช้สายตากดลงไปมองจอแทน คอจะรับน้ำหนักราว 5 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งถือว่าดีต่อร่างกายที่สุดแล้วครับ

ท่าถือสมาร์ทโฟน

 หากรู้สึกเมื่อยแขนที่ต้องควบคุมโทรศัพท์ด้วยแขนข้างเดียว ก็ใช้แขนอีกข้างหนึ่งรองใต้ศอกเพื่อรับน้ำหนักเอาไว้ได้ครับ

photo : blog.societyinsurance.com

ช่วงเวลาที่พักจากการใช้สมาร์ทโฟนก็รู้จักบริหารมือบ้าง โดยสามารถทำได้หลายวิธีครับ จะใช้วิธีกำมือและแบไปเรื่อยๆ ก็ได้ หรือสะบัดมือ หรือค่อยๆ ดึงนิ้วมือทั้งห้าเบาๆ ก็ได้เช่นกัน


รู้จักพักสายตาบ้าง

แก้ปัญหาเรื่องสายตาง่ายๆ ก็คือรู้จักจำกัดเวลาการใช้งานและพักสายตาบ้างนั่นแหละครับ แต่เราขอแนะนำให้ ใช้กฎ 20-20-20 ในการใช้งานโทรศัพท์ จำไว้เป็นเทคนิคจะได้ช่วยให้ปรับตัวได้ง่ายขึ้น เริ่มจากใช้สมาร์ทโฟนเพียง 20 นาทีแล้วพักสายตา 20 วินาที โดยมองออกไปไกลๆ ตัวราว 20 ฟุต (เทียบแล้วราว 6 เมตร)

photo : allaboutvision.com

 ก็คือ ให้มองออกไปไกลๆตัว ถ้าอยู่ในห้องก็ให้มองออกไปยังวิวด้านนอก เมื่อทำบ่อยจนเป็นนิสัย จะเป็นการถนอมสายตาได้ แต่ถ้าตาแห้งมากๆ ก็ต้องหยอดน้ำตาเทียมบ้างครับ

อย่างที่เคยบอกไปกับเรื่องการดูแลตัวเองเสมอครับ การป้องกันปัญหาก่อนจะเกิด ย่อมง่ายกว่ามานั่งรักษาอะไรที่เกิดไปแล้ว ฉะนั้นก่อนที่คุณจะเป็นโรคต่างกายภาพต่างๆ ที่เกิดจากการใช้งานสมาร์ทโฟนที่ผิดท่า หนักและนานเกินไป ก็มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านั้นกันก่อนดีกว่า

Total
23
Shares
Share 23
Tweet 0
Share 0
Related Topics
  • MDs LIFE
  • ท่าถือสมาร์ทโฟน
  • ท่าถือสมาร์ทโฟนที่ถูกต้อง
  • ท่าถือโทรศัพท์ที่ถูกต้อง
  • สมาร์ทโฟน
  • เล่นโทรศัพท์แล้วปวดตา
  • เล่นโทรศัพท์แล้วปวดมือ
  • โทรศัพท์มือถือ
Previous Article

MDs’ FAVORITES | Pronto x Mister Freedom “Californian” กางเกงยีนส์ เอวสูงผ้า LHT สุด Limited

View Post
Next Article

MDs’ FOOD | อีกหนึ่ง ร้านพาสต้า Homemade ที่ Gump Ari กับ Mama Pasta

View Post
You May Also Like
View Post

MDs’ STYLE | แบรนด์ Anderson & Sheppard หนึ่งในห้องเสื้อที่โด่งดังที่สุดในย่าน Savile Row

View Post

MDs’ INTERVIEW | Still working! วลีติดปากของ คุณ Kikuo Ibe กว่าจะมาเป็น G-SHOCK กับการทดสอบความทนทานเกือบ 200 รายการ

