Moonphase หรือ ข้างขึ้น ข้างแรม เป็นหนึ่งในวิธีการบอกเวลา และการเปลี่ยนผ่านของฤดูกาลมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นองค์ความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านยุคสมัยของประวัติศาสตร์มนุษย์ แม้ในปัจจุบันจะมีนาฬิการะบบต่าง ๆ ที่สามารถบอกเวลาได้อย่างแม่นยำจน Moonphase แทบไม่มีความจำเป็นในการใช้งานจริงอีกแล้ว แต่การบอกเวลาด้วย “ข้างขึ้น ข้างแรม” เช่นนี้ ถือเป็นหนึ่งในความคลาสสิก และความโรแมนติกที่แบรนด์นาฬิกาใส่เข้ามาให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ
ด้วยจุดเด่นในเรื่องของความคลาสสิกนี้เอง ที่ทำให้ Longines (ล็องยิ่นส์) หยิบเอาฟังก์ชันการบอก ข้างขึ้น ข้างแรม มาใส่ในนาฬิกา Longines Master Moonphase ซึ่งเป็นหนึ่งในนาฬิกาจาก Longines Master Collection ให้ผู้ที่หลงใหลในการบอกเวลาด้วยพระจันทร์ ได้จับจองเป็นเจ้าของ
สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักว่าฟังก์ชัน Moonphase ของนาฬิกามีที่มาอย่างไร ในบทความนี้ MenDetails ขอพาทุกท่านไปรู้จักกับฟังก์ชัน Moonphase ว่าเกิดขึ้นมาได้จากไหน และอยู่บนนาฬิกาข้อมือตั้งแต่เมื่อไหร่ พร้อมไปทำความรู้จักกับ Longines Master Moonphase ว่ามีความน่าสนใจอย่างไร ควรจับคู่กับการแต่งกายสไตล์ไหนครับ
การบอกเวลาด้วยพระจันทร์ในยุคโบราณ สู่ฟังก์ชัน Moonphase บนข้อมือ
ในยุคโบราณที่ยังไม่มีการคิดค้นระบบบอกวันเวลาแบบในปัจจุบัน พระอาทิตย์กับพระจันทร์ คือ สิ่งที่ใช้บอกเวลาของวันและฤดูกาลได้ดีที่สุด ทำให้เกิดนาฬิกาพระอาทิตย์ที่บอกเวลาของวัน กับนาฬิกาที่ใช้บอกข้างขึ้น ข้างแรม สิ่งเหล่านี้ทำให้คนในยุคโบราณรับรู้ถึงช่วงเวลาของปีที่เปลี่ยนผ่าน ทำให้สามารถวางแผนการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ไปจนถึงการกักตุนอาหารในฤดูหนาวได้
เครื่องมือที่ใช้บอกข้างขึ้น ข้างแรม สามารถย้อนกลับไปได้ถึงยุคกรีกโบราณ อย่างกลไก Antikythera ที่ถือเป็นคอมพิวเตอร์แบบอนาล็อกที่เก่าแก่ที่สุดของโลกชนิดหนึ่ง ใช้ในการคำนวณปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ก่อนที่มนุษย์จะเริ่มพัฒนา นาฬิกา Astronomical ขึ้นมา โดยนาฬิกาดังกล่าวนอกจากจะบอกเวลาของวันแล้ว ยังบอกข้อมูลทางดาราศาสตร์ต่าง ๆ เอาไว้ด้วย แต่อาจจะไม่แม่นยำเท่าไหร่นัก
เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 17 นาฬิกาบอกเวลาเรือนใหญ่ที่เราเรียกว่า นาฬิกาคุณปู่ ถือกำเนิดขึ้น นาฬิกาที่สร้างขึ้นในยุคนั้น ยังคงมีฟังก์ชันบอกข้างขึ้น ข้างแรม ให้เห็นกันอยู่ และเมื่อโลกของนาฬิกาพัฒนาไปอีกขั้น ย่อขนาดของนาฬิกาบอกเวลาให้เล็กลง สามารถพกใส่กระเป๋าได้กลายเป็น Pocket Watch ผู้พัฒนานาฬิกาก็ยังคงใส่ฟังก์ชันนี้ลงไปอยู่ในนาฬิกาบางรุ่น
