ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์ในตระกูล Performance ต่าง ๆ ไม่ว่าจะโทรศัพท์มือถือก็ดี Laptop ก็ดี มักจะวัดประสิทธิภาพกันด้วยตัวเลขบนหน้า Factsheet เสียเป็นส่วนใหญ่ นั้นควบรวมไปจนถึงของเล่นชิ้นโตอย่าง รถยนต์ ด้วยเช่นเดียวกันครับ เพราะหากมองย้อนกลับไปสัก 5-10 ปีที่แล้ว ถ้าเราพูดถึงรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องเพียง 1,000 cc คุณน่าจะนึกถึงรถยนต์ขนาดเล็ก แนว ECO Car คันสั้น ๆ ขับแล้วต้องลุ้นสักหน่อย แต่สิ่งเหล่านี้เหมือนจะหลุดลอยไปกับอากาศ เมื่อเราได้ลองขับ All New Nissan Almera ใหม่ตัวนี้ครับ
ลืมเรื่องตัวเลข และอัตราเร่งไปก่อน
เนื่องจากถ้าวัดกันที่ตัวเลขจริง ๆ แล้ว หลายคนอาจมองข้ามรถคันนี้ไป แต่เลือกสนใจเพียงเพราะราคาที่ย่อมเยาเท่านั้น แต่การขับจริง เหยียบจริง ใช้งานจริงบนถนนกว่า 250 กิโลเมตร ไปกลับภูเก็ตพังงา กับเส้นทางลูกผสมทั้งทางตรง ๆ โค้งกว้าง ๆ ไปจนถึงทางแคบ ๆ โค้งเยอะ หรือทางสวนที่วัดอัตราเร่งแล้ว Nissan Almera ใหม่ตัวนี้ ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ซึ่งน่าจะอธิบายได้ด้วย 4 ข้อใหญ่ ๆ ด้วยกันดังนี้
1. ตัวรถนั้น ถูกปรับแต่งช่วงล่างไว้อย่างดี
อันนี้ต้องขอชื่นชมทีม R&D ของ Nissan เลยครับ เนื่องจากช่วงล่างนั้น ถูก Set Up มาได้นิ่มในทางตรง และไม่ย้วยเวลาเข้าโค้งที่มาด้วยความเร็วสูง แน่นอนว่าช่วงล่างของ All New Nissan Almera ตัวนี้ คงเทียบไม่ได้กับรุ่นพี่ในค่ายเดียวกัน แต่ความรู้สึกถือว่าดีเกินคาดเลยทีเดียว อาจเพราะทางค่าย Nissan ขยายฐานล้อให้กว้างขึ้น แถมลดความสูงลงอีกหน่อย ปรับแต่งจุดศูนย์ถ่วงได้อย่างลงตัวทีเดียว
2. เครื่องยนต์ตอบสนองดี เร่งแซงแบบไม่ต้องลุ้น
ด้วยขนาดตัวเครื่องที่เล็ก หากเป็นสมัยก่อนนั้น เวลาจะต้องเหยียบเพื่อเร่งเครื่องแซง อาจมีลุ้นอยู่พอสมควรครับ ยิ่งใครมีโอกาสได้ขับรถขนาด 700 cc น่าจะพอทราบดี แม้แต่รถ ECO Car ตัวเล็กของ Nissan เอง การเร่งเครื่องแซงสักครั้ง อาจต้องทิ้งระยะให้ยาวสักหน่อย เนื่องจากแรงบิดค่อนข้างต่ำ รอบเครื่องมาไม่ทันใจสักเท่าไร ซึ่งไม่ค่อยเกิดปัญหากับเครื่องยนต์ตัวใหม่ตัวนี้ใน All New Nissan Almera อาจ Delay เล็กน้อย ก่อนที่ Turbo จะขับแรงบิดได้อย่างเต็มที่ แต่ก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นครับ
3. ห้องโดยสารเงียบ
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าชื่นชมมาก ๆ ก็คือความเงียบในห้องโดยสารครับ อาจด้วยผลงานการประกอบที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วจากทาง Nissan ทำให้ตัวรถดูไม่บอบบางจนเหมือนจะหลุดเป็นชิ้น ๆ เวลาทำความเร็วสูง ๆ ซึ่งในข้อนี้อาจต้องชมรวมไปถึงงานออกแบบทั้งภายในและภายนอกด้วยเช่นเดียวกันครับ ขับด้วยความเร็วราว 120-140 กิโลเมตร / ชั่วโมง ยังไม่มีเสียงรบกวนจนรำคาญให้ได้ยินเลยครับ
4. มีโหมด Sport สำหรับคนชอบความเร็วอีกด้วย
-ปุ่มปรับโหมด Sport จะอยู่ด้านหลังของคันเกียร์ครับ-
ตอนนี้ รถยนต์ ระดับ Entry Level มีโหมด Sport ให้เลือกขับแล้วนะครับ ซึ่งบอกเลยว่าสนุกขึ้นไปอีก เพราะด้วยโหมด Sport ตัวเครื่องจะเลี้ยงรอบให้ตอบสนองได้ทันใจมากขึ้น จังหวะถอนคันเร่งเพื่อรอจังหวะ แล้วเหยียบแซงในบางช่วง ทำได้ดี ตอบสนองได้อย่างน่าประทับใจ
จุดแข็งเดิมยังคงอยู่ แถมยัดลูกเล่นและรายละเอียดเพิ่มเติมมาอีกเพียบ
-Digital Monitor ขนาด 7 นิ้ว-
จุดแข็งที่สำคัญมาก ๆ ของ Nissan Almera เลยก็คือ ห้องโดยสารที่กว้างขวางครับ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งถ้าเอารุ่นก่อนหน้ามาเทียบกับรุ่นนี้ All New Nissan Almera ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำไป แถมรูปร่างหน้าตายังดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ คือมองจากภายนอกแล้ว เหมือนไม่ได้เป็นตัวลดทอนจากรุ่นพี่สักเท่าไรนัก เรียกว่า “หล่อ” เลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ตัวรถยังมีระบบ Sensor มากมาย เพิ่มเติมเข้ามาเช่น ระบบเตือนจุดอับสายตา (BSW) / ระบบเตือนด้านหลังขณะถอย (RCT) เป็นต้น แต่ที่ชอบเป็นพิเศษเลยคือ ระบบเตือนวัตถุรอบตัวรถ (MOD) เพราะช่วยให้การขับปลอดภัยขึ้น และเป็นเทคโนโลยีที่ไม่เคยปรากฏในรถยนต์ระดับนี้นั่นเอง
สำหรับคนที่เคยเป็นเจ้าของ Almera อยู่แล้ว จะพอทราบดีครับว่า ขึ้นชื่อว่า Almera มันคือความคุ้มค่าที่แซงค่ายอื่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร มาครั้งนี้ Nissan ก็ไม่ทำให้ผิดหวังอีกเช่นกันครับ กับเครื่องยนต์ที่ขับสนุกขึ้น อัตราเร่งดี ช่วงล่างมั่นใจได้ ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility และ Nissan Connect ที่ให้คุณเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือได้ทั้งระบบ iOS และ Android แถมราคาเริ่มต้นที่ 499,00.- เท่านั้นครับ นี่แหละเจ้าแห่งความคุ้มค่าตัวจริง