Series ‘MDs’ Style Icons’ ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ ‘Icons of Men’s Style’ โดย Josh Sims ที่รวบรวมประวัติความเป็นมาของเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษฉบับคลาสสิกตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เครื่องแต่งกายเหล่านี้ก็จะยังคงความคลาสสิกอยู่คู่กับสไตล์ของผู้ชายไปได้อีกนานแสนนาน
History of Trench Coat
เรื่องราวของเสื้อเทรนช์โค้ท (Trench Coat) เริ่มต้นขึ้นโดยบุรุษนามว่า John Emery (จอห์น เอมเมอรี่) เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายบนถนนรีเจ้นท์ (Regent Street) ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้พัฒนาผ้าวูลประเภทหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติสามารถกันน้ำได้เป็นอย่างดี เขาได้จดสิทธิบัตรผ้าประเภทนี้ในปี ค.ศ. 1853 และเริ่มผลิตเสื้อผ้าจากผ้าชนิดนี้ภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อว่า ‘Aquascutum’ (อะควา-สะคู-ทูม) ซึ่งเป็นภาษาละตินที่แปลว่า “กันน้ำ” John Emery และ Aquascutum ได้รับว่าจ้างจากกองทัพอังกฤษให้ผลิตเสื้อคลุมกันฝนสำหรับนายทหารในสงครามไครเมีย (Crimean War 1853-1856)
โฆษณาเสื้อ Field & Trench Coats โดยแบรนด์ Aquascutum จากถนนรีเจ้นท์ กรุงลอนดอน
บุรุษอีกคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความเป็นมาของ Trench Coat นั่นก็คือ Thomas Burberry (โธมัส เบอร์เบอรี่) เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายที่เน้นขายเสื้อผ้าที่เกี่ยวกับการเดินทางผจญภัยเป็นหลัก Burberry ได้คิดค้นผ้าอีกประเภทหนึ่งที่มีชื่อว่า “Gabardine” (กาบาร์ดีน) ที่เป็นผ้าฝ้ายค็อตต้อนทอแน่น เคลือบด้วยเคมี ผ้าชนิดนี้มีคุณสมบัติโปร่งลม แต่กันน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โฆษณาเสื้อ The Tielocken หรือ Trench Coatโดยแบรนด์ Burberry
อย่างไรก็ดี Burberry ไม่ได้หยิบผ้าการ์เบอดีนไปทำเสื้อผ้าตั้งแต่ต้น แต่นำไปใช้ผลิตเต๊นท์ให้นักสำรวจชื่อดัง Roald Amundsen (โรอัลด์ อะมุนด์เช่น) สำหรับเดินทางไปพิชิตขั้วโลกใต้ ต่อมาเซอร์ เออร์เนสท์ แชคเคิลตั้น (Sir Ernest Shackleton) ผู้มีอาชีพเป็นนักสำรวจเช่นกัน ได้ขอให้ Burberry จัดการแต่งตัวเขาด้วยผ้าการ์เบอดีนทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อเดินทางสำรวจทวีปแอนตาร์กติก้า (Antarctica) และนี่เองจึงเป็นที่มาของเสื้อโค้ทกันฝนตัวแรกจาก Burberry
ชื่อ The Tielocken โดยแบรนด์ Burberry ได้มาจากเข็มขัดตรงช่วงเอวและปลายแขนเสื้อที่มีไว้ปรับให้กระชับกับร่างกาย อีกทั้งช่วยกันฝนได้ดีขึ้น