จนกระทั่งในศตวรรษที่ 20 นาฬิกาข้อมือถือกำเนิดและเริ่มได้รับความนิยม แทนที่ Pocket Watch ฟังก์ชันการบอกข้างขึ้น ข้างแรมก็ยังคงปรากฏให้เห็น แต่ในยุคที่การบอกเวลาด้วยข้างขึ้น ข้างแรม ไม่จำเป็นในยุคใหม่อีกแล้ว ทำให้ฟังก์ชันนี้ค่อย ๆ หายไป ผู้ผลิตนาฬิกาหลายเจ้าเริ่มหันไปในความสนใจในความแม่นยำของนาฬิกา ไปจนถึงพัฒนาฟังก์ชันใหม่ ๆ เช่น การบอกวันที่ บอกเดือน บอกวันในสัปดาห์ การจับเวลา ไปจนถึงการกันน้ำและกันรอยขีดข่วนแทน
แต่ความน่าหลงใหลของการบอกเวลาด้วย ข้างขึ้น ข้างแรม ไปจนถึงความสวยงามของดีไซน์นาฬิกาที่มีฟังก์ชันนี้ ที่แต่ละแบรนด์ออกแบบหน้าปัดบอกข้างขึ้น ข้างแรม ไปจนถึงดีไซน์ดวงจันทร์ที่ต่างกัน ยังคงดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบความคลาสสิก และความโรแมนติกของการบอกเวลาด้วยพระจันทร์อยู่เสมอ ทำให้ฟังก์ชัน Moonphase ไม่ใช่สิ่งที่เอาไว้แค่บอกเวลาเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการดึงเสน่ห์ของการบอกเวลาแบบโบราณออกมา และยังเป็นการแสดงความสามารถในการออกแบบนาฬิกาที่มีกลไกความซับซ้อนของแต่ละแบรนด์ไปในตัวด้วยครับ
Longines ก็เป็นหนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกา ที่ให้ความสนใจในฟังก์ชัน Moonphase โดยแบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์นี้ มีประวัติความเป็นมาเริ่มต้นจากปี 1832 นี้ ถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีความเก่าแก่แบรนด์หนึ่ง ทำให้ยากจะบอกว่าฟังก์ชัน Moonphase ของ Longines เริ่มขึ้นเมื่อไหร่กันแน่ แต่ในยุคสมัยใหม่เมื่อกระแสของนาฬิกา Mechanical หวนกลับมา Longines จึงต้องการสืบสานจิตวิญญาณการผลิตนาฬิกาดั้งเดิม จึงได้ออกนาฬิกา Longines Master Collection มาในปี 2005 และหนึ่งในนั้นคือนาฬิกา Longines Master Moonphase นาฬิกาที่มีฟังก์ชัน Moonphase และฟังก์ชันบอกเวลาอื่น ๆ ที่เสน่ห์ความคลาสสิก ความสวยงาม และเสน่ห์ของ Longines ออกมาอย่างเต็มที่
นาฬิกา Longines Master Moonphase
Longines Master Collection เปิดตัวในปี 2005 และได้รับความนิยมจนกลายมาเป็น Collection หลักของ Longines โดยมี Longines Master Moonphase เป็นส่วนหนึ่งของ Collection และการกลับมาในครั้งนี้ มาในรูปแบบนาฬิกาประเภท Complication Watch หรือให้เข้าใจง่าย ๆ คือ นาฬิกาที่มีฟังก์ชันอื่นนอกเหนือจากบอกเวลาประกอบเข้ามาด้วย ถือเป็นนาฬิกาที่กลไกมีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าปกติ แสดงถึงความสามารถในการสร้างสรรค์นาฬิกาของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
