แต่ละยุคสมัยให้ความสนใจในการพัฒนาจุดเด่นของนาฬิกาแตกต่างกัน นอกจากใช้เพื่อบอกเวลาอย่างเที่ยงตรงแล้วยังมีปัจจัยอื่นที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ความสวยงาม ฟังก์ชั่นการใช้งานที่นำสมัย ความทนทานของตัวเรือนที่สามารถใส่ติดตัวไปได้ทุกที่ โดยนาฬิกาที่เป็นเรือนแรกของโลกในแต่ละยุคแต่ละแบบ ล้วนมีประวัติความเป็นมาและประสิทธิภาพระดับ premium ที่น่าสนใจ ซึ่งวันนี้ MenDetails.com จะพาสุภาพบุรษทุกท่านไปรู้จักกับ Hamilton PSR ดีไซน์นาฬิกาดิจิตอลอิเล็กทรอนิกส์เรือนแรกของโลกกันครับ
ความนิยมของนาฬิกาข้อมือในอดีต ยุค 60s
ย้อนกลับไปในช่วงยุค 50s – 60s เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์แข่งขันกันเพื่อพิชิตดินแดนต่าง ๆ ที่มนุษย์ไม่เคยไป ไม่ว่าจะเป็นยอดเขา หรือร่องลึกใต้ทะเล ไปจนถึงอวกาศ ความนิยมของนาฬิกาข้อมือของบุคคลในยุคนั้นต้องมีความสามารถในการป้องกันน้ำ แรงดัน ไปจนถึงการทำงานแม้อยู่ในอวกาศ เรียกว่าเป็นช่วงที่นาฬิกาข้อมือไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่มีไว้ใช้บ่งบอกสไตล์ แต่มีไว้เพิ่มประสิทธิภาพของนาฬิกาให้ก้าวไปได้ถึงจุดสูงสุดด้วย
ในช่วงปลายยุค 60s การแข่งขันของมนุษย์ไม่ได้หยุดที่อยู่กับพิชิตขอบเขตของดินแดนต่าง ๆ เท่านั้น ยังเป็นเรื่องของการแข่งขันผลิตนาฬิกาข้อมือ เพื่อพัฒนานาฬิกาควอตซ์ (Quartz Watch) หรือนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ ให้สอดคล้องไปเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของโลก เรียกว่าเมื่อคนก้าวไปไกลก็ต้องพัฒนาสิ่งของให้ก้าวไปไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งนาฬิกาควอตซ์ เป็นทางเลือกใหม่นอกจากนาฬิกาแบบอัตโนมัติ (Automatic Watch) ในแง่ของการบอกเวลาที่เที่ยงตรง ความสะดวกในการใช้งาน และการดูแลที่ง่ายกว่า
จุดเริ่มต้นของการบอกเวลาแบบดิจิตอลกับ Hamilton Pulsar
อีกจุดหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงของการผลิตนาฬิกาข้อมือ และวงการนาฬิกาข้อมือเมื่อครึ่งศตวรรษก่อน เกิดขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1970 แบรนด์นาฬิกาชื่อดังระดับโลกอย่าง Hamilton เปิดตัวนาฬิกา Pulsar นาฬิกาดิจิตอลอิเล็กทรอนิกส์เรือนแรกของโลกขึ้น
ในขณะที่แบรนด์ต่าง ๆ ยังเลือกนำเสนอนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ด้วยหน้าปัดบอกเวลาแบบดั้งเดิม การมาของเจ้า Pulsar เป็นจุดเปลี่ยนและสัญลักษณ์ของการก้าวเข้าสู่สมัยใหม่ของนาฬิกาข้อมือ โดยชื่อรุ่นตั้งชื่อตามดาวนิวตรอน (Neutron Star) ที่แผ่รังสีออกมาเป็นช่วง ๆ ด้วยความถี่ที่มีความแม่นยำมากเป็นพิเศษ
