Snoopy เจ้าหมาพันธุ์บีเกิ้ล จากการ์ตูน Comic strip อเมริกันสุดคลาสสิกเรื่อง Peanuts น่าจะเป็นหนึ่งในตัวละครไอคอนหลักของเรื่อง ที่เด็กและผู้ใหญ่หลายล้านคนทั่วโลกเคยเห็น และรู้จัก เผลอ ๆ อาจจะมากกว่าเหล่าตัวละครอย่าง Charlie Brown และเด็ก ๆ ในเรื่องเสียอีก ในขณะที่ Omega ก็เป็นแบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ทั้งสองถือเป็น “ผู้ยิ่งใหญ่” ของวงการ ที่ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกัน
แต่จั่วหัวข้อมาขนาดนี้ เชื่อหรือไม่ ว่าสองผู้ยิ่งใหญ่นี้ กลับมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การเดินทางท่องอวกาศของมวลมนุษยชาติ และองค์การ NASA อีกต่างหาก
ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร MenDetails ขอเชิญทุกท่าน มาหาคำตอบไปพร้อมกันครับ
ต้นกำเนิดของ Snoopy เจ้าบีเกิ้ลสุดแสบ
ก่อนจะไปเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของมหามิตรต่างวงการที่เราเกริ่นไป เรามาทำความรู้จักกับเจ้าบีเกิ้งตัวนี้กันสักหน่อย ว่ามีความเป็นมาอย่างไร เพราะเราเชื่อว่าแม้หลายคนจะจำ Snoopy ได้ แต่อาจจะไม่รู้ถึงต้นกำเนิดของมันอย่างแท้จริง
Snoopy เป็นตัวละครที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของการ์ตูน Comic strip อเมริกันเรื่อง Peanuts เป็นการ์ตูนแนวขำขัน เสียดสี ที่แฝงเรื่องปรัชญา จิตวิทยา เขียนและวาดภาพโดย Charles M. Schulz เริ่มตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1950 จนถึงปี 2000 มันได้รับความนิยมอย่างมาก ได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ 21 ภาษา รวมถึงยังมีภาพยนตร์และสื่ออื่น ๆ อีกมากมาย
Snoopy สัญลักษณ์ในภารกิจเดินทางท่องอวกาศ
ความเกี่ยวข้องของเจ้า Snoopy กับการเดินทางในอวกาศ และ NASA เริ่มต้นในยุค 60s เมื่อ Charles M. Schulz วาด Comic strip เกี่ยวกับ Snoopy และการสำรวจดวงจันทร์ ทำให้เกิดการรับรู้ถึงภารกิจสำรวจอวกาศของสหรัฐอเมริกาอย่างกว้างขวาง
หลังจากที่โครงการสำรวจอวกาศอย่าง Mercury และ Gemini ประสบความสำเร็จ ทาง NASA ต้องการสร้างความตระหนักรู้ในหมู่พนักงาน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงความสำคัญในของความปลอดภัยในการทำภารกิจสำรวจอวกาศ Snoopy ก็เป็นตัวเลือกของ NASA อย่างไม่ต้องสงสัย
ในปี 1968 NASA ต้องการสร้างรางวัลให้กับพนักงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มีส่วนให้ภารกิจสำเร็จ NASA ต้องการสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จัก เพื่อให้สาธารณะชนได้รับรู้ด้วย จึงเกิดความคิดที่จะใช้ Snoopy มาเป็นสัญลักษณ์
Charles M. Schulz ที่สนับสนุนโครงการสำรวจอวกาศอยู่แล้ว เมื่อได้รับการติดต่อมา เขาจึงตอบรับด้วยความยินดี และทำการออกแบบ Snoopy ในชุดนักบินอวกาศ “Snoopy the Astronaut” ที่ใช้เป็นภาพบนเข็มกลัดรางวัล ให้ NASA ใช้แบบไม่เก็บค่าใช้จ่าย รวมถึงวาดภาพโปรโมตรางวัลนี้ให้ด้วย
นี่คือที่มาของ Silver Snoopy award รางวัลพิเศษที่นักบินอวกาศของ NASA มอบให้กับเจ้าหน้าที่และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ในการทำให้ภารกิจสำเร็จ และมีความปลอดภัย โดยรางวัลนี้ จะมีเข็มกลัดเงินที่เป็นรูป Snoopy ในชุดนักบินอวกาศ จดหมายแนะนำ ลายเซ็นจากเหล่านักบินอวกาศ และใบประกาศ
Silver Snoopy award เป็นรางวัลทรงเกียรติที่มอบให้กับคนที่มีสิทธิ์รับรางวัลเพียง 1% จากทั้งหมดเท่านั้น และในชั่วชีวิตมีโอกาสได้รับรางวัลนี้แค่ครั้งเดียว ทำให้เป็นรางวัลที่มีความหมายอย่างมากในวงการที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจอวกาศ
