1. Burpees
Burpees เป็นท่าการออกกำลังกายที่ทำง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆเสริมเพิ่มเติมทั้งสิ้น ทำให้สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาที่เราต้องการ Burpees เป็นการออกกำลังกายที่ผสมผสานทั้ง Cardio และ Body weight training ให้คุณได้บริหารร่างกายและกล้ามเนื้อแทบจะทุกส่วนเลยทีเดียว ใครที่ยังไม่รู้ว่าท่า Burpees ต้องทำยังไง ลองดูคลิบด้านล่างนี้ก่อนได้เลยครับ
เห็นไหมครับว่าคนที่สาธิตเขาน่ารักและมีรูปร่างที่ดีขนาดไหน….. แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นครับ เพราะสิ่งสำคัญที่เรากำลังพูดถึงก็คือท่าออกกำลังกายที่เรียกว่า Burpees นี้ คือท่าที่ดูจากวีดีโอแล้วเหมือนจะทำได้ง่ายๆ พื้นๆ แต่ MenDetails ขอให้คุณลองทำดูครับ เอาแค่สัก 10 ครั้งก่อน แล้วจะรู้ว่าความเหนื่อยสุดๆมันเป็นอย่างไร จากนั้น ลองทำ 10 ครั้งให้ครบ 4 เซ็ท ให้ได้ทุกวันครับ และถ้ารู้สึกว่าไหว วันต่อๆไปก็ค่อยๆเพิ่มจำนวนครั้งในแต่ละเซ็ทให้ถึง 25 ครั้ง ซึ่งพอทำครบ 4 เซ็ทก็จะครบ 100 ครั้งพอดี รับรองว่าคุณจะละลายไขมันในร่างกายได้ดีกว่าออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งแน่นอน
2. เหวี่ยงเชือก (Battle Ropes)
อ่านดูแล้วก็คงจะสงสัยกันใช่ไหมครับว่า กับแค่การเหวี่ยงเชือก มันจะไปเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดีกว่าการวิ่งได้ยังไง แต่นี่มันไม่ใช่เชือกธรรมดาครับ เพราะมันคือเชือก Battle ropes ที่มีไว้ท้าทายร่างกายทุกส่วนของคุณโดยเฉพาะ ลองไปดูวีดีโอสาธิตวิธีการเล่น Battle ropes กันดูนะครับ ว่าเขาเล่นกันอย่างไรบ้าง
นั่นแหละครับท่านผู้ชม! หานาฬิกาจับเวลา ทำให้ครบทั้ง 12 ท่า ท่าละ 1 นาที แค่นี้เหงื่อก็ท่วมตัว หอบแฮ่กๆ หัวใจเต้นแรงรัวๆ และแน่นอนว่า Battle ropes สามารถเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกายคุณได้เพียบเลยทีเดียว
(ของแถม) วิธีการทำ Battle ropes ใช้เองที่บ้าน
3. ปั่นจักรยาน
จักรยานถือเป็นกีฬาที่กำลังฮอตฮิต ได้รับความนิยมมากๆในเมืองไทย คนที่รักสุขภาพก็เริ่มหันมาปั่นจักรยานมากขึ้น การปั่นจักรยานสร้างข้อดีหลายอย่างให้ร่างกาย พัฒนาเรื่องความฟิต การหายใจ และกล้ามเนื้อขา อีกทั้งยังหลีกเลี่ยงการกระแทกตรงส่วนข้อต่อต่างๆของร่างกายได้ดีกว่าการวิ่ง จึงเหมาะอย่างยิ่งที่คนที่มีปัญหาเรื่องข้อต่อต่างๆทั้งที่ข้อเท้า ที่เข่า จะหันมาปั่นจักรยานแทนการวิ่งครับ
อย่างไรก็ตามการปั่นจักรยานที่มุ่งเน้นการเผาผลาญแคลอรี่นั้น จะมานั่งปั่นกินลมไปเรื่อยๆไม่ได้ครับ ต้องการวิธีการปั่นในรูปแบบที่จะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรี่ได้ไวขึ้น โดยการผสมผสานรูปแบบ Interval Training โดยการหานาฬิกามาจับเวลาแล้วทำตามขั้นตอนแบบนี้ครับ
หมายเหตุ : แนะนำให้เป็นการปั่นจักรยานที่อยู่กับที่ จะได้สามารถทำได้ครบขั้นตอนอย่างปลอดภัยครับ
– Warm up ด้วยการปั่นออกแรงแบบธรรมดา เป็นเวลา 5 นาที
– ออกแรงปั่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เป็นเวลา 30 วินาที
– ผ่อนลงเป็นการปั่นแบบธรรมดา 60 วินาที
– กลับไปปั่นให้เร็วที่สุด 30 วินาที
– ทำสลับขั้นตอนข้างต้น 10 รอบ ซึ่งจะใช้เวลานานประมาณ 15 นาที
– Cool down ด้วยการปั่นออกแรงแบบธรรมดา เป็นเวลา 5 นาที
ทั้งหมดใช้เวลารวมกันราว 25 นาที แต่รับรองว่าจะช่วยเผาผลาญพลังงานและไขมันในร่างกายของคุณได้ดีกว่าการวิ่งจ๊อกกิ้งเป็นกิโลๆเลยทีเดียว