เขียนและเรียบเรียงโดย | พฤหัส
เราได้ติดตามความเคลื่อนไหวของรถรุ่นนี้มาตลอด แล้วก็หวังเหลือเกินว่า Elon Musk ซีอีโอ ของ เทสล่า (Tesla) จะผลิตรุ่นพวงมาลัยขวาแล้วขนเจ้า Tesla Model S คนนี้ขึ้นเรือมาขายในบ้านเราสักที ที่เราคิดแบบนี้ไม่ใช่เพราะว่ามันมีดีไซน์ภายนอกที่งดงามและภายในที่ล้ำสมัย ไม่ใช่เพราะมันมีอัตราเร่งเบาๆ แค่ 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที (นี่มันซุปเปอร์คาร์ดีๆ นี่เอง) แต่เพราะ …
“มันเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า”
เราสามารถพูดอย่างเต็มปากเต็มคำได้ตรงนี้เลยว่า รถพลังงานไฟฟ้าคือ “อนาคต” แต่อนาคตนั้นจะมาเร็วหรือมาช้านั้น มันขึ้นอยู่กับว่าค่ายรถยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย จะขยับตัวลงมาเล่นในตลาดนี้ได้หรือยัง ถ้าพวกเขาพร้อมและลงมือพัฒนาอย่างจริงจังแล้วล่ะก็ รถพลังงานไฟฟ้าจะกลายเป็นก้าวโตๆในอุตสาหกรรมรถยนต์ และมันจะกลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นบนโลกนี้อีกอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
กลับมาที่ Tesla Model S แฟนๆ MenDetails คงเคยผ่านหูผ่านตากันบ้างแล้ว นับตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อปี 2014 มันก็ตกอยู่ในกระแสและกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วทั้งโลกพูดถึงมันตลอดมา และเมื่อเร็วๆ นี้เอง Model S ทุกคัน ไม่ว่าจะจอดอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ มันเพิ่งจะได้รับอัพเกรดซอฟท์แวร์ใหม่จากทาง Tesla ผ่านทาง Wifi และในเช้าวันรุ่งขึ้น มันก็สามารถขับได้เอง โดยที่เราแทบไม่ต้องจับพวงมาลัยเลย เรียกได้ว่า แค่ช่วงเวลาเพียงคืนเดียว Tesla ก็เปลี่ยน Model S ให้กลายเป็นรถแห่งอนาคตได้อย่างสมบูรณ์
ระบบใหม่ของ Model S นี้ ได้ใช้เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่รอบตัวรถ, เรดาร์ด้านหน้า, กล้องหน้า, เครื่องตรวจจับเสียงแบบ อัลตร้าโซนิคระยะยาว 12 ตัว, จีพีเอสอีก 2-3 ตัว รวมไปถึงระบบพวงมาลัย เบรค และคันเร่งไฟฟ้า อุปกรณ์พื้นฐานเหล่านี้ที่ติดตั้งมากับรถตั้งแต่ออกจากโรงงานเมื่อปี 2014 มันถูกติดตั้งมาเพื่อสนับสนุนระบบขับขี่อัตโนมัตินี้แต่แรกแล้ว เพียงแต่ระบบนั้นมาช้าไปสองปี …แค่นั้นเอง
แล้วมันทำอะไรได้บ้าง … มันสามารถประคองตัวให้อยู่ในเลน, เปลี่ยนเลนเมื่อคุณเปิดไฟเลี้ยว, ควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า, สแกนหาช่องว่างที่กว้างพอที่จะจอดรถ และก็จะถอยเข้าช่องจอดให้เราอัตโนมัติ …แต่ทั้งหมดนี่ ก็ไม่ได้เก๋ไก๋เท่าไหร่นัก เพราะไม่ว่า เมอร์เซเดส, วอลโว่, ออดี้ หรือแม้แต่ อาคูร่า (ฮอนด้า) ก็มีอะไรที่คล้ายๆอย่างนี้อยู่แล้ว
แต่เจ้า Model S มันล้ำไปกว่านั้นตรงที่ มันไม่จำเป็นต้องวิ่งตามรถคันข้างหน้า ถ้าหากคุณอยากจะเร่งแซง คุณก็แค่เปิดไฟเลี้ยว มันจะรอจนแน่ใจว่าการเปลี่ยนเลนไปซ้ายหรือขวานั้นทำได้ มันก็จะเปลี่ยนเลนให้ และเร่งความเร็วให้เท่าเดิมตามที่เราได้ตั้งค่าไว้, มันสามารถเบรคจนหยุดเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน หรือถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น มันก็เร่งความเร็วขึ้นเองได้อีกด้วย
ถ้าคุณอยากจะรู้ว่า ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Tesla มันน่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหน ขอให้คลิกดูวีดีโอด้านล่างนี้ได้เลย
อย่างไรก็ตาม คุณจะยังสามารถสนุกกับการขับขี่ เช่น ถ้าบางทีจะมีใครสักคนมาขับรถเฟี้ยวฟ้าวอยู่ข้างๆรถคุณ พยักเพยิดด้วยลีลายียวนคล้าย “ม้าพยศ” หรือ “กระทิงหงุดหงิด” แล้วล่ะก็ คุณก็แค่กระทืบคันเร่งลงไป แล้วก็ปล่อยให้เจ้าพวกนั้นตกตะลึงอยู่ในกระจกมองหลังของคุณ