นาฬิกาดิจิตอลอิเล็กทรอนิกส์เรือนนี้ไม่มีทั้งเข็มหน้าปัดนาฬิกา ไม่มีเสียงของชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ แต่มีคุณสมบัติด้านความทนทานและความเที่ยงตรงสูงสุด Hamilton Pulsar จึงถูกเปรียบเป็นคอมพิวเตอร์ทรงประสิทธิภาพบนข้อมือ และด้วยดีไซน์สไตล์อวกาศที่ดูล้ำยุค จึงทำให้นาฬิกาเรือนนี้เหมือนหลุดออกจากนวนิยายวิทยาศาสตร์ไม่มีผิด
ซึ่งการทำงานสุดเฉพาะตัวของ Pulsar ในยุคนั้น คือ เมื่อกดปุ่มด้านข้างของนาฬิกา เวลาจะปรากฏขึ้นเป็นตัวเลข LED สีแดงบนหน้าจอ และหากกดปุ่มนี้ไว้นานขึ้น เราจะเห็นจำนวนวินาทีที่ผ่านไป และยังสามารถเลือกตั้งเวลาของนาฬิกาได้จากแถบแม่เหล็กเฉพาะที่ซ่อนอยู่ภายในสายนาฬิกา
Pulsar เรือนเวลาที่ราคาเท่ากับรถยนต์ สู่ความนิยมในยุค 70s
แม้ Hamilton Pulsar รุ่น P1 ที่ปล่อยสู่ตลาดให้จับจองกันครั้งแรกในปีค.ศ. 1972 จะมีราคาเทียบเท่ากับรถยนต์สำหรับครอบครัวหนึ่งคันก็ยังมีคนซื้อไว้ในครอบครอง เพราะเป็นเรือนเวลาที่ถูกจัดว่าเป็นของระดับสูง ด้วยงานดีไซน์ล้ำยุคสไตล์อวกาศที่มากับตัวเรือนแบบคุชชั่น พร้อมสายนาฬิกาเยลโล่โกลด์ 18 กะรัต และยังผลิตมาจำกัดเพียงแค่ 400 เรือนเท่านั้น โดยหนึ่งในผู้ร่วมบุกเบิกของนาฬิกาเรือนนี้ คือ นักร้องระดับตำนาน Elvis Presley (เอลวิส เพรสลีย์)
จิอันนี่ อัญเญลลี่ มหาเศรษฐีคนดังชาวอิตาลี่ กับนาฬิกา Hamilton Pulsar
ประธานาธิบดี เจอรัลด์ ฟอร์ด กับนาฬิกา Hamilton Pulsar
ในปีต่อมา ค.ศ. 1973 Hamilton วางขาย Pulsar P2 ในตลาดสำหรับประชาชนทั่วไป รุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ให้ตัวเรือนเป็นทรงกลมมากขึ้น และโมดูลชิพที่พัฒนาขึ้นเพื่อบุกเบิกตลาดนาฬิกาดิจิตอล ทำให้คอมพิวเตอร์ทรงประสิทธิภาพบนข้อมือเรือนนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยเฉพาะเมื่อมันไปอยู่บนข้อมือเหล่าคนมีชื่อเสียงอย่าง Keith Richards (คีธ ริชาร์ดส์) สุดยอดมือกีต้าร์ของวงร็อกระดับตำนาน The Rolling Stones, นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังจากสหราชอาณาจักร Elton John (เอลตัน จอห์น) กระทั่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา Gerald Ford (เจอรัลด์ ฟอร์ด)
รวมถึง Roger Moore (โรเจอร์ มัวร์) ในบทบาทของสายลับอังกฤษที่ใคร ๆ ก็รู้จักอย่าง James Bond ได้สวมใส่นาฬิการุ่นนี้เข้าฉากในภาพยนตร์สายลับ 007 ภาค Live and Let Die ที่ออกฉายในปีเดียวกันนั้นเอง ทำให้ Pulsar ไม่ใช่แค่นาฬิกาที่ดูล้ำยุคเพียงอย่างเดียว แต่กลายเป็นหนึ่งใน สัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงสไตล์และความเป็นผู้นำเทรนด์การแต่งกายของผู้ชาย ที่ใครหลายคนอยากได้มาสวมใส่สักเรือน
