หากตั้งคำถามว่ากางเกงประเภทไหนที่ผู้ชายทั่วโลกนิยมใส่กันมากที่สุด MenDetails เชื่อว่า ‘กางเกงยีนส์’ ไม่มีวันหลุดพ้นสามอันดับแรกในใจพวกเราแน่นอน เป็นเวลากว่าร้อยปีมาแล้วที่คุณ Levi Strauss ได้ให้กำเนิดกางเกงประเภทนี้ขึ้นมาบนโลกพร้อมกับแบรนด์ ‘Levi’s’ ซึ่งถ้าจะบอกว่าเป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า ‘Jeans’ ก็คงจะไม่ผิดมากมายอะไรนัก
ระยะเวลากว่า 100 ปีที่ผ่านมา “กางเกงยีนส์” มีวิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ทั้งเทคโนโลยีการผลิตที่ดีขึ้น, เนื้อผ้าที่เปลี่ยนไป รวมถึงทรงของกางเกงที่ต้องปรับไปตามกระแสความนิยมของผู้คนในแต่ละยุคสมัย บางยุคก็ชอบขาตรงเอวสูง บางยุคชอบขาม้า และยุคปัจจุบันที่เน้นกางเกงยีนส์ Slim หรือ Skinny Fit เอวต่ำ เป็นต้น จนบางครั้งอาจทำให้ผู้ชายที่ชอบสไตล์วินเทจย้อนยุค ที่ไม่ได้อยู่ในกระแสหลักของปัจจุบัน อาจตั้งคำถามกับตัวเองเบาๆ ว่า “เราเกิดผิดยุคหรือเปล่า?”
Levi’s Vintage Clothing ‘LVC’ 1944
ต่อให้เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการยีนส์ขนาดไหน แต่ Levi’s ก็คงไม่อาจฝืนกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกแฟชั่นไปได้ งานออกแบบที่เข้ากับยุคสมัยและงานผลิตแบบโรงงานขนาดใหญ่จึงต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โชคยังดีที่ Levi’s ยังคงเก็บกางเกงยีนส์ส่วนเล็กๆ เป็นคอลเล็กชั่นที่เรียกว่า Levi’s Vintage Clothing หรือ LVC เอาไว้ให้ผู้ชายที่ชอบกางเกงยีนส์ในสไตล์ “วินเทจย้อนยุค” ได้เชยชมกัน
กางเกงยีนส์ใน Series ‘LVC’ จะถูกจัดแบ่งรุ่นออกเป็น “ปีค.ศ.” ซึ่ง MenDetails ได้เคยนำรุ่น ‘1954’ และ ‘1947’ มารีวิวให้ชาว MenDetails ได้อ่านกันไปแล้ว มาในครั้งนี้ถึงคิวของ “รุ่นใหญ่” อีกรุ่นหนึ่งนั่นคือ LVC 1944 ตัวนี้นี่แหละครับ
‘The Features’ ลักษณะเด่นของ LVC 1944
-Levi’s Shop ช่วงปี 1940s จาก Levi’s Strauss & Co. Archives–
ปีค.ศ. 1944 เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์โลกยุคสมัยใหม่นั่นคือเป็นยุคสมัยที่สงครามโลกครั้งที่สองกำลังเข้าสู่จุดไคลแม็กส์ และเป็นปีที่สหรัฐอเมริกาอยู่ในระหว่างการทำสงครามอย่างหนักหน่วง งบประมาณและทรัพยากรส่วนใหญ่ที่ตัวเองมี จึงต้องทุ่มเทไปที่การสู้รบเป็นหลัก
-ภาพผู้คนต่อคิวเลือกซื้อกางเกงยีนส์ในปี 1944 ถ่ายที่เมืองเบิร์กลี่ย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย | credit : Collater.al–
-นี่คือจดหมายที่แนบมาพร้อมกับกางเกง บอกเล่าเรื่องราว ณ เวลานั้นให้ได้ทราบกัน-
ที่น่าสนใจคือเรื่องราวดังกล่าวส่งผลกระทบต่อโรงงานผลิตกางเกงยีนส์ของ Levi’s ในอเมริกาเช่นกัน รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ออกคำสั่งให้โรงงานผลิตสินค้าทุกชนิดช่วยกันลดการใช้วัสดุอย่างเหล็ก, เส้นด้าย และผ้าลง เพื่อนำวัตถุดิบเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ในทางสงครามแทน กางเกงยีนส์ของ Levi’s ที่ผลิตในช่วงปี 1944 นั้นจึงเป็นกางเกงยีนส์ที่ลดทอนรายละเอียดบางอย่างลง โดยมีจุดสำคัญที่น่าสนใจเช่น
-ซ้ายคือ LVC ปี 1947 ใช้ลักษณะการเย็บลายด้วย Double-Needle Machines เป็นครั้งแรก แต่ในปี 1944 ทาง Levi’s จำเป็นต้องลดต้นทุน ทำให้ต้องใช้สีเพ้นท์ลงบนกระเป๋าหลังแทน-
