ภาพยนตร์ และ ซีรีส์เกาหลี เป็นอุตสาหกรรมบันเทิงที่ใหญ่และมีการพัฒนาให้เจ๋งมากขึ้นทุกปีครับ ภายใต้ความสนุก ความลุ้นระทึกนั้นล้วนแฝงแนวคิดอะไรบางอย่างที่น่าสนใจอยู่เสมอ สำหรับต้นปี 2020 นี้ MenDetails.com มีหนังและ ซีรีส์เกาหลี ที่สะท้อนเรื่องชนชั้นทางสังคมมาแนะนำให้ได้ชมครับ คุณจะได้เห็นถึงความต่างของชนชั้น อำนาจของคนมีเงิน โอกาสในชีวิตที่มีมากกว่าของคนระดับสูง และข้อคิดจากเรื่องราวเหล่านี้ ที่จะช่วยให้คุณดำเนินชีวิตได้ดีขึ้นครับ
***Spoiler Alert เนื้อหาบทความด้านล่างนี้จะมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วนของหนังและซีรี่ส์เกาหลีตามชื่อที่ปรากฎ หากไม่ต้องการทราบก่อนเพราะเกรงจะเสียอรรถรสในการชม ขอให้กรุณาหยุดอ่านก่อนนะครับ***
1. Parasite (2019)
ภาพยนตร์เกาหลีที่คว้ารางวัล Oscars 2020 ไปถึงสี่รางวัล เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ไม่ได้ดำเนินเรื่องด้วยภาษาอังกฤษ แต่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของเวทีนี้ไปครองครับ Parasite มีชื่อในภาษาไทย คือ “ชนชั้นปรสิต”
ชนชั้นปรสิต เป็นเรื่องราวของครอบครัวคิม ที่มีฐานะยากจน อาศัยอยู่ในบ้านพักแบบกึ่งใต้ดิน (คนเกาหลี เรียกว่าพันจีฮา) ณ ใจกลางกรุงโซล ทุกอย่างเริ่มต้นจากลูกชาย ‘คิมกีวู’ ได้รับโอกาสเข้าไปเป็นติวเตอร์ให้กับลูกสาวของครอบครัวมหาเศรษฐีตระกูลพัค เจ้าของคฤหาสน์ใหญ่ จากนั้นเขาเริ่มเห็นโอกาสในการดึงคนในครอบครัวของตัวเองเข้ามาทำงานด้วยกัน
คิมกีวู ดึงตัวน้องสาวมาเป็นครูสอนศิลปะให้ลูกชายคนเล็กของตระกูลพัค หลังจากนั้นสองพี่น้องก็ร่วมกันวางแผนหาทางไล่คนขับรถและแม่บ้านออกไปเพื่อให้พ่อและแม่ของตนได้เข้ามาทำงานแทน ครอบครัวคิมได้แทรกตัวเข้าไปสำเร็จและวางแผนอนาคตที่จะได้เกาะครอบครัวพัคไประยะยาว แต่ความต้องการไม่เคยสิ้นสุดง่าย ๆ เมื่อครอบครัวพัคมีแผนไปตั้งแคมป์และจะไม่อยู่บ้านหนึ่งวัน เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็ค่อย ๆ ทยอยเกิดขึ้น แผนที่คิดว่าราบรื่นกลับสะดุดลงทีละจุด
ข้อคิดจาก Parasite
ในขณะที่ดูหนังเรื่องนี้ คงมีหลายคนเอาใจช่วยให้ครอบครัวคิมถีบตัวเองขึ้นมาจากความลำบากและขัดสน แต่ในขณะเดียวกันก็ถกเถียงกับตัวเองในใจว่าการกระทำผิดอย่างปิดบังข้อมูลตัวตนที่แท้จริง ปลอมแปลงเอกสาร หรือไล่คนที่ไม่มีความผิดออกไปจนพวกเขาตกงาน มันสมควรแล้วหรือที่ครอบครัวคิมจะได้รับโอกาสในการถีบตัวเองขึ้นมา?
