In Remembrance of His Majesty King Bhumibol Adulyadej
(1927-2016)
‘นาฬิกาข้อมือ’ คือเครื่องประดับชนิดเดียวที่ MenDetails มั่นใจว่าผู้ชายทุกคนสามารถใส่ได้ และควรมีไว้เป็นเจ้าของ แม้ผู้ชายบางคนอาจจะไม่ชอบใส่นาฬิกา หรือรู้สึกรำคาญและไม่ถนัดมือ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านาฬิกาข้อมือถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เราเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งเรื่องของ ‘เวลา’ นั้นมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง
หากคุณไม่ใช่ผู้ชายที่รักชอบนาฬิกาเป็นชีวิตจิตใจแล้วล่ะก็ MenDetails เชื่อว่าคุณคงไม่อยากมีนาฬิกาที่เยอะเกินไปและไม่จำเป็นต้องแพง คำถามที่ตามมาคือเราควรจะต้องมีนาฬิกาสักกี่เรือน เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานในทุกแบบทุกสถานการณ์ อีกทั้งได้นาฬิกาที่ดีมีคุณภาพโดยไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากโดยใช่เหตุ วันนี้ MenDetails รวบรวมมาให้ทุกท่านได้อ่านกันกับ ‘3 Watches Men Need’ หรือนาฬิกาเพียงแค่ 3 แบบ 3 เรือนที่ผู้ชายควรมีในราคาที่คุ้มค่าและพอเพียงกับตัวเองครับ
Beater Watch | Casio G-SHOCK “DW-5600”
นาฬิกาเรือนแรกที่ MenDetails แนะนำว่าผู้ชายควรมี คือนาฬิกาประเภทที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “Beater Watch” หรือนาฬิกาประเภทที่ผู้ชายใส่แล้วไม่จำเป็นต้องแคร์ว่ามันจะเจ๊ง, พัง, สูญหาย หรือโดนขโมย เป็นนาฬิกาที่ “รับใช้เรา” ไม่ใช่ให้เรารับใช้โดยการที่ต้องมานั่งทะนุถนอมนาฬิกาของตัวเอง และ Beater Watch ที่เราขอแนะนำสำหรับผู้ชายทุกคนก็คือ Casio G-SHOCK รุ่น DW-5600
ดีไซน์แบบสี่เหลี่ยมแบบนี้นี่แหละที่เป็นโมเดลปฐมบทของตำนาน Casio G-SHOCK
นาฬิกา Casio G-SHOCK DW-5600 รุ่นนี้มีประวัติที่น่าสนใจนั่นคือ มันเป็นโมเดลเดิมที่เหมือนรุ่นแรกสุดของ Casio ที่ผลิตออกมาในนาม G-SHOCK ในรหัส DW-5000 ตั้งแต่ปี 1983 ทำให้ Casio G-SHOCK รุ่นนี้ถือเป็นโมเดลที่คลาสสิคที่สุดไปโดยปริยาย ที่สำคัญมีความสมบุกสมบันและทนทายาดตามสไตล์ G-SHOCK แถมได้รับเลือกจากองค์การ NASA แนะนำให้เป็นนาฬิกาที่นักบินอวกาศใช้ในขณะปฏิบัติงาน เคียงคู่กับ ‘Omega Speedmaster’ ในราคาที่ประหยัดเหลือเชื่อ เพราะถ้ามองหาดีๆ คุณสามารถหาซื้อ DW-5600 ได้ในราคาไม่เกินเรือนละ 2,500 บาทเท่านั้นเองครับ เราเชื่อว่าที่ราคาระดับนี้กับคุณภาพและความอึดระดับ G-SHOCK คงไม่มีผู้ท้าชิงรายไหนสามารถต่อกรกับ DW-5600 ในแง่ความคุ้มค่าในการใช้งานแน่นอนครับ