ด้วยจุดเด่นของผ้ากันน้ำที่ทั้งคู่มี ทำให้ Aquascutum และ Burberry ได้กลายเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้ากันฝนรายใหญ่ ป้อนให้กับกองทัพอังกฤษในสงครามหลายครั้ง โดยเฉพาะ Burberry ที่ได้พัฒนาเสื้อโค้ทที่มีชื่อว่า ‘Tielocken’ มาจากลักษณะเด่นของเสื้อโค้ทที่ใช้เข็มขัดผ้าสำหรับรัดช่วงลำตัวให้แน่นและเข้ารูป (Tie-lock) อันถือเป็นต้นแบบ หรือ Prototype ที่สำคัญที่สุด จนกลายมาเป็น Trench Coat อย่างในปัจจุบันนี้นั่นเอง
The Style Icon
สิ่งหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ Trench Coat กลายเป็น Style Icon สำหรับผู้ชาย นั่นก็คือการไปปรากฎกายบนตัวละครนำในภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง นักแสดงชาย Humphrey Bogart (ฮัมฟรี่ย์ โบการ์ต) สวมใส่ Trench Coat สีสโตน รับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Casablanca (1942) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ดังระเบิดจนผู้ชายฝั่งตะวันตกจำนวนมากพยายามควานหา Trench Coat แบบเดียวกับพระเอกมาสวมใส่บ้าง
Humphrey Bogart กับบทบาทสร้างชื่อใน Casablanca (1942) ที่ทำให้ทั้งเขาและเสื้อเทรนช์โค้ทโด่งดังเป็นพลุแตก
ฝั่งอังกฤษมีนักแสดงชายชื่อดังอย่าง Michael Caine (ไมเคิล เคน) รับบทเป็นนักฆ่าระดับพระกาฬในภาพยนตร์เรื่อง Get Carter (1971) โดยสวมใส่ Trench Coat สีดำออกปฏิบัติการล้างแค้น และด้วยบทพระเอกที่โหดเต็มขั้น เท่เต็มขีด ของเคน ทำให้ Trench Coat สีเข้มแบบนี้ขายดีระเบิดเช่นกันในเวลาต่อมา
Michael Caine กับบทบาทนักฆ่าใน Get Carter สวมใส่เสื้อ Trench Coat สีดำให้ดูโหดทมิฬ
ภาพยนตร์ดังทั้งหลายเหล่านี้จึงถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างยิ่ง ที่ทำให้ “เสื้อโค้ททหาร” อย่าง Trench Coat เปลี่ยนสถานที่ใช้จากในสนามรบตั้งแต่สมัยสงครามโลก เข้าสู่วงจรเครื่องแต่งกายของผู้ชายสมัยใหม่จนกลายเป็น Classic Menswear โดยไม่ตกหล่นหายไปตามกาลเวลา
Alain Delon กับเสื้อเทรนช์โค้ทในภาพยนตร์ Le Samourai (1967) เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้ Trench Coat กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
ลักษณะของเสื้อเทรนช์โค้ท
Trench Coat คือเสื้อโค้ทที่มีจุดประสงค์สำหรับเอาไว้ “กันฝน” เป็นสำคัญ เพราะฉะนั้นส่วนประกอบต่างๆ ของเสื้อชนิดนี้จึงเน้นที่การปกป้องร่างกายจากฝนที่ตกลงมาแทบทั้งสิ้น
ผ้า Gabardine Cotton เคลือบสารที่มีคุณสมบัติสามารถกันน้ำได้ดีพอสมควร
ในปัจจุบันเสื้อเทรนช์โค้ทนิยมใช้ผ้าฝ้ายกาบาร์ดีนที่ทางฝ่าย Burberry เป็นผู้คิดค้นเป็นหลัก ตัวเสื้อมีลักษณะแบบ Double-Breasted หรือกระดุมสองแถว ความยาวของเสื้อโค้ทอยู่ที่ระดับหัวเข่าจนถึงกลางหน้าแข้ง มีเข็มขัดผ้ารัดเสื้อโค้ทตรงช่วงเอวเพื่อช่วยให้เสื้อกระชับกับตัวมากขึ้น, อินทร์ธนูประดับยศตรงช่วงไหล่เพื่อรำลึกถึงมรดกเสื้อผ้าทางการทหารที่ยังหลงเหลืออยู่บ้างในตัว Trench Coat
