ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ เน็กไท ผู้ชาย ได้รับความสนใจน้อยมากในกลุ่มผู้ชายชาวไทย เพราะหากเราคิดดูให้ดี การที่ไม่ค่อยมีใครสวมใส่เน็กไทในปัจจุบัน นั่นแปลว่าในทางกลับกัน เสน่ห์ของ เน็กไท ก็จะเพิ่มและยิ่งเป็นจุดเด่นขึ้นไปโดยปริยาย สังเกตได้จากภายในงานใดไม่ค่อยมีใครผูกเน็กไท มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ใช้งานมัน คนกลุ่มนั้นก็จะแลดูแต่งตัวได้ภูมิฐานกว่าทันที แม้พวกเขาทั้งหมดจะใส่เครื่องแต่งกายชิ้นอื่นเหมือน ๆ กันก็ตาม
เน็กไท Full Lined VS Unlined
อย่างไรก็ดี เน็กไท แต่ละเส้นไม่ได้ตัดเย็บมาเหมือน ๆ กันทั้งหมด ตัวเน็กไทเองก็มีหลายแบบหลายประเภท เช่น ความกว้างที่แตกต่างกัน, ใช้เนื้อผ้าไม่เหมือนกัน, ผูกแล้วได้ปมที่เล็กใหญ่ไม่เท่ากัน แถมยังมีรูปแบบการตัดเย็บที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย อย่างบางเส้นเป็นแบบ Full Lined ส่วนบางเส้น Unlined บางเส้นมี Canvas บางเส้นก็ไม่มี เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ทำให้เน็กไทมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายแทบไม่ต่างจากเสื้อสูทหรือเบลเซอร์เลยด้วยซ้ำไป
เน็กไทที่เราเห็นวางขายกันตามร้านทั่วไป มักจะเป็น เน็กไท แบบที่มีซับในเต็ม หรือ Full Lined สังเกตได้จากเนกไทประเภทนี้จะมีผ้าปิดทับ ไม่เปิดช่องให้เรามองเห็นรายละเอียดภายในใด ๆ ทั้งสิ้น ที่เป็นเช่นนี้ก็ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ทั้งในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน รวมถึงต้นทุนการผลิตที่ลดลง เพราะเน็กไทเหล่านี้สามารถใช้วัสดุอะไรลงไปด้านในก็ได้เพื่อให้เน็กไทอยู่ทรง รวมถึงสภาพของผ้าและคุณภาพการตัดเย็บด้านในจะเป็นแบบไหนก็ได้ เพราะสุดท้ายก็จะมีผ้าซับใน (Lining) คลุมทับเอาไว้ช่วยปิดบังทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในเน็กไทเหล่านั้นนั่นเอง
กลับกันเน็กไทที่มีราคาขยับขึ้นมาสูงจนถึงสูงมาก เราจะพบว่าเน็กไทประเภทนี้ ค่อย ๆ “เปลื้องผ้า” หรือลดทอนซับในของเน็กไทลงเรื่อย ๆ จนเผยให้เห็น “ไส้ใน” ที่อยู่ภายในเน็กไท เราจะเริ่มเห็นว่าเน็กไทเหล่านี้ใช้วัสดุอะไรเป็นไส้ในที่ทำให้เน็กไทอยู่ทรง ซึ่งส่วนใหญ่เน็กไทคุณภาพสูงจะใช้ แคนวาส (Canvas) ที่ทำจากผ้าขนสัตว์อยู่ด้านใน และเน็กไทเหล่านี้ก็ต้องตัดเย็บอย่างละเอียดเรียบร้อยมากขึ้น เพราะไม่มีไลน์นิ่งคอยปิดบังรอยเย็บแล้ว ดังนั้นหากเย็บแบบขอไปที ผู้ใช้ก็จะเห็นรอยเย็บที่ไม่เรียบร้อยเหล่านั้นได้ชัดเจน เน็กไทแบบนี้ส่วนใหญ่จึงมักจำเป็นต้องเย็บด้วยมือเป็นหลัก และผ้าด้านในต้องไม่มีตำหนิ ส่งผลให้มีต้นทุนการผลิตและราคาที่สูงขึ้นโดยเปรียบเทียบนั่นเอง
Unlined Folded Tie
เน็กไทที่ลดทอน Lining แต่ยังมี Canvas อยู่ด้านใน ถือได้ว่าเป็นเน็กไทที่ “เปลือยกาย” ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังมีเน็กไทอีกแบบที่ยิ่งลดทอนไส้ในลงไปมากกว่านั้นอีก เพราะตัดออกทั้ง Lining แถมยังกำจัดชั้น Canvas ออกไปจนเหี้ยนเตียนอีกด้วย คำถามคือ เมื่อไม่มีแม้แต่ Canvas ที่ทำหน้าที่ช่วยให้เน็กไทอยู่ทรงแล้ว เน็กไทประเภทนี้จะใช้อะไรเพื่อให้ตัวเองอยู่ทรงสวย ๆ ได้อีกเล่า?