ดีไซน์เรียบแบบคลาสสิค ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป ใส่ได้แทบทุกคน
Beater Watch คือนาฬิกาที่ผู้ชายจะใช้ลุยทุกสถานการณ์ และคงไม่มีอะไรเหมาะไปกว่า G-SHOCK อีกแล้วล่ะครับ
Dress Watch | Tissot “Everytime”
นาฬิกาอีกสไตล์ที่เราแนะนำให้ผู้ชายทุกคนมีไว้ครอบครองก็คือนาฬิกาประเภทที่เรียกว่า “Dress Watch” ซึ่งเป็นนาฬิกาประเภทที่เหมาะกับการใส่กับชุดสูท หรือ เสื้อผ้าสไตล์ Sartorial ที่เน้นความสุภาพ และความเป็นทางการของการแต่งกาย นาฬิกาประเภทนี้ควรมีลักษณะและดีไซน์ที่เรียบหรู เน้นความบางเพื่อให้ปลายแขนเสื้อเชิ้ตและสูทสามารถคลุมตัวเรือนนาฬิกาได้ สายนาฬิกานิยมทำจากหนังแท้ และนาฬิกาประเภทนี้จะไม่มีรายละเอียดลูกเล่นหรือสีสันมากมายบนตัวนาฬิกาและสายนาฬิกาทั้งนี้เพื่อเน้นความสุภาพครับ
Dress Watch จาก Tissot รุ่น Everytime
และนาฬิกาสไตล์ Dress Watch ที่เรามองว่ามีคุณภาพคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป นั่นก็คือ Tissot รุ่น Everytime ที่เป็นนาฬิกาคุณภาพระดับ Swiss Made มีให้เลือกทั้งแบบ Quartz และแบบ Automatic ขึ้นลานอัตโนมัติที่ทาง Tissot เรียกว่า ‘Swissmatic’ ด้วยดีไซน์ที่เรียบแต่หรูหราตามสไตล์ Dress Watch ขนานแท้ กับราคาเริ่มต้นราว 8,000 บาท กับแบรนด์สัญชาติสวิสแท้ๆ อย่าง Tissot ทำให้ Everytime คือตัวเลือกแรกที่ MenDetails อยากแนะนำสำหรับนาฬิกาประเภท Dress Watch ของคุณผู้ชายทุกคน เพื่อเก็บไว้ใส่ในเวลาที่ต้องใส่สูท หรือใส่เครื่องแต่งกายที่เน้นความสุภาพครับ
Tissot Everytime รุ่น Swissmatic
เรียบง่าย แต่หรูหรา ในราคาที่สมเหตุสมผลกับคุณภาพระดับ ‘Swiss Made’
Sport Watch | Seiko 5 “Sea Urchin : SNZF17J1”
นาฬิกาข้อมืออีกสไตล์ที่ MenDetails ขอแนะนำให้มีไว้นั่นก็คือ “Sport Watch” ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนาฬิกาแบบ “สายเหล็ก” และเป็นนาฬิกาที่กันน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพพอสมควรในระดับตั้งแต่ 100 Meter (Water Resistant) ขึ้นไป นาฬิกาหัวหอกที่เป็นที่นิยมกันมากในสาย Sport Watch นี้ก็อย่างเช่น Rolex Submariner หรือ Omega Seamaster เป็นต้น แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างแพงหูฉีกของแบรนด์เหล่านี้ ทำให้มันไม่ใช่นาฬิกาที่เหมาะกับผู้ชายทุกคน และเราก็ไม่อยากให้คุณต้องเขย่งตัวไปใส่นาฬิการาคาแพงขนาดนั้นหากฐานะทางการเงินของคุณไม่ได้เอื้ออำนวยจริงๆครับ
ข้อพระกรของในหลวงรัชกาลที่ 9 ขณะทรงสวมนาฬิกา Seiko Kinetic SKJ045P | Jehoynews.com
หน้าตาชัดๆของนาฬิการุ่นที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเลือกใช้