View Post

MDs’ LIFE | 5 นิสัยเสีย ที่จริง ๆ แล้วอาจไม่ได้แย่ และดีกับเรามากกว่าที่คิด

หนัง LGBTQ+
View Post

MDs’ LIFE | ฉลองเดือน Pride Month กับ 5 หนัง LGBTQ+ ที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางเพศอันสวยงาม

View Post

MDs’ LIFE | ชวนมารู้จัก New York City Cocktail เครื่องดื่มที่ถูกตั้งชื่อตามเขตทั้ง 5 ของ NYC

View Post

MDs’ LIFE | ประโยชน์ของการ นอนกลางวัน การงีบสั้น ๆ ให้พร้อมลุยกับกิจกรรมช่วงบ่ายได้ดีขึ้น

View Post

MDs’ LIFE | รู้จัก Apéritif กับ Digestif เครื่องดื่มก่อน – หลังอาหารในวัฒนธรรมการกินของยุโรป

View Post

MDs’ STYLE | แนะนำ 3 ชุด แต่งตัวไปงานแต่งงาน กับงานที่จัดในโรงแรม หรือ Formal Venue

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Featured
  • MDs’ STYLE | แบรนด์ Anderson & Sheppard หนึ่งในห้องเสื้อที่โด่งดังที่สุดในย่าน Savile Row

    View Post
  • MDs’ INTERVIEW | Still working! วลีติดปากของ คุณ Kikuo Ibe กว่าจะมาเป็น G-SHOCK กับการทดสอบความทนทานเกือบ 200 รายการ

    View Post
  • MDs’ LIFE | 5 นิสัยเสีย ที่จริง ๆ แล้วอาจไม่ได้แย่ และดีกับเรามากกว่าที่คิด

    View Post
  • หนัง LGBTQ+

    MDs’ LIFE | ฉลองเดือน Pride Month กับ 5 หนัง LGBTQ+ ที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางเพศอันสวยงาม

    View Post
  • MDs’ LIFE | ชวนมารู้จัก New York City Cocktail เครื่องดื่มที่ถูกตั้งชื่อตามเขตทั้ง 5 ของ NYC

    View Post
Social Links
hydroflask.co.th
MenDetails Instagram
  • 1
    MDs’ LIFE | เมื่อเราไปเยือนร้านเนื้อที่แจ่มที่สุดอย่าง New York Steakhouse ที่ JW Marriott
  • 2
    MDs’ STYLE | ทำไมเราถึงเรียกรองเท้าผ้าใบว่า ‘Sneakers’?
  • 3
    MDs’ FAVORITES | The Missoni x adidas Ultraboost ลาย Multi-Color คือสีสำหรับ Summer นี้
  • 4
    MDs’ VDO | งานนี้มีตายกันไปข้างหนึ่ง นี่คือ Teaser งานชกระหว่าง Mayweather VS McGregor
  • 5
    MDs’ FAVORITES | Gramicci Chambray Pants อีกหนึ่ง กางเกง ขายาวรับหน้าร้อน แนว Casual Sartorial
  • 6
    MDs’ SUIT | อรรถาธิบาย 2 สูทสไตล์อิตาลี Florentine & Neapolitan “เพราะคล้าย แต่ไม่เหมือน”
  • 7
    MDs’ FAVORITES | Nike Air Max Day กับรองเท้า 8 รุ่นที่จะวางขาย
  • 8
    MDs’ FITNESS | ปรับเปลี่ยน วิธีฝึกวิดพื้น ธรรมดาๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแบบไม่ธรรมดา
  • 9
    MDs’ REVIEW | Chrome Bags กับรุ่น Night Bravo 2.0 เดินทางที่มืดแค่ไหนก็หายห่วง
  • 10
    MDs’ FAVORITES | หนังรักอกหัก ที่จะทำให้เราเข้าใจความรักมากขึ้น สำหรับเทศกาลวาเลนไทน์นี้
MenDetails
  • Contact Us
  • User Agreement
  • Advertising
BE A BETTER MAN

Input your search keywords and press Enter.