เชื่อว่าผู้ชายไทยหลายคนไม่ได้มีสไตล์การแต่งกายที่ชัดเจนของตัวเองมากนัก และยังคงตามหาสไตล์ที่ใช่เพื่อให้ Dress up แล้วออกมาดูดีที่สุด วันนี้ MenDetails มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณคุณากร เดชานุภาพ หรือ ต้า Borrom เจ้าของร้านตัดสูท Borrom ในซอยสุขุมวิท 61 กับเรื่องราวของคำแนะนำจากประสบการณ์ส่วนตัว สำหรับการตามหาสไตล์ที่ใช่ของแต่ละคน ด้วยความเชื่อที่ว่าผู้ชายทุกคนสามารถเป็นคนที่ดูดีได้ เราขอหยิบประเด็นที่น่าสนใจนี้มาถ่ายทอดให้ทุกคนได้อ่านกันในซีรีส์ Men in Details ครั้งนี้
เส้นทางที่เริ่มต้นจากความสนใจในการตัดเสื้อ
จุดเริ่มต้นบนเส้นทาง Classic Menswear ของคุณต้า คงต้องย้อนกลับไปราว 2 ทศวรรษที่แล้ว เริ่มมาจากการที่คุณต้าเป็นคนที่ชอบตัดเสื้อเองและชอบตัดมาตั้งแต่สมัยยังไม่เข้าทำงาน คุณต้าเล่าว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เขาเป็นคนที่ใส่เสื้อผ้าแบบ Ready-to-wear ออกมาไม่ค่อยสวย เนื่องจากรูปร่างไม่ใช่แนวผู้ชายไทยทั่วไป ประกอบกับอีกส่วนหนึ่งเกิดจากความหลงใหลในเส้นสายของเสื้อผ้าและชุดสูท เขามักจะไปซื้อผ้าเป็นผืน ๆ มาตัดเสื้อของตัวเอง เพราะชอบความรู้สึกของการได้ตัดเย็บและออกแบบเสื้อผ้า สิ่งที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าจึงผูกพันกับคุณต้ามานาน
ตามความฝันและการเรียนรู้วิถี Classic menswear
เมื่อคุณต้าเรียนจบและเข้าทำงาน ความสนใจในด้านนี้ก็ยังไม่หายไป จนถึงจุดหนึ่งที่เขาคิดว่าคงไม่ทำงานประจำไปตลอด ประกอบกับไม่ค่อยมีความสุขกับงานที่ทำอยู่ ณ ขณะนั้นนัก “จะให้ผมมาทำงานประจำแบบนี้ไปตลอดจนอายุเยอะ ๆ แล้วค่อยเริ่มธุรกิจก็ไม่ใช่ ตอนนั้นเรายังมีเวลา รีบออกมาทำเลยดีกว่า ดีกว่าพอแก่แล้วทำไม่ไหว”
พอคิดได้เช่นนั้น คุณต้าจึงลาออกจากงานประจำแล้วเดินทางตามความฝันในเรื่องที่เขาสนใจ นั่นก็คือ เส้นทางของเสื้อผ้า เริ่มจากการเดินทางไปเรียนตัดสูทถึงอังกฤษ เพราะอยากรู้ว่าเสื้อผ้าที่ดีจริง ๆ แล้ว เขามีวิธีการตัดอย่างไร เป็นการเพิ่มพูดความรู้ในเรื่องของการตัดเสื้อผ้า และ Classic menswear รวมถึงยังเป็นการฝึกฝีมือทำให้สามารถสร้างสรรค์เสื้อผ้าได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อกลับมาไทยก็เริ่มตัดสูทขาย หาสไตล์การออกแบบของตัวเอง ปรับนั่นปรับนี่ไปเรื่อย ๆ จนค้นพบสไตล์ที่ชื่นชอบว่าคล้ายกับสไตล์ของยุค 1930s ซึ่งเป็นยุคสมัยที่ดีที่สุดยุคหนึ่งของสูทก็ว่าได้ นอกจากจะเป็นสไตล์การตัดสูทที่ถนัดจนแทบจะเป็นลายเซ็นแล้ว มันยังกลายเป็นสไตล์การแต่งตัวที่เขาสวมใส่ ที่มีกลิ่นอายความคลาสสิกจากยุค 1930s ปนอยู่ด้วย
ตัวอย่างชุดที่คุณต้าสวมใส่มาพูดคุยกับเราในวันนี้ก็มีกลิ่นอายความคลาสสิกซ่อนอยู่นิด ๆ ผสมกับความ Casual หน่อย ๆ แต่มองออกมาแล้วดูดีมีสไตล์
- เสื้อแจ็คเกตสีงาช้างของ Borrom แบบ Unconstruction ที่ลองทำเล่น ๆ ช่วงโควิด
- เสื้อเชิ้ต Oxford สีเขียวอ่อนของ Borrom
- กางเกงยีนส์ Levi ที่ซื้อจากญี่ปุ่น
- รองเท้าหนังสีน้ำตาลซื้อจาก Florence