Levi’s ได้รับคำสั่งให้ลดการใช้ด้ายลงด้วยการยกเลิกการเย็บลวดลายโค้งปีกนกบนกระเป๋าหลัง เพราะมองว่าเป็นเพียงการเย็บเพื่อความสวยงามเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต่ทาง Levi’s ไม่คิดแบบนั้น และเห็นว่าลวดลายดังกล่าวเป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่อาจตัดออกได้ จึงหาทางออกให้ตัวเองด้วยการใช้วิธี “ลงสี” (Hand Painting) เป็นลวดลายบนกระเป๋าหลังแทน สีดังกล่าวจะค่อยๆ หลุดออกไปเมื่อใส่กางเกงยีนส์ไปนานๆ แต่นั่นก็กลายเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้คนรักกางเกงยีนส์ได้รู้ว่า นี่คือ LVC 1944 แน่นอน
-กระดุมโดนัท ลวดลายช่อมะกอก อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของ LVC ปี 1944-
นอกจากนี้ Levi’s LVC 1944 ยังโดนสั่งให้เอาหมุดที่ย้ำตรงปลายเป้ากางเกงออก, หมุดเหล็กตรงกระเป๋า Coin Pocket ก็ต้องอันตรธานหายไป รวมถึงเข็มขัดผ้าด้านหลังกางเกงที่เคยมีในซีรี่ส์ 1933 ก็ถูกเอาออกจนหมด ทำให้ LVC 1944 กลายเป็นกางเกงยีนส์รุ่นแรกของ Series 501 ที่ไม่มีเข็มขัดหลัง (Back Cinch) และเป็นเช่นนั้นมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งบรรดากระดุมของรุ่น 1944 ก็ใช้เป็น กระดุมแบบโดนัท ที่จะมีช่องว่างตรงกลางเป็นรูโบ๋ ทั้งนี้เพื่อช่วยลดการใช้โลหะให้น้อยลงกว่ากระดุมแบบตัน จุดสังเกตคือกระดุมเม็ดบนสุดจะมี ลวดลายช่อมะกอก อันถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของรุ่นนี้เช่นกัน
จุดสำคัญอีกจุดหนึ่งที่เริ่มมีเป็นครั้งแรกในกางเกงยีนส์ LVC 1944 นั่นก็คือตัวแถบสีแดงบนกระเป๋าหลังที่มีตัวอักษรสีขาว LEVI’S จนเป็นที่มาของชื่อเรียกแถบดังกล่าวว่า ‘big E’ ซึ่งถ้าจะพูดกันตรงๆ ก็ฟังดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่นักกับการประหยัดในภาวะสงคราม แต่ดันเพิ่มแถบผ้าสีแดงนี้ขึ้นมา แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว นี่ก็เลยกลายเป็นอีกเอกลักษณ์ของ Levi’s ที่อยู่บน LVC 1944 เป็นครั้งแรกครับ
‘The Fit’ ทรงของ LVC 1944
เนื่องด้วยกางเกงยีนส์ LVC 1944 ตัวนี้ใช้ผ้าจากโรงงาน Cone Mills ในประเทศสหรัฐอเมริกาขนาด 12 ออนซ์ ที่มีลักษณะเป็นแบบ Shrink to Fit โดยจะรัดตัวแน่นขึ้นกลายเป็น 14 ออนซ์ และลดไซส์ลงเล็กน้อยหลังจากที่นำไปแช่น้ำ ดังนั้นสัดส่วนที่เราวัดได้นี้จะเป็นแบบก่อนแช่น้ำนะครับ เมื่อนำไปแช่น้ำเรียบร้อยแล้ว ขนาดของกางเกงจะหดลงไปประมาณ 1 นิ้ว หรือ 2-3 เซ็นติเมตร ก่อนที่จะค่อยๆ ยืดออกตามสัดส่วนของร่างกายเราอีกครั้ง ส่วนการเลือกซื้อนั้น MenDetails แนะนำให้คุณไปลองกางเกง LVC 1944 ทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ วิธีการคือให้ลองลดไซส์ไปเรื่อยๆ จนเจอขนาดที่เราสามารถกลัดกระดุมเม็ดบนสุดได้แบบพอตึงๆ แน่นๆ จากนั้นก็หยิบตัวนี้ไปจ่ายตังค์ได้เลยครับ
ทรงกางเกงของ Levi’s LVC 1944 เป็นทรงตรง Regular Fit โดยมีความโค้งตรงช่วงเอวแบบ ‘Round Top’ รับกับสะโพกลงมาจนถึงประมาณช่วงเข่า จากนั้นก็ตัดตรงลงมาจนถึงปลายขาที่มีช่วงขาค่อนข้างกว้างหากเทียบกับกางเกงยีนส์สไตล์ Slim Fit ที่ผู้ชายในยุคปัจจุบันนิยมใส่กัน โดยเราวัดความกว้างของปลายขากางเกง (Leg Opening) ก่อนแช่น้ำได้ที่ 22 เซ็นติเมตร หรือราว 8.5 นิ้ว
-Round Top + Straight Leg ของ LVC 1944 ถือเป็นทรง Classic ที่สวยงามมากจริงๆ-
LVC 1944 มีความสูงของเป้ากางเกงที่ขยับสูงขึ้นกว่ากางเกงยีนส์ทั่วไปในยุคนี้เช่นกัน โดยความยาวเป้าหน้าของกางเกงไซส์ 31 ที่เรานำมารีวิวนั้นจะอยู่ที่ 13 นิ้ว หรือราว 33 เซ็นติเมตร ซึ่งสำหรับผู้ชายที่มีความสูงประมาณ 175 เซ็นติเมตร ความยาวเป้าระดับนี้น่าจะทำให้ขอบเอวกางเกงสูงขึ้นมาปิดสะดือแบบพอดีๆ จัดเป็นกางเกงยีนส์ที่ “เอวสูงสะใจ” คนที่ชอบสไตล์นี้แน่นอน
‘The Style’ ใส่กางเกงขาตรงเอวสูงอย่างไรดี?