Apollo 13 ภารกิจสู่อวกาศที่เชื่อม Omega Snoopy และ NASA เข้าไว้ด้วยกัน
สำหรับใครที่หลงใหลในนาฬิกาข้อมือ น่าจะเป็นที่รู้กันว่านาฬิกา Omega กับการเดินทางในอวกาศ มีความเกี่ยวข้องกัน เพราะ Omega Speedmaster เป็นที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งว่า Moonwatch เป็นนาฬิการุ่นเดียวที่ผ่านการทดสอบความทนทาน และการใช้งานจาก NASA ในปี 1965 และได้รับความไว้วางใจจากนักบินอวกาศในโครงการ Gemini และ Apollo
Omega Speedmaster ยังถือเป็น นาฬิกาเรือนแรกที่ถูกสวมใส่บนดวงจันทร์ ในภารกิจลงจอดบนดวงจันทร์ Apollo 11 โดย Buzz Aldrin นักบินอวกาศอีกคนที่เดินทางไปกับ Neil Armstrong เป็นผู้สวมใส่
เหตุการณ์ที่เชื่อม Omega กับ Snoopy ไว้ด้วยกัน คือโครงการ Apollo 13 ในปี 1970 ครับ เหตุการณ์ที่ Omega ได้มีส่วนร่วมในการช่วยชีวิตนักบินอวกาศให้กลับโลกได้สำเร็จ ตามจุดประสงค์ของ Snoopy ที่เป็นสัญลักษณ์ของความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจ
“ฮุสตัน เรามีปัญหา” หนึ่งประโยคคลาสสิกที่เราน่าจะคุ้นหูนี้ มาจากบทสนทนาระหว่าง Jack Swigert นักบินอวกาศของ Apollo 13 กับ ศูนย์ควบคุมภารกิจของ NASA หลังปล่อยตัวยานออกไปนอกชั้นบรรยากาศไม่นาน ตัวถังออกซิเจนเกิดการระเบิด ทำให้ส่วนยานบริการใช้งานต่อไม่ได้ นักบินอวกาศทุกคน ต้องย้ายไปอยู่ในส่วนยาน Lunar Module ที่ไม่ได้ออกแบบมาให้คนอยู่กันหลายคนในเวลานาน
เพื่อเป็นการลดการใช้พลังงานของยานให้น้อยที่สุด นักบินอวกาศต้องปิดระบบทั้งหมดที่ไม่จำเป็น เพื่อให้สามารถติดต่อกับศูนย์ควบคุมและมีพลังงานสำหรับเดินทางกลับโลก แม้แต่นาฬิกาดิจิทัลก็ต้องหยุดทำงาน แต่นาฬิกาชีวิตที่ขีดเส้นความเป็นความตายของนักบินอวกาศกำลังเริ่มเดิน
หลังจากคิดหาวิธีอย่างเอาเป็นเอาตายหลายวัน NASA ก็คิดวิธีในการพา Apollo 13 ที่ในตอนนี้ หลุดจากเส้นทางเดิม และนักบินอวกาศต้องใช้ชีวิตอยู่ในยานที่อุณหภูมิติดลบมาหลายวัน ด้วยการใช้แรงเหวี่ยงจากแรงดึงดูดจากดวงจันทร์ และการจุดเชื้อเพลิงให้ทำงานตามเวลาที่กำหนด เพื่อให้ Apollo 13 ได้กลับสู่พื้นโลก แต่ถ้าหากมีความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย ยานเดินทางสู่โลกผิดมุม จะทำให้ยานดีดออกจากชั้นบรรยากาศโลก และกลับเข้ามาไม่ได้อีก ตลอดกาล
เมื่อไม่มีนาฬิกาดิจิทัล นาฬิกา Omega Speedmaster บนข้อมือของเหล่านักบินอวกาศจึงได้แสดงความสามารถในการจับเวลาที่แม่นยำในการจุดเชื้อเพลิง 14 วินาที ไม่ขาดไม่เกิน พา Apollo 13 กลับสู่โลกได้อย่างปลอดภัย
จากการมีส่วนช่วยเหลือนักบินอวกาศในครั้งนั้น ทำให้ Omega ได้รับรางวัล Silver Snoopy award จาก NASA และตั้งแต่ตอนนั้น Snoopy กับ Omega จึงได้เชื่อมโยงถึงกัน กลายเป็นมหามิตรต่างวงการ ที่แสนยิ่งใหญ่ ผูกกันไว้ด้วยการเดินทางสู่อวกาศ
Omega Speedmaster ‘Silver Snoopy Award’ 50th Anniversary ฉลองครบรอบ 50 ปี ของความสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่
จากภารกิจ Apollo 13 จนถึงวันนี้ เวลาได้ล่วงเลยผ่านมา 50 ปีแล้ว Omega จึงเปิดตัวนาฬิกา Omega Speedmaster “Silver Snoopy Award” 50th Anniversary เพื่อฉลองความสำเร็จในการมีส่วนร่วมของการเดินทางในอวกาศ และการได้รับรางวัลทรงเกียรตฺที่น้อยคนนักจะมีโอกาส โดยนำเจ้าบีเกิ้ลตัวนี้มาโลดแล่นบนนาฬิกาอีกครั้ง ทั้งเรือนด้านหน้าและฝาหลัง
