นาฬิกาที่เราเลือกใส่นั้นเป็นมากกว่าแค่เครื่องบอกเวลา มันยังสะท้อนถึงตัวตน รสนิยมความชอบ ไลฟ์สไตล์ ความหลงใหลในแฟชั่น หรือยิ่งไปกว่านั้น อาจเป็นเครื่องบอกสถานะทางสังคมด้วยครับ และหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาจากสวิสเซอร์แลนด์ที่มีประวัติศาสตร์กว่า 100 ปี นาฬิกา RADO ที่ขึ้นชื่อในด้านความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีเรื่องการใช้วัสดุ ได้เปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ปี 2020 ภายใต้คอนเซปต์ Feel it! ให้เราชาว MenDetails ได้สัมผัสกัน
2020 is coming with green color
นาฬิกา RADO ในปีนี้ มากับคอนเซปต์ Feel it ที่ต้องการจะสื่อความหมายว่า เมื่อได้สวมใส่นาฬิกา RADO ทุกคนจะได้สัมผัสถึงความแตกต่างและเข้าใจตัวตนของแบรนด์ และสีที่มาแรงในปีนี้ จนมีอยู่ในทุก ๆ คอลเลคชั่นที่เปิดตัวใหม่ คือ สีเขียว ซึ่งต่างจากปีก่อน ๆ ที่เน้นสีโทนเรียบแต่สุขุมอย่างสีน้ำตาล สีเงิน และสีโรสโกลด์
โดยสีเขียวจะมีทั้งอยู่เฉพาะบนหน้าปัด หรือเป็นสีเขียวทั้งตัวเรือนและหน้าปัดก็มีครับ
ในงาน RADO NOVELTIES 2020 ที่ผ่านมา แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ Brand Ambassador คนไทยคนแรกของ RADO ก็มาร่วมงานในชุดสีเขียวที่จะเป็นสีไฮไลท์ของปีนี้เช่นกัน
แต้วกล่าวว่านาฬิกาที่เธอเลือกใส่ เน้นเรื่องดีไซน์สวย ใส่แล้วรู้สึกเบาสบาย เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย รวมถึงยังอินเรื่องของเทคโนโลยีที่จะนำมาใส่ไว้ในนาฬิกา ซึ่ง RADO มีไฮเทคเซรามิกที่ทำให้เธอสนใจ
นาฬิกา RADO Captain Cook
-The most popular watch collection in the past-
คอลเลคชั่นแรกที่ดึงดูดสายตาเรามากที่สุด คือ Captain Cook นาฬิกาสไตล์ Diver’s Watch ที่อยู่ในโซน Age นำเสนอถึงความคลาสสิกและอยู่เหนือกาลเวลา เนื่องจาก Captain Cook รุ่นแรก ถูกผลิตขึ้นตั้งแต่สมัยปี 1962-1968
Captain Cook โด่งดังจากดีไซน์กระทัดรัด ขนาดหน้าปัด 37 มิลลิเมตร แล้วค่อยปรับขนาดมาเป็น 45 มิลลิเมตรในที่สุด และในปี 2020 นี้ Captain Cook ก็ถูกนำมาผลิตอีกครั้ง โดยมีการปรับเปลี่ยนวัสดุให้ทันสมัยขึ้น
ส่วนสายนาฬิกามีให้เลือกเปลี่ยน ทั้งสายสเตนเลสสตีลถักแบบ Milanese, สายหนัง และสาย Nato ตัวหน้าปัดที่โดดเด่นที่สุด หนีไม่พ้นสีเขียวครับ เป็นเรือนที่หากได้ใส่แล้วจะช่วยเพิ่มความดูดีความมั่นใจตัวมากขึ้นอย่างแน่นอน
True Thinline : 4.9 millimeters of thinness
ส่วนนาฬิการุ่นที่แต้วใส่ คือ รุ่น True Thinline นาฬิการะบบควอตซ์หน้าปัดสีเขียว ซึ่งจัดวางอยู่ในภายในโซน Light นำเสนอเรื่องน้ำหนักนาฬิกาที่เบา ใส่แล้วรู้สึกเบาสบาย ไม่หนักข้อมือ ตัวเรือนมีความบางเพียง 4.9 มิลลิเมตรเท่านั้นครับ
ซึ่งนาฬิการุ่น True Thinline เคยผลิตครั้งแรกปี 2011 และนำมาปรับโฉมใหม่เรื่อย ๆ จนปีนี้มาในรูปแบบทรู ธินไลน์ สเกลเลตัน (True Thinline Skeleton) ผลิตด้วยไฮเทคเซรามิก ทำให้ตัวเรือนทนต่อรอยขีดข่วน
Durability is one of characteristics of RADO
สุดท้ายมาที่โซน Hard ที่นำเสนอเรื่องความทนทานของ นาฬิกา RADO เป็นผู้ผลิตที่เลือกวัสดุซึ่งทนต่อรอยขีดข่วนระดับสูง เช่น DiaMaster Thinline นาฬิกาออโตเมติกที่ผลิตด้วย Ceramos ซึ่งเป็นไฮเทคเซรามิกผสมกับโลหะ มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู หยิบใส่กับเสื้อผ้าได้ง่ายและหลากหลายแบบครับ
เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้สัมผัสนาฬิกา RADO ที่ขึ้นชื่อเรื่องวัสดุศาสตร์ครับ ความเป็น Master of Materials ทำให้เรารู้สึกถึงความแตกต่างเมื่อได้สวมใส่ ดีไซน์ของเรือนเวลาที่สวยโดดเด่นสไตล์คลาสสิกที่อยู่เหนือกาลเวลา วัสดุซึ่งหยิบมาสร้างสรรค์ล้วนทนทานต่อการขูดขีด ทั้งยังมีน้ำหนักเบา ใส่แล้วไม่รู้สึกหนัก ประกอบกับการเลือกสีของปีนี้ เรียกได้ว่าน่าสนใจมากทีเดียวครับ