รู้หรือไม่ว่า ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ใส่สูทและเสื้อผ้ายี่ห้ออะไร?
จั่วหัวมาแบบนี้พร้อมชื่อบทความว่า Brooks Brothers ก็เหมือนเป็นการเฉลยคำถามข้างต้นไปในตัวเรียบร้อยแล้ว แต่ความน่าสนใจมันไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณรู้คำตอบหรือไม่ กลับอยู่ตรงที่ความรู้จักของคนไทยที่มีต่อแบรนด์เสื้อผ้าระดับขึ้นหิ้งเข้าขั้นคลาสสิคตลอดกาลอย่าง Brooks Brothers นั้น เรียกได้ว่า “น้อยมาก” ทั้งๆที่แบรนด์นี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นทั้งร้านค้าปลีกที่เก่าแก่ที่สุดของอเมริกา, ต้นแบบของ Preppy หรือ Ivy League Style หรือแม้กระทั่งเป็นเจ้าแรกสุดที่คิดค้นเสื้อเชิ้ต OCBD หรือ Oxford Cloth Button Down ที่ถือเป็นเสื้อเชิ้ตที่ผู้ชายทุกคนจำเป็นต้องมีไว้ในตู้เสื้อผ้าของตัวเองเลยทีเดียว
MenDetails เชื่อว่าการทำความรู้จักกับแบรนด์ระดับ Super Classic อย่าง Brooks Brothers จะช่วยยกระดับความรู้ความเข้าใจในการแต่งกายที่ดีของผู้ชายอย่างเราได้ บทความนี้จะกล่าวถึงประวัติความเป็นมา ความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ และความลึกลับซับซ้อนอันน่าทึ่งที่จะทำให้คุณหันมาสนใจกับแบรนด์นี้มากขึ้นกว่าเดิมได้อย่างแน่นอนครับ
กำเนิด Brooks Brothers
Brooks Brothers ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1818 ยาวนานควบคู่ไปกับการสร้างชาติของประเทศมหาอำนาจในปัจจุบันอย่างสหรัฐอเมริกา และถือเป็นร้านเสื้อผ้าค้าปลีกร้านแรกของอเมริกาอีกด้วย ก่อตั้งโดยนาย เฮนรี่ แซนด์ส บรู๊คส์ (Henry Sands Brooks) ชายชาวอเมริกันที่เติบโตในครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นนายแพทย์ แต่ตัวเขาเองกลับให้ความสนใจในเรื่องของการตัดเย็บเสื้อผ้ามากกว่าการรักษาคนไข้ ทำให้เขาตัดสินใจเอาดีทางด้านนี้ด้วยการเปิดร้านขายเสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษร้านหนึ่งเมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ.1818 โดยตั้งชื่อร้านตามชื่อของเขาเองว่าร้าน “Henry S. Brooks” และกำหนดสโลแกนของร้านที่ยาวเฟื้อย แต่ชัดเจนว่า “To make and deal only in merchandise of the finest body, to sell it at a fair profit, and to deal with people who seek and appreciate such merchandise.” แปลแบบรวมๆก็คือการเน้นการขายสินค้าที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ในราคาที่เหมาะสม ให้แก่ลูกค้าที่เข้าใจและยินดีเลือกหาสินค้าคุณภาพที่ดีเยี่ยมที่เราเลือกสรรให้
สาขาแรกสุดของร้าน Henry S. Brooks ตั้งอยู่ที่หัวมุมถนน Catharine Street และถนน Cherry Street ซึ่งอยู่ในย่านธุรกิจกลางเมือง New York ในสมัยนั้น โดยเฉพาะถนน Cherry Street นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นที่ตั้งของบ้าน Samuel Osgood House ซึ่งถือได้ว่าเป็นทำเนียบประธานาธิบดีแห่งแรกของสหรัฐอเมริกา (The First White House) นั่นเพราะในช่วงปี 1789-1790 บ้านหลังนี้เป็นที่พักอย่างเป็นทางการของ George Washington ผู้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกานั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนบ้านกันเลยก็ว่าได้ และด้วยคุณภาพของสินค้า บวกกับทำเลที่ตั้งร้านที่เป็นย่านธุรกิจสำคัญของ New York นี่เอง ทำให้ร้าน Henry S. Brooks เป็นที่รู้จักของชาวเมืองได้ในเวลาไม่นาน
