เมื่อพูดถึงแบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีความเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติระบบกลไกเวลาหลายยุคจากเทคโนโลยีใหม่ที่คิดค้น ไปจนถึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับหลาย ๆ ความสำเร็จของมนุษยชาติ และมีนาฬิการะดับตำนานมากมาย หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ Longines แบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิสที่มีอายุเกือบ 2 ศตวรรษ โดยหนึ่งในกลไกที่ Longines เป็นผู้บุกเบิกก็คือ High-frequency หรือ ระบบความถี่สูง ทำให้นาฬิกาบอกเวลาได้แม่นยำในระดับเสี้ยววินาที และรุ่นที่ถือว่าเป็นตำนานของกลไกนี้ ก็คือ Longines Ultra-Chron ครับ
Longines Ultra-Chron ดั้งเดิมมีอะไรที่น่าสนใจ จน Longines ต้องนำมันกลับมาคืนชีพอีกครั้งในปีนี้ มีอะไรที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นบ้าง รวมไปถึงกลไก High-frequency นั้นดีอย่างไร แม่นยำอย่างไร ทำไมแบรนด์นาฬิกาหลาย ๆ แบรนด์ต้องแข่งกันทำนาฬิกาแบบนี้ในยุคก่อน ในบทความนี้ MenDetails มีคำตอบ แล้วทุกท่านจะได้รู้ว่าทำไมเราถึงคิดว่า Ultra-Chron เรือนนี้เป็นการคืนชีพที่น่าสนใจมาก ๆ
กลไก High-frequency เพื่อการบอกเวลาที่แม่นยำในระดับเสี้ยววินาที
ย้อนกลับไปเมื่อสองสามร้อยปีที่แล้ว การจะประดิษฐ์นาฬิกาที่มีความแม่นยำเที่ยงตรงขึ้นมาได้สักเรือนนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายและต้องใช้ฝีมืออย่างมาก เพราะจะต้องทำมือทั้งหมดทำให้นาฬิกาที่แม้จะหน้าตาเหมือนกัน มาจากช่างคนเดียวกัน ถ้าเก็บงานไม่ละเอียดพอก็อาจจะมีความแม่นยำที่คลาดเคลื่อนได้แม่นในระดับเสี้ยววินาที และเมื่อนำไปใช้งานนาน ๆ จะเริ่มเห็นว่ามันไม่แม่นยำ ยิ่งยุคสมัยเปลี่ยนผ่าน เสี้ยววินาทีก็สามารถสร้างความแตกต่างได้โดยเฉพาะกับการแข่งกีฬา
สำหรับนาฬิกาพกยิ่งต้องใช้ฝีมือเป็นพิเศษเพราะกลไกของมันมีความละเอียดอ่อนและซับซ้อนมาก ในการจะใส่กลไกทั้งหมดลงไป แต่ชายชื่อ John Harrison ก็พิสูจน์ให้โลกเห็นว่ามันสามารถทำได้ตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 18 แต่นั่นยังห่างไกลจากการผลิตนาฬิกาแบบ mass production อยู่หลายขุม เนื่องจากเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวหน้าพอ
เมื่อกาลเวลาล่วงเลยผ่าน เหล่าแบรนด์นาฬิกามากมายเริ่มกลับมาให้ความสนใจกลไกที่สามารถบอกเวลาได้แม่นยำขึ้นอีกครั้ง หนึ่งในนั้นคือ Longines ที่เริ่มทดลองกลไก High-frequency ที่มีความถี่ 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 10 ครั้งต่อ 1 วินาที ในนาฬิกาจับเวลาแบบพกพาของพวกเขาตั้งแต่ปี 1914 และกลไกนี้ของ Longines ถูกนำไปใช้จับเวลาในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรก ๆ ที่เสี้ยววินาทีก็สามารถตัดสินแพ้ชนะได้