“สำหรับผมสีที่ค่อนข้างอ่อนเป็นสีที่พิเศษ อย่างสีขาวหรืองาช้าง มันเป็นอะไรที่เอาไปใส่กับอะไรก็ทำให้สีนั้นพิเศษขึ้น เหมือนที่วันนี้ผมหยิบแจ็คเก็ตสีงาช้างมาใส่กับเสื้อผ้าเชิ้ตสีเขียวอ่อนธรรมดา ๆ กับกางเกงยีนส์ของผม ก็ทำให้รู้สึกว่าวันนี้พิเศษขึ้น หรือบางทีผมอาจจะใส่เสื้อสีน้ำเงิน กับกางเกงสีสว่าง อาจจะทำให้ทุกอย่างดูพิเศษขึ้น อาจเสริมด้วย Pocket square แต่ไม่ต้องใส่ตลอด อย่างวันนี้เป็นวันสบาย ๆ ผมก็ไม่ได้ใส่” คุณต้าอธิบายเพิ่มเติมถึงการเลือกใส่ชุดสีอ่อนในวันนี้
เลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วมั่นใจ คือการเริ่มต้นที่น่าลงทุน
จากประสบการณ์ทำงานในเส้นทาง Classic Menswear คุณต้ากล่าวว่า “เสื้อผ้าเหมือนกับ Cocktail ที่เมื่อเราเอาแอลกอฮอล์แต่ละตัวมาผสมกัน มันก็เกิดเป็นเครื่องดื่มใหม่ ๆ ที่ให้ความรู้สึกและรสชาติที่ต่างกัน เหมือนกันกับเสื้อผ้าที่ตัวมันเองจะไม่ได้ไปเปลี่ยนคนคนนั้นโดยสมบูรณ์ แต่มันจะเป็นส่วนที่ไปผสมผสานกันทำให้กลมกลืน กลายเป็นสไตล์ประจำตัวของคนคนนั้น” นั่นจึงเกิดเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในการเริ่มตามหาสไตล์ของตัวเอง
ส่วนใครที่กำลังเริ่มมองหาเสื้อผ้าที่เข้ากับสไตล์หรือตัวตนของตัวเอง ใส่แล้วเสริมลุคให้ดูดี พร้อมจะเริ่มลงทุนไปกับมันแล้ว ในขั้นเริ่มต้นคุณต้าแนะนำว่าให้เราเริ่มต้นจากการหาเสื้อผ้าที่เราใส่แล้วรู้สึก “มั่นใจ” ใส่แล้วรู้สึกตัวเองหล่อ เมื่อเราหาสไตล์หรือเสื้อผ้าลักษณะนั้นเจอแล้ว เท่ากับว่าเจอสิ่งที่เราจะลงทุนกับมันได้ ต่อมา เราต้องรู้จัก Right Fit ว่าอันไหนคือฟิตติ้งที่ดีและถูกต้องกับสัดส่วนของร่างกายเรา เมื่อทั้งสองอย่างมารวมกัน ทั้งความมั่นใจและเสื้อผ้าที่พอดี ทำให้เวลาเราใส่แล้วเราจะรู้สึกว่าเสื้อผ้านั้นเข้ากับเรา ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและยังสร้างความประทับใจให้คนอื่นที่มองเราด้วย
ในเรื่องของเครื่องแต่งกายหรือเครื่องประดับ คุณต้าเตือนว่า “ไม่ควรใส่เยอะจนเกินไป ถ้าสมมติว่าเราใส่ทุกอย่างที่เรามีทั้งเนกไท, Pocket Square ,Cufflinks เต็มไปหมด มันจะดูรกตา ดูหนักเกินไป” ดังนั้นเวลาเลือกใส่เครื่องประดับ รวมไปถึงแหวน นาฬิกาก็ไม่ควรใส่จนดูเยอะเกินไป
“เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เราเองก็มีการตัดสินคนอื่นจากภายนอกเหมือนกัน ว่าคนนั้นหล่อ คนนั้นสวย แล้วเราไม่คิดเหรอว่าคนอื่นเขาก็มองเราจากภายนอกเหมือนกัน นี่ไม่ใช่เรื่องของการสร้างภาพ แต่เป็นเรื่องของการสร้างความประทับใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและเป็นสิ่งที่ผู้ชายควรลงทุน”
ส่วนผสมสำคัญในการหาสไตล์ของตัวเอง
ผู้ชายไทยหลายคนอาจจะมีปัญหากับการตามหาสไตล์ที่ใช่ของตัวเอง เพราะถ้าเทียบกับทางฝั่งตะวันตกหรือประเทศฝั่งตะวันออกอย่าง เกาหลี ญี่ปุ่นแล้ว ผู้ชายไทยไม่ได้มีสไตล์ที่ชัดเจนขนาดนั้น และมีไม่น้อยที่มักแต่ตามกระแสนิยม ช่วงไหนอะไรกำลังมาก็แต่งตาม ๆ กันไป เราจึงถามความเห็นและคำแนะนำจากคุณต้า เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ชาย (หรือแม้แต่ผู้หญิง) ที่อ่านบทความนี้อยู่และกำลังค้นหาสไตล์ที่เป็นตัวของตัวเอง
