MenDetails ได้เคยพูดถึงนาฬิกาประเภท Dress Watch ระบบใช้ถ่าน (Quartz) คุณภาพระดับ Swiss Made จาก Tissot ที่มีชื่อรุ่นว่า ‘Everytime’ กันไปแล้วก่อนหน้านี้ และเราก็ได้รับการสอบถามจากแฟน MenDetails ที่สนใจกันเข้ามาพอสมควรว่า “ดีจริงไหม?” “สวยหรือเปล่า?” และอีกคำถามหนึ่งที่พบบ่อยๆก็คือ “มี Tissot Everytime รุ่นที่เป็นระบบ Automatic ด้วยหรือไม่?”
นาฬิกา ‘Tissot Everytime Swissmatic’
เหมือน Tissot จะอ่านใจสาวกนาฬิการะบบ Automatic ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง มาวันนี้จึงบรรจงสร้าง “Tissot Everytime” ในระบบเดินเข็มแบบขึ้นลานอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้ถ่านขึ้นมา และตั้งชื่อระบบนี้เป็นของตัวเองว่า “Swissmatic” ตอกย้ำนวัตกรรมเฉพาะตัวของ Tissot และเพื่อยืนยันถึงคุณภาพให้สมกับที่เป็นนาฬิการะดับ “Swiss Made” ทุกประการ
งานออกแบบยังคงเหมือนกับ Tissot Everytime ในระบบ Quartz กล่าวคือเน้นความเรียบง่ายเพื่อความสุภาพเป็นหลัก ตัวเรือนทรงกลมตามสไตล์คลาสสิค, หน้าปัดเรียบไม่มีลวดลายให้มากความ และใช้ “ขีด” เป็นสัญลักษณ์บอกเวลาโดยไม่มีตัวเลขให้กินพื้นที่ของหน้าปัด ทำให้รูปแบบโดยรวมดูเนี้ยบอย่างมีสไตล์ ที่ผู้ชายสามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะใส่ไปทำงาน, ไปเที่ยว หรือ นัดเดตกับผู้หญิง Tissot Everytime รุ่นนี้ก็เหมาะอย่างยิ่งครับ ข้อแม้เดียวคืออย่านำไปใช้ในการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมที่สมบุกสมบัน เพราะนาฬิกาแนว Dress Watch แบบนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับกิจกรรมหนักๆนั่นเองครับ
ระบบ Swissmatic ความภาคภูมิใจของ Tissot กับนาฬิกา “ออโต้” เพื่อมหาชน
หากจะพูดถึงจุดเด่นของ ‘Tissot Everytime Swissmatic’ ก็คงจะหนีไม่พ้นระบบเดินเข็มแบบ “Swissmatic” ซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจทีเดียวครับ ระบบเดินเข็มที่เรียกว่า Swissmatic นี้ เริ่มต้นขึ้นจากโครงการร่วมมือกันของสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในโลกนาฬิการะหว่าง Tissot และ Swatch ซึ่งได้ต่อยอดการประกอบตัวเครื่องนาฬิกาในระบบออโต้เมติกจาก Swatch Sistem51 พัฒนาจนกลายมาเป็น Tissot Swissmatic ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น, เดินเข็มได้แม่นยำขึ้น, สำรองพลังงานได้นานสูงสุดถึง 3 วัน หากทิ้งไว้นานเกินไปก็สามารถไขลานนาฬิกาได้เองด้วยการหมุนเม็ดมะยมทวนเข็มนาฬิกาเพื่อการบำรุงรักษานาฬิกาออโต้ให้อยู่กับเราได้นานขึ้นครับ และที่สำคัญ Tissot Everytime Swissmatic รุ่นนี้สามารถถอดประกอบฝาหลังเพื่อซ่อมนาฬิกาได้ ซึ่ง Tissot มีบริการหลังการขายของนาฬิการุ่นนี้ในราคาที่ย่อมเยาไม่ต่างจากนาฬิการะบบควอทซ์อีกด้วยครับ
มาถึงในเรื่องของ “ราคา” กันบ้าง ด้วยความที่ นาฬิกา Tissot Everytime รุ่นนี้ ผลิตและประกอบด้วยบุคลากรและเครื่องจักรในโรงงาน ETA ที่ตั้งอยู่ที่เมือง บงกูร์ค (Boncourt) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ทั้งหมด จนทำให้หลายคนคิดว่ามันต้อง “แพง” แน่นอน แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัยและไฮเทคมากขึ้น ทำให้ Tissot สามารถประกอบกลไก Swissmatic นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในราคาที่ย่อมเยาลงกว่าเดิมมากเลยทีเดียว ส่งผลให้ Tissot รุ่น Everytime เรือนนี้ ทำลายกำแพงความเชื่อที่ว่า “นาฬิกาออโต้ของสวิสมักจะแพง” ลงอย่างราบคาบ และกลายเป็นนาฬิการะบบออโต้เมติก ที่มีราคาสบายกระเป๋าที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ Tissot และผลิตขึ้นมาเพื่อ “มหาชน” โดยแท้
นาฬิกาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับชุดทำงาน office, ชุดสูท และ ชุดทักสิโด้
