เอ่ยชื่อยี่ห้อนาฬิกา “Hypergrand” คงยังมีน้อยคนนักที่จะรู้จักกับแบรนด์นี้ แต่หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ MenDetails เชื่อว่า Hypergrand จะกลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่คุณจะต้องหันมาให้ความสนใจแน่นอน
Hypergrand เป็นแบรนด์นาฬิกาจากสิงคโปร์เพื่อนบ้านของเรานี่เองครับ เริ่มต้นโดยเฮีย Leroy Xavier Zhong ชาวสิงคโปร์ในปี 2013 โดยขณะนั้นเขามีอายุเพียง 30 ปีเท่านั้นเอง ซึ่งเขาเป็นทั้งผู้ก่อตั้ง และเป็นคนออกแบบนาฬิกาทั้งหมดของ Hypergrand ไปด้วยในคนเดียว นับว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาน้องใหม่ของคนรุ่นใหม่โดยแท้
อย่างไรก็ตาม แม้จะก่อตั้งและออกแบบโดยคนรุ่นใหม่ แต่ Hypergrand กลับเน้นสไตล์การออกแบบนาฬิกาแนว Classic Minimalism โดยไม่ใช้ตัวเลขเลย ใช้เพียงแค่กราฟฟิคเรียบๆง่ายๆเป็นดัชนีบอกเวลาเท่านั้น นาฬิกาของ Hypergrand จึงกลายเป็นนาฬิกาที่ดูแล้วร่วมสมัยมากๆ ด้วยการออกแบบที่หากไม่บอกก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่านี่คือ High end Asian brand
ตัวนาฬิกาเลือกใช้ระบบ Quartz (ใช้แบตเตอรี่เดินเข็ม) ทำให้การบอกเวลาไม่ค่อยคลาดเคลื่อนนัก อีกทั้งเป็น movement ที่เดินได้เรียบและ “เงียบ” ในระดับที่น่าพอใจเลยทีเดียว เอาว่าถ้านั่งเงียบๆในรถตอนดับเครื่องแล้วไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาเดิน MenDetails ก็ถือว่าสอบผ่านครับ
Hypergrand เลือกที่จะทำตัวเรือนนาฬิกาให้เรียบง่าย แต่ดูหรูหราคลาสสิค แล้วไปเน้นใส่รายละเอียดแบบจัดเต็มที่ “สายนาฬิกา” แทน เพราะแทนที่ Hypergrand จะใช้สายหนังธรรมดาๆเพียงอย่างเดียว ก็ตัดสินใจเพิ่มสายนาโต้มาใช้กับนาฬิกาด้วย และไม่ใช่สายนาโต้ธรรมดาๆแบบทั่วไป เพราะ Hypergrand ใช้สายนาโต้ที่มีลวดลายแบบ Graphic Printed เพื่อสร้างความแตกต่างออกมาจากนาฬิกาที่ใช้สายนาโต้ยี่ห้ออื่นๆในท้องตลาด ทำให้สายนาโต้ของ Hypergrand มีสีสันและลวดลายที่คุณหาซื้อไม่ได้ตามร้านขายนาฬิกาทั่วไปแน่นอน
MenDetails ได้จัดนาฬิกา Hypergrand มาสองเรือนเสร็จสรรพ เลยอยากจะนำมารีวิวให้แฟนๆ MenDetails ยลโฉมแบรนด์น้องใหม่ในโลกนาฬิกานี้สักหน่อยครับ เรือนแรกเป็น Hypergrand Signature ตัวเรือนสีเงิน เข็มนาฬิกาสีน้ำเงินตัดกับหน้าปัดสีขาวสวยงาม สายนาโต้ลาย Straight Jacquard Blue ที่มีเฉพาะในนาฬิกา Hypergrand เท่านั้น หน้าปัดมีช่องย่อยสำหรับเข็มวินาทีโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่า Small Second ทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น แต่ก็ยังคงความเรียบและหรูหราได้เป็นอย่างดี รูปร่างหน้าตาของรุ่นนี้ละม้ายคล้ายคลึงนาฬิกาแบรนด์ที่เน้นความเรียบหรูคล้ายๆกันอย่าง Daniel Wellington ทั้งขนาดและความหนา แต่เรากลับรู้สึกว่า Hypergrand จะใช้งานได้หลากหลายกว่า DW แถมเรายังคิดว่ารูปร่างหน้าตาของมันเหมาะกับสายนาโต้มากกว่า ด้วยขาของตัวเรือนที่มีขนาดใหญ่กว่า DW เล็กน้อย ในทางกลับกัน เมื่อคุณเปลี่ยนสายนาโต้ของ Hypergrand กลายเป็นสายหนังปกติ คุณก็จะได้นาฬิกา dress watch เรือนงามไว้ใส่คู่กับสูทและรองเท้าหนังได้ในทันทีเช่นกัน
อีกเรือนหนึ่งเป็น Hypergrand รุ่น Maverick ตัวเรือนสีทองแบบ Rose Gold หน้าปัดสีขาว พร้อมสายนาโต้ลาย Warwick (อ่านว่า วอ-หริก นะครับ ไม่ใช่ วอ-หวิก) รุ่นนี้ขนาดของนาฬิกาจะมีความหนามากกว่า Hypergrand Signature รายละเอียดบนหน้าปัดยังคงคอนเส็ปต์เรียบและหรูหราเช่นเคย โดยรุ่นนี้จะไม่มีช่อง Small Second แต่จะมี Date หรือช่องบอกวันที่มาทดแทน อย่างไรก็ตาม MenDetails ชอบเรือนนี้น้อยกว่า Signature นิดเดียวตรงที่ความหนาของตัวนาฬิกาที่มีมากกว่า ทำให้การเปลี่ยนสายเพื่อใช้เป็น dress watch นั้นจะไม่เนียนตาเท่ากับรุ่น Signature ซึ่งความหลากหลายในการใช้งานที่ลดลงก็จะมาทดแทนกับการที่มันจะดูบึกบึนขึ้นและเหมาะกับสายนาฬิกาแนวสปอร์ตแบบสายนาโต้ได้มากขึ้นนั่นเองครับ
หากถามว่านาฬิกา Hypergrand จะเหมาะกับการแต่งตัวของผู้ชายแนวไหน และจะใส่ยังไงในโอกาสอะไรดี อันนี้ง่ายมากครับ ในวันสบายๆที่เราต้องการแต่งตัวแบบเรียบง่าย ด้วยเสื้อยืด หรือเสื้อโปโล คู่กับกางเกงขาสั้น หรือกางเกงยีนส์ ตบด้วย sneaker สวยๆสักคู่ เราแนะนำให้คุณใช้สาย Hypergrand เวอร์ชั่นสายนาโต้ Graphic Printed ที่มีลวดลายและสีสันมากมายให้เลือก ทำให้คุณสามารถเพิ่มลูกเล่นบนตัวนาฬิกาที่มีหน้าตาคลาสสิคให้กลายเป็นนาฬิกาแนว street wear ได้ง่ายๆ แต่ถ้าเป็นวันทำงาน หรือวันที่จะแต่งกายสุภาพภูมิฐานแล้วล่ะก็ MenDetails แนะนำให้ถอดสายนาโต้เก็บไว้ แล้วเปลี่ยนเป็นสายหนังแนว dress watch สวยๆสักชุด แค่นี้ Hypergrand ก็จะกลายร่างเป็นนาฬิกาคลาสสิคที่เข้ากับสูทของคุณได้ทันทีทันใดเลยครับ และอย่าลืม match สีของสายนาฬิกา ให้เป็นสีเดียวกันกับสายเข็มขัด และสีของรองเท้าหนัง เพื่อความเนี้ยบที่มากขึ้นกว่าเดิมด้วยนะครับ
ใครสนใจนาฬิกา Hypergrand ตอนนี้เริ่มมีวางจำหน่ายที่ Bratpack Thailand แล้วนะครับ ลองแวะเวียนไปดูตัวอย่าง ลองจับมาทาบกับข้อมือ แล้วลองดูสิว่า
Hypergrand เขายิ้มให้คุณรึเปล่า?