“คิดว่าอย่างแรกต้องดู Character ของตัวเองก่อนว่าแบบไหนที่เราสบายใจกับมัน เราสามารถใส่มันได้” คุณต้าตอบกลับมาทันที ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า “ลองคิดดูเล่น ๆ ถ้าให้ผมไปแต่งตัว Streetwear หรือ Hip Hop แต่ผมเป็นคนที่มี Lifestyle อีกแบบ ผมลุคแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ ความชอบผมแบบนี้ คิดว่าไปแต่งสไตล์นั้นมันจะดูแปลกไหมครับ ผมคิดว่าผมไม่สามารถนำเสนอสไตล์แบบนั้นได้ ถ้า Lifestyle มันไม่ใช่ แล้วเราไปแต่งตัวอีกแบบหนึ่ง ทุกอย่างมันจะเหมือนดูผิดที่ผิดทางแล้วเวลาเราใส่ชุดนั้นเราจะรู้สึกว่าตัวแข็ง จะเดินจะนั่งก็ดูแข็งไปหมด”
“ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น Lifestyle เพลงที่ฟัง หนังที่ดู ทุกอย่างมันหล่อหลอมให้เกิดเป็นสไตล์ของแต่ละคน คำตอบในการหาสไตล์ของแต่ละคนก็คงต้องดูจาก Lifestyle ว่าเป็นยังไงแล้วค่อยแปลงมันออกมาให้เป็นสไตล์ แล้วหาอ้างอิงว่าสไตล์แบบนี้เขาแต่งตัวกันยังไง”
“อย่างที่สองคือ ต้องดูกาลเทศะในที่ที่ไป เพราะบางทีสไตล์อาจตอบไม่ได้ทุกอย่าง สมมุติว่าเราชอบแต่ง Street แต่เราไปงานศพ จะมาใส่ขาสั้น ใส่เสื้อกล้าม มันก็ไม่ใช่ ดังนั้นสำหรับผมการหาสไตล์ คือ หา Lifestyle บวกกับกาลเทศะไม่ว่าจะเป็นโอกาส หรือสถานที่ที่เราไป” คุณต้าสรุปเช่นนั้น ทั้งหมดนี้คือส่วนผสมของ Cocktail ที่คุณค้าพูดถึงในตอนแรก ที่เมื่อทุกอย่างมาผสมจนลงตัวจะเกิดความกลมกล่อมกลายเป็นสไตล์ประจำตัวของเรานั่นเองครับ
ทุกคนสามารถเป็น Handsome guys ได้เสมอ
ก่อนที่จะจากกันในครั้งนี้ MenDetails ได้ทิ้งคำถามสุดท้ายให้กับคุณต้า ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากบอกกับคุณผู้อ่านทุกคนที่อยากพัฒนาตัวเองให้ดูดีขึ้นและกำลังอ่านบทความของเราอยู่ตอนนี้ ซึ่งคุณต้าได้ปิดท้ายอย่างน่าประทับใจว่า
“อยากให้ผู้ชายข้ามขีดจำกัดของเรื่องทางกายภาพไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่างหรือความสูง ข้ามไปให้หมด เพราะผมเชื่อว่า Good looking guy are born to be แต่การเป็น Handsome guys เราทุกคนสามารถทำมันได้ เพราะฉะนั้นผมอยากให้เชื่อว่าเราทุกคนเป็น Handsome guys ได้ อยากให้ทุกคนมั่นใจในแบบที่เราเป็น อย่าไปจับผิดเรื่องกายภาพ แต่ให้ถามตัวเองเสมอเวลาแต่งตัวว่า เราหล่อหรือยัง”
นี่คือเส้นทางจากความชื่นชอบในเรื่องการตัดเสื้อผ้าสู่การเดินตามความฝันจนเปิดร้านสูทของตัวเอง รวมถึงค้นหาสไตล์ที่ใช่พบจากประสบการณ์การเดินทางของตัวเอง ที่คุณ ต้า Borrom อยากบอกต่อให้ผู้ชายทุกคนที่กำลังตามหาสไตล์ของตัวเองครับ ลองสำรวจ Lifestyle ของตัวเองเพื่อหาสไตล์ที่ซ่อนอยู่ในสิ่งเหล่านั้นและเลือกลงทุนกับมัน คุณต้ามีความเชื่อว่าทุกคนสามารถเป็นผู้ชายที่ดูดีได้ และ MenDetails ก็เชื่อเช่นนั้นเหมือนกัน หวังว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยหรือเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