นาฬิกาเรือนนี้ มาพร้อมกลไก Caliber L687 ขึ้นลานอัตโนมัติ (Automatic) สำรองพลังงาน 54 ชั่วโมง โดยโมเดล นี้ มีความพิเศษอยู่ที่ฟังก์ชันต่าง ๆ ในตัวเรือน ที่ไม่ได้แค่บอก Moonphase เท่านั้น แต่ยังมี ระบบจับเวลา (Chronograph) เข็มแสดงวันที่บนเลขรอบขอบตัวเรือน และยังมีหน้าปัดย่อยอีก 3 หน้าปัดที่มีฟังก์ชันต่างกัน ที่ Longines ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน
หน้าปัดย่อยที่เลข 6 นาฬิกา จะแสดงข้างขึ้น ข้างแรมพร้อมหน้าปัดย่อยทดเวลา 12 ชั่วโมง หน้าปัดย่อยที่ 9 นาฬิกา จะแสดงเวลาแบบ 24 ชั่วโมง และหน้าปัดย่อยที่ 12 นาฬิกา สามารถจับเวลา 30 นาที และแสดงวันและเดือนไปด้วย หลายคนอาจคิดว่า ฟังก์ชันเยอะแบบนี้ หน้าปัดน่าจะดูยากเอาการ แต่เมื่อได้เห็นหน้าปัดของนาฬิกาจริงแล้ว แม้ระบบกลไกจะซับซ้อน แต่หน้าปัดของนาฬิกาออกแบบมาให้ดูแล้วเข้าใจง่ายครับ
ตัวเรือน ทำมาจากสแตนเลสสตีล มีขนาดหน้าปัด 40 มม. ขนาดที่ถือว่าเป็นมาตรฐานของนาฬิกาผู้ชายในยุคนี้ หน้าปัดสีเงิน ตัดด้วยเข็มสีน้ำเงิน กระจกหน้าปัดทำจาก แซพไฟร์ คริสตัล (Sapphire Crystal) ป้องกันรอยขีดข่วน และแม้จะเป็นนาฬิกาที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับน้ำ หรือกีฬาทางน้ำ แต่ก็สามารถกันน้ำได้ 3 บาร์ มาพร้อมกับสายหนังอัลลิเกเตอร์สีน้ำตาล ให้ความรู้สึกคลาสสิกจากสายหนัง
Longines Master Moonphase เป็นนาฬิกาที่สะท้อนความสวยงามของการออกแบบ และคุณภาพของนาฬิกาที่ Longines ยึดถือเป็นสิ่งสำคัญตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง แม้จะมีฟังก์ชันและกลไกที่ซับซ้อน แต่ยังคงความเรียบหรู สวยงาม คลาสสิกและมีสไตล์เอาไว้ ทำให้มันอยู่ใน Longines Master Collection ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ที่สำคัญ Longines Master Moonphase ถือเป็น Complication Watch ที่มีราคาคุ้มค่าอย่างยิ่ง ด้วยกลไกมาตรฐาน Swiss Made ซ้อนกันถึง 3 กลไก ทั้งบอกเวลา, จับเวลา และระบุข้างขึ้นข้างแรม รวมไว้ในเรือนเดียวกับราคา 117,400 บาท แทบจะหาคู่แข่งระดับเดียวกันที่จะคุ้มค่าเท่านี้ไม่ได้เลย
สำหรับใครที่อยากครอบครอง Complication Watch ที่มีดีไซน์ไม่ซับซ้อน สามารถนำมาปรับกับสไตล์การแต่งตัวให้ดูเรียบหรู และคลาสสิกได้ นาฬิกาเรือนนี้ เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่เราคิดว่า สามารถเข้ากับผู้ชายหลายคนได้แน่นอน
Longines | ‘Elegance is an Attitude’
Styling with Longines Master Moonphase
นาฬิกา Longines Master Moonphase เคยมีบทบาทเข้าไปอยู่บนข้อมือของ Lee Min Ho นักแสดงชาวเกาหลีใต้ในซีรี่ส์ชื่อดังเรื่อง The King : Eternal Monarch (2020) โดยในฉากดังกล่าวนั้น Lee Min Ho สวมใส่ Longines Master Moonphase คู่กับเสื้อแจ็กเก็ต Double Breasted 6×3 สีน้ำเงินกรมท่า และกางเกงขายาวสีขาวสะอาดตา ดูแล้วสง่าสมบทบาทราชันย์ เราจึงขอเอาฉากดังกล่าวมาเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งเมื่อนำมาปรับใช้จริงก็พบว่าสไตล์ดังกล่าวเสริมบุคลิกของนาฬิกาให้โดดเด่นออกมาได้ดีเลยทีเดียว