คำตอบก็คือการใช้เนื้อผ้าของตัวเองทำเป็นโครงสร้างของเน็กไทขึ้นมาแทน Canvas เสียเลย ด้วยการ “พับผ้า”เป็นทบหลายชั้นจนเป็นโครงสร้างของเน็กไทขึ้นมา ซึ่งเราจะเรียกเน็กไทประเภทนี้ว่า Unlined Folded Tie นั่นเอง โดยเน็กไทเหล่านี้ก็จะแบ่งได้อีกหลายประเภทตามจำนวนครั้งของการพับผ้า ถ้าพับ 4 ทบ ก็เรียก 4 Folds Tie พับ 6 ทบก็เรียก 6 Folds Tie เป็นต้น
เมื่อเป็นเช่นนี้สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งของ Unlined Folded Tie จึงอยู่ที่คุณภาพของผ้าที่นำมาทำตัวเน็กไท ซึ่งจะต้องเป็นผ้าที่ทนทาน ใช้งานได้นาน แถมยังต้องสามารถอยู่ทรงสวย เด้งตัวได้ดี เพื่อให้นำมาพับทบเป็นเน็กไทแล้วสามารถทำให้เน็กไททั้งเส้นอยู่ทรงสวยงามโดยไม่ต้องมี Lining และ Canvas แถมการตัดเย็บยิ่งต้องเนี้ยบขึ้นอีกด้วย นี่จึงทำให้เน็กไทประเภท Unlined Folded Tie ยิ่งมีราคาขยับสูงขึ้นไปอีก เพราะต้องใช้ผ้าที่คุณภาพสูงและมีราคาแพง แถมยัง “เปลืองผ้า” เพราะต้องนำผ้ามาพับอีกหลายทบ หนำซ้ำกระบวนการพับและตัดเย็บนั้นต้องทำด้วยมือล้วน ๆ อีกต่างหาก
Vandafine Clothing 4 Folds & 6 Folds Tie
Unlined Folded Tie ใช่ว่าจะหาซื้อง่ายในประเทศไทย มีเพียงบางร้านเท่านั้นที่ตัดสินใจเอามันมาวางขาย อย่างเช่นร้าน The Refinement บนห้าง Central Embassy ที่หยิบเอาแบรนด์เน็กไทแฮนด์เมด 100% ขวัญใจ MenDetails อย่าง Vandafine Clothing มาวางจำหน่ายในรูปแบบ 4 Folds (พับ 4 ทบ) ที่จะมี interlining บาง ๆ เฉพาะช่วงกลางของเน็กไทหลัง Bar Tag และ 6 Folds (พับ 6 ทบ) ที่เป็นแบบ Unlined โดยสมบูรณ์
เพียงแค่จับเนื้อผ้าของ Folded Tie จาก Vandafine Clothing เราก็รู้สึกได้ทันทีว่าแตกต่างจากผ้าทั่ว ๆ ไป และเมื่อกางเน็กไทออกดูด้านใน เราก็จะเห็นรูปแบบการพับผ้าเป็นทบ ๆ เข้าหากัน จนตัวเน็กไทหนาขึ้นและอยู่ทรงด้วยผ้าของตัวเอง ยังไม่ต้องนับการม้วนขอบผ้าแบบ Hand Rolled Edge และเย็บติดกันด้วยมือล้วน ๆ สิ่งเหล่านี้คืองานศิลปะชั้นดีที่หากเราทำความเข้าใจสักนิดก็จะรู้สึกได้ทันทีว่ามันน่าทึ่งแค่ไหนกว่าจะทำเน็กไทแบบนี้ขึ้นมาได้สักเส้นหนึ่ง
อ่านถึงตรงนี้บางคนอาจคิดว่า ยิ่งมีจำนวนทบที่มาก แปลว่าเน็กไทก็จะยิ่งหนักและหนาขึ้น แต่เรื่องนี้ไม่จริงเสมอไป เพราะถึงแม้จำนวนการพับทบจะมากกว่า แต่ใช่ว่าเน็กไทแบบ 6 Folded จะหนาและหนักกว่า 4 Folded เสมอไป นั่นเพราะความหนาและน้ำหนักของเน็กไทจะขึ้นอยู่กับประเภทของผ้าด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น เน็กไท 6 Folded ที่ใช้ผ้าไหมบาง ๆ ก็จะมีน้ำหนักตัวโดยรวมที่เบากว่าและมีความบางกว่าเน็กไท 4 Folded ที่ใช้ผ้าขนสัตว์หนา ๆ หน่อยนั่นเอง
สิ่งที่ทำให้ MenDetails ชื่นชอบ Unlined Folded Tie คงอยู่ที่ความเป็นธรรมชาติของมัน เมื่อผูกเน็กไทแบบนี้ออกมาแล้วจะได้ปมที่ดูอ่อนช้อยสวมงามไม่แข็งทื่อ อีกทั้งการทิ้งตัวของเน็กไทแบบนี้จะดูกลมมนมีมิติ ซึ่งแตกต่างจากเน็กไทแบบ Full Lined หรือแบบมี Canvas ที่จะดูแบนราบกว่า แลดูเป็นทางการมากกว่า เราจึงชอบหยิบเอา Unlined Folded Tie มาใช้ในยามที่อยากได้เน็กไทที่ดู “กลม ๆ” ไม่แข็งเกร็งมากนัก มอบสไตล์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นสำหรับการแต่งกายกึ่งทางการไปจนถึง Smart Casual นั่นเอง
เน็กไท อาจดูเป็นเครื่องแต่งกายที่แสนธรรมดาที่ผู้ชายหลายคนมองข้ามและคิดว่ามันไม่น่าจะทำยากหรือซับซ้อนอะไร จนเลยเถิดกลายเป็นความรู้สึกไม่ค่อยเห็นคุณค่าของ เน็กไท ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะถ้าหากเราศึกษารายละเอียดของ เน็กไท ผู้ชาย ให้ลึกอีกสักนิด จะพบว่ามันมีความละเมียดละไมและความแตกต่างที่เป็นเสน่ห์อันน่าหลงใหลซ่อนอยู่ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ได้ว่า “Devil is in the details” จริง ๆ ใครที่อยากพิสูจน์ว่า Unlined Folded Tie แบบนี้ดีอย่างไร ลองแวะไปสัมผัส 4 Folded กับ 6 Folded Tie จาก Vandafine Clothing ได้ที่ร้าน The Refinement ชั้น 1 ห้าง Central Embassy ได้เลยนะครับ