อย่าหลงเชื่อ James Bond ไปเสียหมดทุกอย่าง เพราะการใส่ Sport Watch สายเหล็กเรือนโต คู่กับชุดสูทเนี้ยบๆนั้น ตามหลักการแล้วถือเป็นสิ่งที่เราไม่ควรทำ ว่าที่จริงในสมัยก่อนหน้านี้ที่เริ่มมีขนบธรรมเนียมการใส่สูทในโลกตะวันตก ผู้ชายยังไม่มีและจะไม่ใส่นาฬิกาข้อมือกับชุดสูทเลยด้วยซ้ำไปครับ แต่มาจนถึงยุคปัจจุบัน นาฬิกาข้อมืออาจเป็นเพียงเครื่องประดับชิ้นเดียวที่ผู้ชายใส่ได้อย่างไม่เคอะเขินเมื่อใส่ชุดสูท ดังนั้นนาฬิกาประเภท Dress Watch จึงถือกำเนิดขึ้นโดยเน้นความบางของตัวเรือน และลูกเล่นที่น้อยกว่า เพื่อความสุภาพและเรียบร้อยแต่หรูหราได้ในเวลาเดียวกัน
และนาฬิกา Tissot Everytime Swissmatic รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์นาฬิกาแนว Dress Watch ที่ผู้ชายต้องการได้แทบทั้งหมดครับ ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายและเน้นความสุภาพบนความมีระดับ กับนาฬิการะบบออโตเมติคที่ผลิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้มาตรฐาน ‘Swiss Made’ หน้าปัดทำจากวัสดุกันรอย Sapphire Crystal ในราคาเริ่มต้นที่ 16,900 ถือได้ว่าครบเครื่องที่สุดเท่าที่เราจะหาได้ในระดับราคานี้แล้วล่ะครับ
ตัวเรือนของ Tissot Everytime Swissmatic ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม. (42 มม. เมื่อวัดรวมเม็ดมะยม) แม้จะดูใหญ่ไปเล็กน้อยสำหรับ Dress Watch ในความเห็นส่วนตัวของเรา แต่สำหรับตลาดใหญ่แล้วนั้น ขนาดนาฬิการะดับนี้ถือว่า “โดนใจ” ผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้มากกว่า อันนี้จึงอยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลจริงๆครับ อีกจุดหนึ่งคือ ความหนาของตัวเรือนที่ 11.6 มม. หรือ 1 ซม.นิดๆ ถือว่าหนาขึ้นเมื่อเทียบกับระบบ Quartz ตัวเก่า แต่ยังไม่หนาเกินไปในมาตรฐานของนาฬิการะบบ Automatic ครับ การใส่ลงในแขนเสื้อเชิ้ตอาจทำได้ยากขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ยากเกินไป และเราก็ยังคงยืนยันว่า “นาฬิกาแบบ Tissot Everytime นี่แหละ ที่เหมาะกับจะใส่กับชุดทำงาน, ชุดสูท และชุดทักสิโด้ มากที่สุดแล้วครับ”
บทสรุป
MenDetails เป็นแฟนตัวยงคนหนึ่งของนาฬิกาแนว Dress Watch และเราก็สนับสนุนให้ผู้ชายทุกคน มีนาฬิกาที่มีคุณภาพดีในแนวของ Dress Watch อย่างน้อย 1 เรือน (ถ้าคุณอดใจไม่ซื้อเรือนที่ 2 และที่ 3 ต่อไปได้นะครับ) ด้วยเหตุผลที่ว่า Dress Watch เป็นนาฬิกาที่สุภาพ และเหมาะที่จะใส่กับ ชุดสูทในวันที่เราต้องการความเรียบร้อยและเป็นทางการ ซึ่ง Tissot รุ่น Everytime ถือเป็นนาฬิกา Dress Watch ในระดับเริ่มต้นที่เราขอแนะนำให้ผู้ชายได้เลือกซื้อหากันครับ อย่าง Tissot Everytime ในระบบ Quartz ที่เราเคยพูดถึงกันไปแล้ว กับราคาเริ่มต้นไม่ถึงหมื่น แถมยังเป็นนาฬิกาที่มีคุณภาพระดับ ‘Swiss Made’ เราจึงอยากเชียร์ให้คุณซื้อ Tissot รุ่นนี้มากกว่าแบรนด์อื่นๆ ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายๆกัน แต่ไม่ได้เป็นนาฬิกาที่ยืนยันคุณภาพจากสวิสแบบเรือนนี้ครับ
ส่วนใครที่กำลังจะขยับเข้าสู่วงการนาฬิกาในระดับที่สูงขึ้น และเริ่มมองหานาฬิการะบบขึ้นลานอัตโนมัติ (Automatic) เรือนแรกเป็นของตัวเอง นาฬิกา Tissot รุ่น Everytime Swissmatic เรือนนี้ก็สามารถตอบสนองคุณได้เช่นกันครับ กับราคาเริ่มต้นเพียงหมื่นกลางๆ ที่จะทำให้คุณได้ใช้นาฬิกาออโตเมติคที่ผลิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ทั้งเรือน ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของ Tissot เลยทีเดียว MenDetails จึงเชื่อว่า Tissot Swissmatic รุ่น Everytime เรือนนี้ จะกลายเป็นประตูบานแรกที่เปิดสู่โลกของนาฬิกาออโตเมติค ที่คลาสสิคมากขึ้น ในระดับราคาที่แพงขึ้นเรื่อยๆ เป็นลำดับต่อไปครับ
ใครที่สนใจ Tissot รุ่น Everytime ทั้งในระบบ Quartz ใช้ถ่าน และระบบ Automatic ขึ้นลานอัตโนมัติ สามารถแวะชมและลองสวมใส่นาฬิกาตัวจริงได้ที่ “ทิสโซต์บูทิกส์” ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกท โทร 02-116-1949 หรือ “ร้านทิสโซต์” ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โทร 02- 613- 1172 และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือไม่ก็คลิกไปดูภาพและข้อมูลเพิ่มเติมกันก่อนที่ www.tissotwatches.com ได้เลยนะครับ