สิ่งที่หนังสะท้อนออกมาให้เห็นชัดที่สุด คือ ความต่างของชนชั้น ที่กำหนดให้ทัศนคติ ความคิด การดำเนินชีวิต วิธีการแสดงออก การรับมือกับปัญหาต่าง ๆ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์วันที่ฝนตกหนัก สำหรับครอบครัวพัคเปรียบเหมือนการเปลี่ยนบรรยากาศ ได้นั่งมองฝนอยู่ในห้องนั่งเล่นที่โอ่โถงกว้างใหญ่ ลูกชายคนเล็กเอาเต็นท์ของเล่นออกไปตั้งที่สนามหญ้า ในขณะที่ครอบครัวคิมลืมปิดหน้าต่าง ทำให้น้ำท่วมเข้าไปพังข้าวของในบ้านจนเสียหาย ต้องอพยพไปอยู่รวมกับคนในชุมชนคนอื่น ๆ
ข้อคิดหนึ่งข้อที่นำมาปรับใช้ได้กับชีวิตได้ดี เราขอยกคำพูดของตัวพ่อ คิมกีแท็ก มากล่าว “เพราะชีวิตไม่เคยเป็นไปอย่างที่เราวางแผนเอาไว้” ไม่ได้แปลว่าให้เราไม่วางแผนชีวิตนะครับ แต่มันคือความเผื่อใจ และเข้าใจว่า ต่อให้วางแผนมาดีแค่ไหน รอบคอบเพียงใด มันก็ยังมีโอกาสที่จะผิดจากที่เราตั้งใจไว้ โดยในหนังแฝงเรื่องราวของระบบทุนนิยม และการเมืองมาอย่างแยบยล ถือว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่ทุกคนควรได้ชมจริง ๆ ครับ
2. Itaewon Class (2020)
Itaewon Class หรือชื่อไทย ธุรกิจปิดเกมแค้น เป็น ซีรีส์เกาหลี ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คงมีคนได้เห็นรูปนักแสดงพัคซอจุนกับทรงผมเกาลัดของเขาผ่านตาในโซเชียลมีเดียกันอยู่บ้าง นั่นคือพระเอกของเรื่องนั่นเองครับ
Itaewon Class เป็นเรื่องราวการแก้แค้นและทำตามความฝันของ ‘พัคแซรอย’ ชายหนุ่มที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ยึดมั่นและดำเนินชีวิตที่ตัวเองเชื่อ ในวัยเด็กแซรอยใช้ชีวิตอยู่กับพ่อเพียงแค่สองคน และพ่อเป็นทุกอย่างในชีวิตเขา
จนกระทั่งวันแรกของการเข้าโรงเรียนมัธยมแห่งใหม่ แซรอยได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเพื่อนร่วมห้องที่โดน ‘จางกึนวอน’ ทายาทธุรกิจอาหารที่มีอิทธิพลรังแก เขาไม่คิดว่าตัวเองกระทำผิด แม้จะโดน ‘จางแดฮี’ ประธานบริษัทจางกา (พ่อของกึนวอน) สั่งให้คุกเข่าขอโทษเพื่อที่จะได้ไม่ต้องโดนไล่ออกจากโรงเรียน แซรอยยังคงยืนยันว่าเขาไม่รู้สึกผิดที่ได้ช่วยเหลือคนอื่นเลย เพราะการยืนหยัดในวันนั้น ทำให้แซรอยต้องออกจากโรงเรียน และพ่อของเขาก็ถูกไล่ออกจากตำแหน่งมือขวาของบริษัทจางกา