จุดสังเกตแรกอยู่ที่ตัวเรือนด้านหน้า หน้าปัดย่อย ตรง 9 นาฬิกา เราจะเห็นเจ้า Snoopy สีเงินในชุดอวกาศที่เป็นสัญลักษณ์ของรางวัล Silver Snoopy Award บนพื้นหลังสีฟ้า
ที่ฝาหลังยังมีเซอร์ไพร์สพิเศษ เราสามารถพา Snoopy ออกไปท่องอวกาศ เมื่อเรากดจับเวลา เข็มวินาทีย่อยด้านหลัง ที่ปลายแขนจะมีเจ้าบีเกิ้ลสุดแสบอยู่ในยานส่วนบริการสีขาวดำ บินไปยังด้านหลังของดวงจันทร์ เช่นเดียวกับเหล่านักบินของ Apollo 13 ในขณะที่โลกที่เห็นจากดวงจันทร์ จะค่อย ๆ หมุน ในอัตรา 1 รอบต่อนาที พร้อมประโยค Eyes on the Stars และยังมีวันที่ Omega ได้รับรางวัลนี้ในปี 1970 สลักเอาไว้ด้วย เป็นหมัดเด็ดของนาฬิกาเรือนนี้เลย นอกจากนี้ฝาหลังยังใช้ระบบ NAIAD LOCK ทำให้ตัวอักษรที่สลักอยู่บนฝาหลังอยู่ตรงตามตำแหน่งอย่างสมบูรณ์ เท่านั้นไม่พอ เพราะ สายนาฬิกาหนังด้านหลัง ก็ยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่าสนใจ โดยเป็นเส้นทางการเดินทางของยาน Apollo 13 จากเริ่มต้น สู่เส้นทางกลับบ้านที่ใช้เวลาทั้งหมด 5 วัน 22 ชั่วโมง 54 นาที 41 วินาที
ไม่ใช่แค่เรื่องรายละเอียดของดีไซน์เท่านั้นที่น่าสนใจ เพราะนาฬิกา Omega Speedmaster “Silver Snoopy Award” 50th Anniversary ใช้ระบบกลไกเดินเข็ม OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 3861 ที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงในการบอกเวลาด้วยมาตรฐานสูงสุด Master Chronometer ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง OMEGA และสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส หรือ METAS (Swiss Federal Institute of Metrology) ปรับปรุงมาตรฐาน COSC เดิมที่ดูล้าสมัย ให้เข้มงวดขึ้นและต้องผ่านบททดสอบที่โหดขึ้น ทั้งสภาวะรังสีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขั้นรุนแรง หรือภายใต้แรงดันน้ำมหาศาล ทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจได้ว่า ระบบเดินเข็มของนาฬิกาจะยังคงเดินได้เที่ยงตรงในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าบนโลกหรือในอวกาศก็ตาม
แน่นอนว่า เมื่อ Omega ประกาศเปิดตัวนาฬิกาสุดพิเศษ ที่มีประวัติความเป็นมาที่มาพร้อมมาตรฐานที่ไม่ธรรมดาเรือนนี้ มันจึงกลายเป็นที่หมายปองของเหล่าผู้หลงใหลในนาฬิกาทุกแห่งทันที เพราะในอดีต Omega เคยผลิตนาฬิกาเพื่อฉลองการรับรางวัล “เจ้าบีเกิ้ลสีเงิน” มาแล้ว 2 รุ่น ในปี 2003 กับ 2015 แต่ล้วนเป็นแบบจำกัดจำนวนทั้งสิ้น ทำให้หลายคนต้องคอตกกันไป
แต่สำหรับ Speedmaster “Silver Snoopy Award” 50th Anniversary เรือนนี้ ไม่ได้ทำออกมาแบบจำกัดจำนวนครับ ทำให้ทุกคนมีโอกาสได้จับจองนาฬิกาสุดพิเศษเรือนนี้ได้ในราคา 334,000.- ถือว่าคุ้มค่ากับความเป็นมาและลูกเล่นแสนแพรวพราวของมัน ราวกับได้มองเห็นก้าวเล็ก ๆ ก้าวหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ถูกบอกเล่าผ่านนาฬิกาเรือนนี้
และนี่คือเรื่องราวความสัมพันธ์ของมหามิตรต่างวงการ ที่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างลึกซึ้งมากกว่าที่คิด ทำให้ Omega Speedmaster ‘Silver Snoopy Award’ 50th Anniversary เป็นนาฬิกาที่มีเรื่องราวน่าสนใจ และเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของมวลมนุษย์
สำหรับใครที่สนใจอยากจับจอง สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บูติก OMEGA สาขาเซ็นทรัลเอ็มบาสซีโทร. 02-160-5959, สาขาสยามพารากอนโทร. 02-129-4878และสาขาดิเอ็มโพเรียมโทร. 02-664-9550 หรือ LINE Official Account: @OMEGAThailand