ตัวอย่างที่ดีที่สุดเราต้องขออนุญาตยกมานั่นก็คือ นาฬิกาของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงสวมใส่ในงานเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในครั้งนั้นจากข้อมูลของคุณ Withaya Heng พระองค์ทรงสวมใส่นาฬิกาสายเหล็กยี่ห้อ Seiko รุ่น Kinetic รหัส SKJ045P ซึ่งเป็น Sport Watch ที่มีราคาแค่หลักพันบาทเท่านั้น พระองค์จึงเป็นแบบอย่างที่สำคัญที่สุดที่บอกเราได้ว่า ไม่จำเป็นเลยที่เราต้องใส่แบรนด์ราคาแพง ขอให้เป็นนาฬิกาที่ดี มีคุณภาพ ในราคาที่สมเหตุสมผลก็เพียงพอแล้ว
Seiko 5 ‘Sea Urchin’ SNZF17J1 ตัวแทนที่ใกล้เคียงกัน
น่าเสียดายที่ Seiko รหัส SKJ045P แบบที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสวมใส่นั้น ทาง Seiko ได้เลิกผลิตไปเรียบร้อยแล้ว แต่เราก็ยังสามารถตามรอยทางของพระองค์ได้ ด้วย Sport Watch รุ่นที่ใกล้เคียงกัน และมีคุณภาพที่ดีเช่นกันนั่นก็คือ Seiko 5 รหัส SNZF17J1 ที่มีชื่อเล่นว่า “Sea Urchin” หรือ “เจ้าหอยเม่น” นี่แหละครับ ด้วยรูปทรงพิมพ์นิยมตามสไตล์ Sport Watch ใกล้เคียงกับรุ่นของในหลวงรัชกาลที่ 9 กับคุณภาพที่เชื่อถือได้ตามสไตล์ Seiko แถมเป็นระบบ Automatic ขึ้นลานอัตโนมัติ และด้วยรหัส J ที่บ่งบอกว่าเป็นนาฬิกา Made in Japan ในราคาไม่เกิน 1 หมื่นบาท นาฬิการุ่นนี้จึงเป็นตัวเลือกแรกของ Sport Watch สำหรับผู้ชายที่เน้นความพอเพียง บนคุณภาพที่เชื่อถือได้ ตามแบบอย่างที่พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพยายามสอนพวกเรามาตลอดนั่นเองครับ
Seiko ‘Sea Urchin’ SNZF17J1 ผลิตในญี่ปุ่น ในราคาไม่ถึงหมื่น คุ้มค่าและพอเพียง
บทสรุป
นาฬิกาข้อมือถือเป็นเครื่องประดับชิ้นเดียวที่ MenDetails แนะนำว่าผู้ชายทุกคนควรมีไว้ใส่ และถ้าคุณเป็นผู้ชายที่ตั้งใจจะเดินตามวิถีแห่งความพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องใช้แบรนด์นาฬิการาคาแพงเป็นหลักแสนหลักล้าน และพระองค์เองก็ได้ทรงทำให้เห็นเป็นแบบอย่างแล้วว่า ถึงแม้พระองค์สามารถมีนาฬิการาคาแพงๆสักกี่เรือนก็ได้ แต่พระองค์ก็ทรงเลือกที่จะใช้นาฬิกาที่มีคุณภาพดีในราคาที่ไม่สูงนักมากกว่าครับ และเราเชื่อว่านาฬิกาทั้ง 3 แบบ 3 สไตล์ 3 ยี่ห้อที่เราเลือกมาแนะนำนั้น มีคุณสมบัติที่ไม่ต่างกัน นั่นคือมีคุณภาพที่ดี, สามารถปรับเปลี่ยนใช้งานได้ทุกสถานการณ์ และมีราคาที่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไปครับ MenDetails หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ชายที่ต้องการซื้อนาฬิกาข้อมือคุณภาพดีในราคาคุ้มค่า และ “พอเพียง” สำหรับตัวเองนะครับ