Hamilton PSR พร้อมออกเดินทางสู่ยุคใหม่อีกครั้ง
ปี 2020 นี้ กาลเวลาล่วงเลยผ่านมาครบ 50 ปี Hamilton จึงทำการคืนชีพให้กับ Pulsar อีกครั้ง โดยที่ยังคงเอกลักษณ์ตัวเรือนแบบดั้งเดิมในยุค 70s เอาไว้ ในชื่อ Hamilton PSR ตัวเรือนได้รับการถอดแบบมาจาก Hamilton P2 แต่ได้รับการปรับปรุงเทคโนโลยีให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบการแสดงผลแบบไฮบริดที่ผสานรวมเทคโนโลยี LCD (Liquid Crystal Display) แบบสะท้อนแสงและ OLED (Organic Light Emitting Diodes) แบบลดแสง การกดปุ่มจะทำให้ตัวเลข OLED สีแดงสว่างขึ้นในแบบ ‘จุดดิจิตอล’ ที่คุ้นเคย
ขณะที่หน้าจอ LCD ช่วยให้มองเห็นเวลาได้อย่างดีเยี่ยมในแสงกลางวัน จากการผสาน 2 เทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ทำให้การแสดงผลบนหน้าปัดใช้พลังงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มีให้เลือกสองแบบ คือ สเตนเลสสตีลและอีกแบบหนึ่งเป็นสเตนเลสสตีลที่เคลือบด้วย PVD เยลโล่โกลด์
ความพิเศษของสีเยลโล่โกลด์ที่ทำมาให้คล้ายกับสีของ Hamilton Pulsar รุ่น P1 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการบอกเวลาเเบบดิจิตอล เเละทำจำกัดจำนวนเเค่ 1,970 เรือนเท่านั้น จำนวนนี้ ตรงกับปีที่ Pulsar เปิดตัวเป็นครั้งเเรก เพื่อตอกย้ำถึงความพิเศษของสีนาฬิกาเรือนนี้ ให้เรารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของผู้บุกเบิกการเดินทางครั้งใหม่นี้ เหมือนกับผู้ที่สวมใส่ Hamilton Pulsar รุ่น P1 ได้สัมผัสมาก่อน
นั่นทำให้ Hamilton PSR เป็นเสมือนการเดินทางสู่อนาคตด้วยดีไซน์ที่ข้ามเวลามาจากอดีต ที่กลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ให้เราได้สัมผัสถึงความสุดยอดที่เปลี่ยนแปลงวิธีของการบอกเวลา การเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย และการเป็นผู้นำเทรนด์เหมือนที่รุ่นพี่ของมันเคยทำมาแล้ว
Street Style กับนาฬิกา Hamilton PSR
เราได้เคยพูดถึงนาฬิกา Hamilton กันมาหลายรุ่นหลายแบบ และทุก ๆ ครั้งเรามักจะมีแนวทางในการแต่งกายแถมให้เป็นเคล็ดลับควบคู่กับภาพนาฬิกาสวย ๆ เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่การแต่งกายกับนาฬิกาจาก Hamilton มักจะเป็นการแต่งกายแบบทางการและกึ่งทางการให้ได้เห็นเป็นประจำ