ส่วนประกอบต่างๆ ของ Trench Coat | credit : The Gentlemanual
ห่วงเหล็ก D-Ring ด้านหลังตัวเสื้อโค้ท มีประโยชน์ทางการทหาร ไว้ใช้สำหรับแขวนอุปกรณ์ กล่องเครื่องมือและเครื่องกระสุนปืน ส่วนจุดอื่นๆ ที่เป็นเหมือนเครื่องหมายการค้าสำหรับการ “กันฝน” ของ Trench Coat ก็ได้แก่ “Storm Flap” หรือชิ้นผ้าด้านหน้าตรงหัวไหล่ทางด้านขวา ที่มีประโยชน์ดั้งเดิมในการช่วยซับแรงดีดจากปืนยาวไรเฟิลที่ใช้สู้รบกันในสงคราม, “Throat Latch” ด้านหลังปกเสื้อที่สามารถรัดกับต้นคอเพื่อกันน้ำไหลเข้าจากคอ, เข็มขัดหนังที่ปลายแขนเสื้อ มีไว้ผูกให้แขนเสื้อกระชับข้อมือเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าจากปลายแขนเสื้อเช่นกัน และสุดท้าย “The Rain Shield” ที่เป็นแผ่นผ้าอยู่ด้านหลัง ทำหน้าที่คล้าย Storm Flap ช่วยไล่น้ำออกจากหลังให้เร็วขึ้น
The Rain Shield เป็นชิ้นผ้าที่ยาวลงมาถึงประมาณกึ่งกลางหลังของเสื้อโค้ท ช่วยระบายน้ำและป้องกันไม่ให้น้ำฝนซึมเข้าตัวเสื้อด้านใน
สีของ Trench Coat โดยดั้งเดิมจะใช้สีเขียวทหารและสีกากี หรือสีน้ำตาลอ่อนเป็นหลัก ต่อมาได้เพิ่มสีอื่นๆ ที่เป็นสีประจำของ Classic Menswear ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น สีกรมท่า, สีเทา แม้แต่สีดำ แต่ถ้าหากให้ MenDetails แนะนำ เราขอ Recommend ให้คุณเลือกเอาระหว่างสีกากี หรือ สีกรมท่า เพราะมีความคลาสสิก และจะทำให้เราสามารถหยิบใช้งานได้หลากหลายกว่าครับ
ในปัจจุบัน Trench Coat ได้กลายเป็นเครื่องแต่งกายระดับ ‘Style Icons’ สำหรับคนหนุ่มสาวทั่วโลก อีกทั้งมีการปรับเปลี่ยนสไตล์และการออกแบบ Trench Coat ออกไปอย่างหลากหลาย แต่สำหรับแบรนด์ Trench Coat ที่ถือเป็น iconic จริงๆนั้น ยังคงเป็น 2 แบรนด์ที่ได้รับเครดิตว่ามีส่วนในการคิดค้นเสื้อโค้ทชนิดนี้มาร่วมกัน ได้แก่ Aquascutum และ Burberry นั่นเอง และด้วยราคาที่ปรับสูงขึ้นตามการประสบความสำเร็จในโลกแฟชั่นของแบรนด์อย่าง Burberry ก็ยิ่งทำให้เสื้อเทรนช์โค้ทรุ่น Original ราคาสูงลิ่วของแบรนด์นี้ กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของสถานะทางสังคมได้เช่นกัน
ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้ Trench Coat ของแท้จาก Burberry กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์แสดงสถานภาพทางสังคมของผู้มั่งมีในปัจจุบัน | credit : Mr.Porter
เรื่องราวต้นกำเนิดของ Trench Coat ที่เกิดจากความโหดร้ายของสงคราม อาจถูกเจือจางจนแทบไม่มีร่องรอยหลงเหลืออีกแล้วสำหรับผู้คนที่นิยมใส่ Trench Coat เพื่ออรรถประโยชน์ หรือเพื่อประกาศฐานะทางสังคม (ถ้า Trench Coat ของคุณเป็น Burberry หรือ Aquascutum ของแท้จริงๆ) แต่สำหรับความอมตะ และเป็น Style Icon ของ Trench Coat จะยังคงอยู่ต่อไป และจะยังคงความคลาสสิกไปอีกนานเท่านานอย่างแน่นอน