กลไกความถี่สูงนี้ ในยุคนั้นการจะผลิตจำนวนมากต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้นใครที่สามารถผลิตนาฬิกาแบบนี้ออกมาจำนวนมากได้แสดงว่ามีความสามารถพร้อมทั้งในเรื่องฝีมือและเทคโนโลยี ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ หันมาวิจัยกลไกความถี่สูงนี้ เมื่อยุคของนาฬิกาข้อมือมาถึง การแข่งขันจึงเริ่มดุเดือดมากยิ่งขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เพื่อนำความเที่ยงตรงสูงสุด กลไกที่ละเอียดซับซ้อนมาอยู่บนนาฬิกาข้อมือที่มีขนาดเล็กให้ได้
Longines Ultra-Chron ตำนานนาฬิกาข้อมือที่เที่ยงตรงที่สุด
เมื่อยุคของนาฬิกาข้อมือมาถึง Longines เป็นผู้บุกเบิกการใช้กลไกความถี่สูงโดยเริ่มนำกลไกมาใส่ในนาฬิกาข้อมือตั้งแต่ปี 1959 และในบรรดานาฬิกาข้อมือที่มีกลไก High-frequency ในยุคนั้น Longines Ultra-Chron เป็นหนึ่งในเรือนเวลาที่โดดเด่นทั้งในแบรนด์เดียวกันและคู่แข่ง ไม่ใช่แค่เพราะมันถูกเคลมจาก Longines ว่ามีความเที่ยงตรงสูงสุดของโลก (ในตอนนั้น) แต่เพราะมันมีดีไซน์แบบ Vintage ที่สวยงามด้วย
Longines Ultra-Chron เปิดตัวครั้งแรกในปี 1967 และเริ่มวางขายในเดือนพฤศจิกายนปีนั้น ชื่อของมันอิงมาจากคำว่า Ultra Chronometer ที่เป็นการรับรองจาก TIMELAB ห้องทดลองอิสระในกรุง Geneva ที่จะทำการทดสอบความแม่นยำของกลไกนาฬิกาภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ ซึ่งการรับรองระดับ Ultra Chronometer เป็นขั้นที่สูงกว่า Chronometer ปกติ มีการทดสอบเป็นเวลา 15 วัน ในระหว่างนั้นจะมีการทดสอบในระดับอุณหภูมิแปรผัน 3 ระดับคือ 8 องศาเซลเซียส, 23 องศาเซลเซียสและ 38 องศาเซลเซียส ที่รับรองว่านาฬิกาเรือนนั้นมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานความแม่นยำที่เคร่งครัดที่สุด ทำให้นาฬิกาที่ได้การรับรองนี้เชื่อถือได้ในเรื่องของความแม่นยำระดับสูง จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่นนั่นเองครับ และในปี 1973 Contrôle officiel suisse des Chronomètres (COSC) สถาบันทดสอบความแม่นยำนาฬิกาสวิสอย่างเป็นทางการก่อตั้งขึ้น นาฬิการุ่นนี้ก็ผ่านการรับรองแบบฉลุยเช่นเดียวกัน ทำให้มันเป็น ULTRA-CHRON Officially Certified Chronometer อย่างแท้จริง
ในช่วงเวลาไล่ ๆ กับที่ Longines Ultra-Chron วางจำหน่าย ก็มีแบรนด์อีกหลายแบรนด์ที่พัฒนากลไกของตัวเองออกมาเช่นเดียวกัน ทำให้ช่วงยุค 60s – 70s กลไกความถี่สูงมีการแข่งขันที่ค่อนข้างดุเดือด และนำมาซึ่งปัญหาของกลไกที่เมื่อทำงานไปนาน ๆ เกิดการเสียดสี ส่งผลต่อความแม่นยำทำให้ต้องส่งซ่อมบ่อย ๆ ทาง Longines จึงแก้ปัญหาด้วยการใช้วิธีการหล่อลื่นแบบแห้งที่ Longines ถึงขั้นต้องเอาไปจดสิทธิบัตร มาช่วยทำให้กลไกทำงานได้อย่างแม่นยำแม้เวลาจะผ่านไปนานหลายปี
แต่กระแสของนาฬิกากลไกความถี่สูงก็อยู่ไม่นานนัก เพราะในช่วงยุค 70s การมาของนาฬิกา quartz ที่มีความแม่นยำและราคาถูกกว่า รวมถึงกลไกอื่น ๆ ทำให้กลไกความถี่สูงเริ่มเสื่อมความนิยมลงไป แต่ Longines Ultra-Chron ที่ทั้งสวยงามและโดดเด่นยังคงครองใจผู้คนในยุคนั้นได้อยู่ ก่อนที่จะปิดฉากตำนานลงไปในเวลาต่อมา โดยทิ้งนาฬิกาหลายรุ่นที่มีความวินเทจ เป็นที่หมายปองของเหล่านักสะสมเอาไว้