หากรักจะใส่กางเกงยีนส์ขาตรงเอวสูงโดยที่ไม่ให้ออกมาแล้วดู “แก่” หรือดูเฉิ่มเชยล้าสมัยในสายตาของคนส่วนใหญ่ทั่วไป สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งก็คือ “ความยาวของขากางเกง” ที่ควรให้อยู่ในระดับพอดีๆ กับตาตุ่มของเรา หรือแตะส่วนบนสุดของรองเท้าที่เราใส่เท่านั้นก็พอ ไม่ว่าจะไปตัดขากางเกง หรือจะพับขึ้นก็เลือกได้ตามสะดวกและตามสไตล์ของแต่ละคน ขออย่างเดียวคืออย่าให้ขากางเกงของ LVC 1944 ยาวจนกองทับๆ กันบนรองเท้าของเราก็ถือว่าดีมากแล้วครับ
เสร็จจากเรื่องของปลายขากางเกงก็มาที่เรื่องของช่วงเอวกันบ้าง MenDetails แนะนำให้เอาชายเสื้อเข้าในกางเกงได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ตก็ตามสะดวกครับ เพราะการนำเสื้อเข้าในกางเกงจะช่วยเน้นลักษณะเอวสูงของ LVC 1944 และทำให้ช่วงขาของเราดูยาวขึ้นแบบอัตโนมัติ คำแนะนำเสริมของเราคือหากเป็นไปได้ให้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้เข็มขัดนะครับ
ทำสองอย่างข้างต้นควบคู่กันไป จากนั้นปิดท้ายด้วยรองเท้าผ้าใบสวยๆ ในวันสบายๆ เน้นรองเท้าผ้าใบที่มีกลิ่นอาย Vintage ในระดับใกล้เคียงกันอย่าง Converse Chuck Taylor, Pro-Keds หรือรองเท้าหนังสไตล์ Loafers ในวันที่ต้องการความเนี้ยบขึ้นมาอีกขั้น เท่านี้เราก็สามารถดึงความเป็น Vintage ของ ‘ยีนส์สงครามโลก’ อย่าง LVC 1944 ออกมาได้เนียนตาแล้วล่ะครับ
และทั้งหมดทั้งมวลคือรีวิว “ยีนส์สงครามโลก” LVC 1944 แบบจัดเต็มทุกรายละเอียดทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ความเป็นมา การเลือกซื้อเลือกใส่ สไตล์ของกางเกงยีนส์ รวมถึงวิธีการใส่ให้ดูดีเข้ากับยุคสมัย หวังว่าจะถูกใจแฟน MenDetails ที่รักในกางเกงยีนส์ทุกๆคนนะครับ ใครที่สนใจอยากซื้อ LVC 1944 มาใส่ สามารถไปดูได้ที่ Shop ของ Levi’s ที่มีมุมของ Levi’s Vintage Clothing เช่นที่ Siam Discovery, เซ็นทรัลชิดลม, เซ็นทรัลลาดพร้าว หรือที่ Icon Siam เพื่อความมั่นใจว่าจะได้ของแท้แน่นอนครับ แต่ต้องรีบหน่อยนะครับ เพราะของเข้ามาค่อนข้างน้อย และที่สำคัญล็อตนี้น่าจะเป็นล็อตสุดท้ายที่จะใช้ผ้า Cone Mills จากถิ่นกำเนิดในอเมริกาจริงๆ ส่วนล็อตใหม่ๆ ที่จะตามมาภายหลังอาจจะไม่ใช่แล้วนะครับ ขอให้ได้ยีนส์ที่ถูกใจกันทุกคนนะครับผม