เพราะรองเท้าในปัจจุบันนั้นไม่เหมือนกับในอดีตที่ผลิตด้วยวัสดุแสนทนทาน แข็งแรง ซึ่งแลกมาด้วยความหนัก ชนิดที่เรียกว่าเดินลากก้อนหินเลยก็ว่าได้ และด้วยเทคโนโลยีที่ดีมากขึ้น ณ ปัจจุบัน ทำให้ทุกวันนี้เรามี EVA Foam ที่แข็งแรง มีประสิทธิภาพมากพอที่จะหยิบมาเป็นพื้น Out-Sole ได้ในตัว และนุ่มมากพอสำหรับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และนี่คือที่มาที่ไปของรองเท้าคู่นี้ครับ ‘Native Jefferson 2.0 Liteknit’
ก็เพราะรองเท้าเบาๆ ใครๆ ก็อยากใส่
-Jefferson 2.0 มีทั้งหมด 3 สีได้แก่ สีดำ / เทา / ขาว-
ตั้งแต่แรกเริ่มของแบรนด์รองเท้าแบรนด์นี้ Native เกิดจากการหยิบเอาโมเดลรองเท้าอันแสนโด่งดังมาปรับให้อยู่ในรูปแบบรองเท้า EVA Foam ทั้งชิ้น ใส่ลุยน้ำได้สบายๆ แถมยังเบาอีกต่างหาก จนถึงขั้นกลายเป็น Motto ของแบรนด์กับคำว่า “Keep It Lite” แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากใส่รองเท้าคุณภาพที่เบาแสนเบา ครั้นเปิดตัวรองเท้า Apollo Moc ก็สร้างกระแสสั่นสะเทือนวงการ Sneakers กันยกใหญ่ มาครั้งนี้เลยจับเอาทรง Jefferson (ทรงที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ Native) มาปัดฝุ่นให้เบาขึ้น ทันสมัยมากขึ้น และ Classic มากขึ้นอีกด้วย
เปลี่ยน Upper เป็นผ้า Liteknit
-ใครๆ ก็หันมาใช้ผ้า Knit กันหมดครับ รวมถึง Native ด้วย-
ใครๆ ก็วิ่งมาทางผ้า Knit ครับ เนื่องจากเป็นวัสดุที่แข็งแรงในระดับหนึ่ง แถมมีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่นมาพอสำหรับล็อคเท้าให้อยู่กับที่ ซึ่ง Native ได้หยิบเอาวัสดุนี้มาใส่บนทรง Apollo Moc ก่อนในรุ่น AP Mercury Liteknit และได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ จากผู้บริโภค ทาง Native เลยหยิบเอาวัสดุนี้มาใส่ในรุ่น Jefferson ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ผลลัพธ์คือ “คุณได้ทรงรองเท้าสุด Classic ที่ยืดหยุ่นสูง” ให้ความรู้สึกเหมือน Flyknit / Primeknit เลยทีเดียว กับรูปแบบการถักทอที่แตกต่างในแต่ละจุด
พื้น Mid-Sole EVA แบบฉบับของ Native
หลายๆ คนคงพอรู้จักกันอยู่บ้างครับว่า นอกจากเบาแล้ว Native ยังขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มอีกด้วย ด้วย EVA Foam สุดเจ๋งที่พัฒนาจนนุ่มแบบสุด พร้อม In-Sole สุดแจ่มจากชิ้น Foam Recycled ของ EVA และ PU แถมถอดออกได้อีกด้วย ซึ่งเจ้า EVA Mid-Sole เนี่ยมันกลายเป็น Out-Sole ด้วยในตัวเลยครับ ทำให้น้ำหนักเบาแบบสุดๆ ไม่เชื่อเราใช่มั้ย แนะนำให้ไปลองใส่กันดูเองครับ
-In-Sole EVA & PU Recycled Foam-
ด้วยทรงที่ต่อยอดจากรองเท้า Classic ในยุค 70s ทำให้ทางแบรนด์ เลือกหุ้มขอบด้วยยาง รวมถึง Toe Box แต่ก็ยังคงใช้วัสดุยางที่เบาตามสไตล์ Native นี่แหละ “เพราะใครๆ ก็อยากใส่รองเท้าที่นุ่มและเบา จริงมั้ย”
ใส่ดีในทรง Classic แบบมีเทคโนโลยี แต่ปัญหาคือ?
-ทรง Classic ที่ทุกคนคุ้นเคย-
ใช่ครับคู่นี้ได้รับอิทธิพลด้านความ Classic มาจากทรงรองเท้าอันแสนโด่งดังอย่าง Chuck Taylor ยิ่งหุ้มขอบยางสูงด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องเดาครับ แต่ถือว่าใส่สบายมากจริงๆ ด้วยเทคโนโลยีทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ได้รองเท้าที่นุ่มสบาย ใส่ง่ายแค่ยัดก็พอครับ แต่ถึงแม้ว่ามันจะดีขนาดที่เราพูดมาทั้งหมด ยังไงก็มีข้อสังเกตอยู่ดีนะ อย่างแรกเลยคือ รองเท้าคู่นี้ไม่เหมือน Jefferson อย่างที่คุณคุ้นเคย กล่าวคือคู่นี้ใส่ลุยน้ำไม่ได้ แห้งช้า และมีกลิ่นอับแน่นอน แถมทำความสะอาดยากมากขึ้น ด้วยเหตุผลเดียวเลยคือผ้า Liteknit ครับ ใช่มันดูดี ใส่ง่ายและน่าสนใจ แต่คุณจะใช้งาน Jefferson คู่นี้ไม่เหมือนคู่เก่าแน่นอน
ต่อมา (อันนี้น่าจะเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลมากกว่า) คือทรงรองเท้าครับ ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบ แต่ในเมื่อทรงนั้นต่อยอดมาจาก Chuck Taylor แล้ว ทำไมไม่ไปซื้อทรงนั้นแทน คุณจะได้ทรงที่ Original กว่าแน่นอน แต่อย่าลืมนะครับว่า คุณจะได้แค่ทรง ไม่ได้เทคโนโลยีแบบฉบับ Native แต่อย่างใด (หรือไม่ก็ซื้อ Chuck Taylor 2 ให้มันจบๆ ไปก็ได้นะ)
รองเท้าคู่นี้ใหญ่กว่าปกติครับ แถมทางแบรนด์ไม่ได้จัดไซส์ครึ่งเข้ามาวางขายด้วย ดังนั้นให้ให้เราแนะนำคือใส่ตรงไซส์ไปเลยฮะ แต่ถ้าคุณเป็นมนุษย์ไซส์ครึ่ง เราแนะนำให้ลดไซส์ไปเลยฮะ ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณใส่ 9.5us แนะนำใส่ 9us ไปเลยกับราคาคู่ละ 3,690.- ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่อยากได้ทรง Classic แต่บวกเทคโนโลยีทั้ง Upper และ Sole ไว้ในคู่เดียว หาซื้อได้แล้วครับที่ร้าน SEEK Thailand และ Bratpack สาขา Terminal21 และ CentralFestival Eastville ได้เลย