แต่ด้วยบุคลิกที่เน้นความไฮเทคแบบย้อนยุคจากนาฬิกา Hamilton PSR เรือนนี้ เราจึงขอปรับเปลี่ยนแนวทางมาเป็นรูปแบบ Streetwear ที่เป็นอีกสไตล์ที่เราชื่นชอบ และเชื่อว่าแตกต่างออกไปจากที่ทุกคนเคยเห็นจากบทความก่อนหน้านี้ของเราแน่นอน
เราหยิบเอา นาฬิกาแฮมิลตั้น พีเอสอาร์ สีเงินมาใส่ควบคู่กับเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์แบบ Ripped Jeans เข้ารูป คลุมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นพิมพ์ลายสไตล์ Hawaiian Shirt ในรูปแบบดิบ ๆ เพื่อให้ได้อารมณ์ของ Streetwear ผสมผสานกับความสบายและคล่องตัวในการสวมใส่ ด้วยสีขาวสลับดำตั้งแต่หัวจรดเท้า ตัดกับสีเงินของนาฬิกา Hamilton PSR ที่ข้อมือ ทำให้ลุคนี้ดูลื่นไหลไม่มีสะดุดให้หงุดหงิดใจ ส่วนถ้าใครอยากจะให้นาฬิกาของเรายิ่งดูโดดเด่นสะดุดตา ก็ให้เลือกใส่เป็น แฮมิลตั้น พีเอสอาร์ สีทอง Yellow Gold แทน เพียงเท่านี้สายตาแทบทุกคู่ก็พุ่งมาที่ข้อมืออย่างอัตโนมัติแน่นอน
แต่ถ้าใครที่อยากจะนำ นาฬิกา แฮมิลตั้น พีเอสอาร์ เรือนนี้ไปใส่กับชุดสูทในวันทำงานจริง ๆ ลองเอาแรงบันดาลใจจาก ซินญอร์ จิอันนี่ อัญเญลลี่ เศรษฐีหนุ่มเจ้าสำราญชาวอิตาเลี่ยนที่นำ แฮมิลตั้น พัลซ่าร์ ไปใส่คู่กับชุดสูท ด้วยเอกลักษณ์คือการสวมใส่นาฬิกาไว้ด้านนอกแขนเสื้อเชิ้ต ซึ่งบางคนอาจจะอยากทำตามบ้าง แต่ถ้าคุณเกรงว่าการใส่นาฬิกาไว้นอกแขนเสื้อเชิ้ตจะดู “อวดเบ่ง” เกินพอดี ก็ปรับไปใส่ด้านในแขนเสื้อปกติก็ได้ ข้อสังเกตของเราคือ หากอยากนำไปใส่กับชุดทำงานและชุดสูท MenDetails แนะนำให้เลือกเป็น “สีเงิน” ที่จะดูเรียบร้อยและใช้งานได้หลากหลายกว่าสีทองในบริบทของความเป็นทางการนะครับ
สำหรับใครที่สนใจ Hamilton PSR รุ่น repro จาก Hamilton Pulsar อันโด่งดัง สามารถติดต่อได้ที่ร้าน Hamilton Watch บนห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ หรือจะซื้อบน Shopee ก็สะดวกรวดเร็วและมั่นใจได้ เพราะเป็นร้าน Official ของ Hamilton Thailand จริง ๆ ตามลิงค์นี้เลย เรือนสีเงินราคา 27,900 บาท ส่วนเรือนสีทองราคา 36,000 บาท และที่สำคัญอย่าลืมว่าเวอร์ชั่นตัวเรือนสีทองนั้นจะจำหน่ายแบบ Limited Edition จำนวนจำกัด ดังนั้นหากใครถูกใจและอยากได้สีทองเป็นพิเศษ MenDetails แนะนำให้ติดต่อไปจองนาฬิกากับทาง Hamilton โดยตรงตามข้อมูลด้านล่างนี้ทันที เพราะถ้าช้าหมด “อดนะครับ”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Hamiltonwatch.com หรือที่ Social Media ต่างๆ ของ Hamilton Watch
Facebook | facebook.com/hamiltonwatch
Twitter | twitter.com/hamiltonwatch
Instagram | @Hamiltonwatch
Pinterest | pinterest.com/hamiltonwatch