Longines Ultra-Chron 2022 ตำนานที่คืนชีพ
ในปีนี้ Longines หยิบนาฬิการะดับตำนานเรือนนี้กลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง และนำมาเสนอให้เข้ากับเทคโนโลยีปัจจุบันมากยิ่งขึ้นแต่ยังไม่ทิ้งกลิ่นอายความวินเทจแสนคลาสสิกที่ครองใจผู้คนในยุคนั้น
Longines Ultra-Chron 2022 นี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Longines Ultra-Chron ปี 1968 นาฬิกาดำน้ำกลไกความถี่สูงเรือนแรก และเป็นรุ่นที่ถือว่าได้รับความนิยมที่สุด โดยหยิบเอาเอกลักษณ์ของเรือนดั้งเดิมมาเพิ่มเติมเทคโนโลยีปัจจุบันเพื่อให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นขอบตัวเรือนแบบหมุนได้ทิศทางเดียวและฝาหลังตัวเรือนแบบขันเกลียวแน่น สามารถการกันน้ำได้ถึง 300 เมตร จากรุ่นดั้งเดิมที่ทำได้แค่ 200 เมตร
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากรุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด คือหน้าปัด 43 มม. ใหญ่ขึ้นจากเดิมที่มีขนาดหน้าปัด 41 มม. แต่ถ้าเทียบดูแล้วอาจไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ต่างกันขนาดนั้น ซึ่งขนาดหน้าปัด 43 มม. ก็เป็นขนาดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันที่เน้นใส่นาฬิกาหน้าปัดใหญ่ และยังสมกับการเป็นนาฬิกาดำน้ำ เพราะมันสามารถมองเห็นหน้าปัดได้ง่ายอีกด้วย เพิ่มความแข็งแรงด้วยกระจกหน้าปัดแซปไฟร์ และเข็มเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova ให้การอ่านเวลาง่ายขึ้นในที่มืด นาฬิกา Longines Ultra-Chron 2022 ยังเอาโลโก้ของ Longines Ultra-Chron รุ่นดั้งเดิมมาสลักไว้ตรงหน้าปัดและฝาหลังเป็นเครื่องยืนยันว่าการบอกว่านี่คือการสานต่อและคืนชีพของตำนานที่บอกเวลาได้อย่างแม่นยำ
สายรัดข้อมือของ Longines Ultra-Chron 2022 มีมาให้เลือกสองแบบ ทั้งสายหนังและสายสตีล ตัวนาฬิกามาพร้อมกล่องไม้ดีไซน์เรียบหรู ที่ด้านในมีสายนาโตสีดำผลิตจากวัสดุรีไซเคิลให้เปลี่ยนอีกหนึ่งเส้น ด้วยดีไซน์และความแม่นยำของมัน ทำให้เราสามารถใส่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ตั้งแต่การออกไปทำงาน จนถึงการใส่ไปเที่ยว ไม่ว่าเราจะเป็นคนทำงานทั่วไป หรือผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาก็ตาม โดยที่มั่นใจได้ว่านี่คือหนี่งในนาฬิการะดับตำนานที่เที่ยงตรงที่สุดที่โลกเคยมีมา ทำให้การกลับมาครั้งนี้ของ Longines Ultra-Chron ยากจะมองข้าม
สำหรับใครสนใจสามารถไปลองสัมผัสด้วยตัวเองที่เคาน์เตอร์ของ Longines ทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Longines.co.th หรือที่ Social Media ต่างๆ ของ Longines
Facebook | facebook.com/Longinesth
Line@ | @Longines_th
Twitter | twitter.com/longines