เขากับพ่อจึงตั้งใจจะเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ และดูแลมันไปด้วยกัน แต่โชคร้ายพ่อของเขาประสบอุบัติเหตุรถชนด้วยฝีมือของจางกึนวอนอีกครั้ง ความลำบากในชีวิตของแซรอยเริ่มต้นจากตรงนั้น เด็กที่เรียนจบแค่มัธยมต้น เข้าคุกไปสามปีจากคดีทำร้ายร่างกาย เขาจะกลายมาเป็นศัตรูตัวฉกาจของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างจางกาได้อย่างไร และจะโค่นล้มคนที่เคยทำให้เขาสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปได้หรือไม่ นั่นแหละครับความตื่นเต้นของซีรีส์เรื่องนี้
ข้อคิดจาก Itaewon Class
จางแดฮี ประธานบริษัทจางกา อุตสาหกรรมอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี มีความเชื่อในธุรกิจว่ามันคือ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก หากไม่อยากถูกกินก็ต้องอยู่จุดสูงสุดในห่วงโซ่อาหารให้ได้ ซึ่งเราจะเห็นได้จากในซีรีส์ แซรอยถูกสะกัดช่องทางการทำมาหากินหลายครั้ง เพราะศัตรูของเขามีอำนาจมากกว่า จนกระทั่งถึงวันที่แซรอยทำให้ร้านอาหารของตัวเองกลายเป็นแฟรนไชส์ชื่อดังจนจดบริษัทขึ้นมาได้ วันนั้นแหละที่เขาจะไม่โดนรังแกอีกต่อไป
เมื่อยิ่งใหญ่ขึ้นก็มีแรงที่จะต่อสู้มากขึ้น ถ้าเอามาปรับกับการใช้ชีวิตเราคงเป็น ต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ จนตำแหน่งหน้าที่การงาน อาชีพพาเราไปในจุดที่สูงขึ้นให้ได้นั่นแหละครับ และที่สำคัญต้องมีเป้าหมายในชีวิตให้ชัดเจน ความมุ่งมั่นเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้เราก้าวไปยังจุดที่เราต้องการจะไป แซรอยต้องการจะเป็นที่หนึ่งในวงการอาหารและล้มบริษัทจางกา เขาก็ต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น
แซรอยค่อย ๆ ขัดเกลาพนักงานในร้าน ทั้งเชฟ พนักงานเสิร์ฟ ผู้จัดการร้าน ที่โดดเด่นกันไปคนละทางจนกลายมาเป็นสมาชิกตั้งต้นของบริษัทในที่สุดครับ
อีกหนึ่งสิ่งในตัวแซรอยที่เราเห็น และควรเอาเป็นแบบอย่าง คือ ให้ความสำคัญกับคนใกล้ตัวและเชื่อใจพวกเขาครับ ไม่มีใครเก่งไปทุกด้านและไม่มีใครเข้มแข็งได้ตลอดเวลา เราต้องมีคนข้าง ๆ มาช่วยเติมเต็มทั้งกำลังกาย กำลังใจไปพร้อม ๆ กัน กว่าที่ร้านทันบัมจะกลายเป็นบริษัท Itaewon Class ต้องผ่านความล้มเหลวมานักต่อนักทีเดียว แต่แซรอยและพวกพ้องไม่เคยยอมแพ้ การทำงานเป็นทีม คือ เรื่องของความไว้วางใจและเชื่อมือกันและกันนั่นแหละครับ
3. Crash Landing on You (2020)
ซีรีส์ที่ได้เรตติ้งสูงในประวัติกาลของช่อง tvN ที่เกาหลีกับ Crash Landing on You ปักหมุดรักฉุกเฉิน เรื่องราวที่ทำให้ใคร ๆ ต่างตกหลุมรักตัวละครที่มีเสน่ห์อย่างผู้กองรีจองฮยอก