เมื่อสโลแกนของ Longines คือ Elegance is an Attitude แม้เราไม่ได้มีสถานะเป็นราชาหรือผู้ดีชนชั้นสูง แต่เราเชื่อว่าการที่ผู้ชายมี Attitude อยู่ภายในใจที่ต้องการพัฒนาตัวเองเป็นผู้ชายที่ดีขึ้นกว่าเดิม มีบุคลิกภาพโดยรวมที่ดียิ่งขึ้น นั่นแหละคือ “ความสง่างาม” หรือ Elegance ที่แท้จริง ซึ่ง MenDetails เห็นด้วยกับ Longines เป็นอย่างยิ่ง
MenDetails ปรับรูปแบบของเสื้อแจ็กเก็ต Double Breasted จากตัวสั้น ๆ ที่มีแถวกระดุมแบบ 6×3 ของ Lee Min Ho กลายมาเป็นแจ็กเก็ตที่ “รีแล็กส์” ขึ้นอีกหน่อยด้วยแถวกระดุมแบบ 6×2 กับเสื้อ Checker Shirt ลายตารางสีฟ้า เพิ่มลูกเล่นไม่ให้จำเจนัก กับกางเกง Dress Trousers เอวปกติ สีขาว และนาฬิกา Longines Master Moonphase หน้าปัดขาวที่ช่วยเสริมให้สไตล์นี้ลงตัวและสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
ถึงแม้สไตล์เสื้อแจ็กเก็ต Double Breasted ข้างต้นจะดูเข้ากันได้ดีกับความหรูหราของนาฬิกา Longines Master Moonphase ก็ตาม แต่ MenDetails ก็เชื่อว่าเราสามารถ Dress Down หรือดึงความลำลองของนาฬิกาให้ออกมามากขึ้นกว่านี้ได้เช่นกัน ซึ่งเราสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการถอดเสื้อแจ็กเก็ตและเสื้อเชิ้ตออก แล้วเปลี่ยนไปใส่เสื้อโปโลแขนยาว ที่มีสีน้ำตาลเข้ากับสายนาฬิกาและแมตช์กับ รองเท้า Penny Loafers สีน้ำตาล ด้านล่างอีกด้วย เพียงเท่านี้เราก็จะได้แนวทางการแต่งกายอีกสไตล์หนึ่งที่ไม่ได้เป็นทางการเกินไป แต่ก็ยังเรียบหรูดูดีเหมาะสมกับบุคลิกโดยรวมของนาฬิกาเรือนนี้ครับ
แม้ในปัจจุบัน ฟังก์ชันการใช้นาฬิกาสุดคลาสสิคอย่าง Moonphase สำหรับการบอกข้างขึ้นข้างแรม หรือ Chronograph สำหรับการจับเวลาบนนาฬิกาประเภทกลไก จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ไปแล้ว แต่เสน่ห์ในกลไกกันอันแสนซับซ้อนเหล่านี้ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง นั่นเพราะมันคือหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงอัจฉริยภาพในทางวิศวกรรมเรือนเวลาดั้งเดิม และนาฬิกา Longines Master Moonphase คือหนึ่งในตัวแทนของความเป็นเลิศเหล่านั้น ที่ยังคงโลดแล่นให้ผู้ชายที่หลงใหลในกลไกเรือนเวลาได้ชื่นชม
ใครสนใจสามารถไปลองสัมผัสด้วยตัวเองที่เคาน์เตอร์ของ Longines ทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Longines.co.th หรือที่ Social Media ต่างๆ ของ Longines
Facebook | facebook.com/Longinesth
[email protected] | @Longines_th
Twitter | twitter.com/longines