ผู้กอง ‘รีจองฮยอก’ เจ้าหน้าที่ทหารยศผู้กองชาวเกาหลีเหนือ ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งติดอยู่บนต้นไม้ ณ พื้นที่เขตปลอดทหาร จนได้พบกับความจริงว่าเธอ คือ ‘ยุนเซรี’ นักธุรกิจสาวจากครอบครัวมหาเศรษฐีชาวเกาหลีใต้ ที่ประสบเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ในขณะที่กำลังทดสอบเครื่องเล่น Paragliding เกิดพายุลูกใหญ่พัดพาเธอมาไกลจากแดนใต้
ตอนแรกรีจองฮยอกตั้งใจจะส่งตัวเธอให้กับทางการ เพราะการที่คนเกาหลีใต้เข้ามาในดินแดนเกาหลีเหนือถือว่าผิดกฏหมายและมีโอกาสกระทบเรื่องความมั่นคงระหว่างประเทศ
แต่กลายเป็นว่า ผู้กองรีจองฮยอก และนายทหารประจำกองอีกสี่คนพยายามช่วยเหลือหาทางส่งตัวเธอกลับเกาหลีใต้อย่างเงียบ ๆ ความช่วยเหลือที่ต้องแลกด้วยความมั่นคงทางหน้าที่การงานและความปลอดภัยในชีวิต ทั้งยังมีเรื่องการตามหาความจริงในการเสียชีวิตของพี่ชายในอดีตไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย
ข้อคิดจาก Crash Landing on You
เมื่อเผชิญกับปัญหา เราจะเห็นว่าสถานะทางสังคมที่แตกต่าง ทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาไม่เหมือนกัน มีครั้งหนึ่งรีจองฮยอกเบิกอาวุธไปโดยไม่แจ้งผู้บัญชาการล่วงหน้า ทำให้เขาถูกจับกุมเข้าคุก เพราะในสายตาของคนตำแหน่งใหญ่กว่า เขาเป็นแค่นายทหารยศผู้กองคนหนึ่งเท่านั้น แต่เมื่อได้ทราบว่าแท้จริงเขาเป็นถึงลูกชายกรมอธิบดีการปกครองของประเทศ จึงทำให้จองฮยอกพ้นผิดในทันที
สำหรับเรื่องชนชั้นทางสังคมที่สะท้อนผ่าน Crash Landing on You ไม่ใช่มุ่งเน้นไปที่เรื่องฐานะ แต่เป็นเรื่องตำแหน่งและอำนาจเสียมากกว่า
และอีกเรื่องหนึ่ง เราจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่ออยู่ให้ถูกที่ ยุนเซรีเคยนำแหวนเพชรวงใหญ่ไปจำนำในตลาด เธอมั่นใจว่าจะได้รับเงินจำนวนมากกลับมา ทว่าเธอกลับได้เงินมาเพียงจำนวนหนึ่งที่พอจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ได้ไม่กี่ชุดเท่านั้น เจ้าของร้านบอกว่าที่นี่ตีมูลค่าของสิ่งของด้วยน้ำหนัก ของที่จะได้รับเงินมากจะเป็นพวกเครื่องหนัง ไม่ใช่แค่แหวนหรือนาฬิกาน้ำหนักเบา คนเราจะกลายเป็นเพชรได้ก็ต้องอยู่กับคนที่รู้คุณค่าและสถานที่ที่เหมาะกับเรา นั่นแหละครับ
4. Vagabond (2019)
Vagabond เจาะแผนลับเครือข่ายนรก ซีรีส์แอคชั่นเกาหลีที่มาแรงในช่วงปลายปี 2019 ซึ่งใช้ทุนสร้างไปกว่า 2.5 หมื่นล้านวอน เพียบพร้อมด้วยนักแสดงมีชื่อ ฝีมือการแสดงสมบทบาท และฉากแอคชั่นมาตรฐานไม่ต่างจากดูหนังฮอลลีวูด
เป็นเรื่องราวของ ‘ชาดัลกอน’ หนุ่มสตันท์แมนที่หาเลี้ยงชีพตัวเองและคอยดูแลหลานชายตัวเล็กอีกหนึ่งคน วันหนึ่งหลานชายได้รับเชิญไปเป็นหนึ่งในทีมนักกีฬาเทควันโดเยาวชน เพื่อไปแสดงยังงานฉลองครบรอบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเกาหลีใต้-โมร็อกโก ทว่าในเที่ยวบิน B357 ที่หลานชายเขาเดินทางไปนั้น ได้เกิดโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกขึ้น
ชาดัลกอนเดินทางไปยังโมร็อกโกเพื่อรับศพหลานชาย ทว่าเมื่อถึงสนามบินที่โมร็อกโก ดัลกอนกลับพบชายคนหนึ่งซึ่งอยู่บนเที่ยวบินเดียวกับหลานชายเขาด้วย เหตุเครื่องบินตกที่คนบนเครื่องน่าจะเสียชีวิตกันไปหมดแล้ว ทำไมยังมีคนรอดเหลืออยู่?หลักฐานแปลก ๆ ที่นำไปสู่การค้นหาความจริงของเหตุเครื่องบินตกจะเปลี่ยนชีวิตสตันท์แมนคนนี้ไปตลอดกาล เขามี ‘โกแฮรี’ เจ้าหน้าที่ในหน่วยความมั่นคงแห่งชาติ (NIS) คอยช่วยเหลือ ทำให้รู้ว่าเหตุการณ์เครื่องบินตกมีอยู่ชักใยอยู่เบื้องหลัง เป็นโศกอนาฏกรรมที่พัวพันถึงเรื่องการคอร์รัปชั่นระดับชาติ
ข้อคิดจาก Vagabond
คุณจะได้เห็นถึงอำนาจของเงินและความน่ากลัวของจิตใจคนที่ไม่อาจหยั่งถึงได้ในโลกของธุรกิจมีคนจำนวนหนึ่งยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าขององค์กรใหญ่อย่างไดนามิก ซิสเทม, จอห์นแอนด์มาร์ค หรือรัฐบาลที่เลือกดำเนินแผนการบางอย่างเพื่อให้พวกของตนได้ประโยชน์สูงสุด หากการค้นหาหรือเปิดเผยความจริงบางอย่างไปขัดขวางคนใหญ่โตเข้า อาจอันตรายถึงชีวิต แต่ในวันหนึ่งที่ประชาชนสามารถรวมตัวเป็นกลุ่มคนได้ อำนาจเล็ก ๆ นั้นก็จะมีพลังมากพอต่อกรกับผู้มีอำนาจในที่สุด
ถ้าเปรียบเป็นชีวิตการทำงาน คงเป็นการบอกกลาย ๆ ว่าเจ้านาย ผู้บริหารระดับสูง คนระดับหัวหน้าในบริษัท ต้องมีความชอบธรรม สร้างสรรค์ผลงานที่ดี และพาพนักงานไปในทิศทางที่ถูกต้องนั่นแหละครับ และเป็นเครื่องเตือนใจกับทุกคนเรื่องการทุจริตว่าไม่ว่าแผนการจะแยบยลแค่ไหน ก็มีช่องโหว่และมีคนสามารถจะเปิดโปงได้เสมอ จงใช้ชีวิตในเส้นทางที่ถูกต้องและโปร่งใสจะปลอดภัยที่สุด
หนังและซีรีส์เกาหลีเรื่องที่เรานำมาแนะนำ เป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศเกาหลีและประเทศไทยเลยครับ แม้พล็อตเรื่อง และปมหลักของเรื่องจะแตกต่างกัน แต่ทั้ง 4 เรื่องที่หยิบมาล้วนสะท้อนเรื่องชนชั้นทางสังคมให้ได้เห็นทั้งสิ้น ซึ่งแต่ละคนอาจตีความประเด็นสำคัญจากแต่ละเรื่องต่างกันไป แต่เราแน่ใจว่าคุณจะได้ข้อคิดที่นำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตได้ ทั้งในแง่การทำงาน การมองเส้นทางและจังหวะชีวิต วิธีการรับมือกับคน ที่สำคัญคือรับรองว่าสนุกจนไม่รู้สึกเสียเวลาอย่างแน่นอนครับ