Henry Sands Brooks ได้เสียชีวิตลงในปี 1833 และยกร้านให้ลูกชายของเขาสองคนจากจำนวนลูกชายทั้งหมด 5 คนได้แก่ Henry และ Daniel H. เป็นผู้สืบทอดกิจการต่อไป จากนั้นทั้งสองคนจึงได้เปลี่ยนชื่อร้านเป็น “H. & D.H. Brooks & Co.” อย่างไรก็ตามในปี 1850 Henry ผู้เป็นพี่ชายคนโตก็ได้เสียชีวิตลง ปล่อยให้น้องชายทั้ง 4 คนได้แก่ Daniel H., John, Elisha และ Edward S. Brooks เข้ามาช่วยกันบริหารงานอย่างเต็มตัว และทั้ง 4 คนก็ได้เปลี่ยนชื่อร้านให้กระชับและอ่านง่ายขึ้นกว่าเดิมว่า “Brooks Brothers” (พี่น้องตระกูลบรู๊คส์) แล้วจึงใช้ชื่อนี้ต่อเนื่องควบคู่กับประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกามาจนถึงปัจจุบัน
โลโก้แกะทองคำ The Golden Fleece
เครื่องหมายการค้าอันเป็นเอกลักษณ์ของ Brooks Brothers มีรูปร่างเป็นแกะสีทองถูกผูกด้วยผ้าห้อยไว้บริเวณท้อง หรือ “The Golden Fleece” เรื่องราวของโลโก้นี้เป็นสิ่งที่หลายคนเล่าในมุมที่แตกต่างกันไป บ้างเชื่อว่าสัญลักษณ์แกะทองคำดังกล่าวเป็นการประทับตราบนผ้าเพื่อบอกให้รู้ว่าผ้าที่มีตรานี้คือผ้าที่มีคุณภาพชั้นสูงสุด บ้างเชื่อว่าเป็นเพราะวัสดุที่ใช้ทำสูทของ Brooks Brothers คือผ้าวูลจากขนแกะ ทำให้เลือกใช้โลโก้เป็นแกะทองคำ
แต่ถ้าหากดูจากประวัติศาสตร์จริงๆ ตราสัญลักษณ์นี้คือเครื่องราชอิสริยาภรณ์ The Order of The Golden Fleece ดำริสร้างขึ้นในปี 1430 โดยเจ้าชายฟิลลิป ที่ 3 ดยุคแห่งเบอร์กันดี เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าหญิง อิสซาเบลล่า แห่งโปรตุเกส ผู้เป็นภรรยา จากนั้นตราสัญลักษณ์นี้ได้กลายเป็นของขวัญวันแต่งงานระหว่าง เจ้าหญิงแมรี่ แห่งเบอร์กันดี กับกษัตริย์แม็กซิมิเลี่ยน ที่ 1 จึงทำให้ตราเครื่องราชอิสริยาภรณ์ The Order of The Golden Fleece กลายเป็นเครื่องหมายแห่งพระราชอำนาจของราชวงศ์แฮ๊บส์เบิร์กแห่งจักรวรรดิออสเตรีย เพื่อยกย่องเหล่าอัศวินและขุนนางผู้ทำความดีความชอบแก่ราชวงศ์ รวมถึงมอบให้เป็นของขวัญถวายแก่กษัตริย์ราชวงศ์อื่นๆเพื่อแสดงความเป็นมิตรไมตรี ที่น่าทึ่งก็คือ ได้มีการทูลเกล้าถวายตราสัญลักษณ์ The Order of The Golden Fleece แก่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ของเราด้วย ซึ่งพระองค์ทรงเป็นหนึ่งในสมาชิกเพียงไม่กี่พระองค์ในตราสัญลักษณ์นี้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ ทั้งๆที่มีกฎค่อนข้างเข้มงวดว่าผู้ที่จะได้รับตรานี้จะต้องเป็นผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์เท่านั้น
อย่างไรก็ตามไม่มีใครทราบเหตุผลที่แท้จริงที่ Brooks Brothers นำเครื่องหมายดังกล่าวมาใช้เป็นโลโก้ของแบรนด์ เหตุผลที่มีน้ำหนักที่สุดจึงตกอยู่ที่ว่ามันเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงผ้าวูลแกะคุณภาพดีเยี่ยมที่นำมาตัดสูทของ Brooks Brothers นั่นเอง
Brooks Brothers กับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
เราอยากจะพูดแค่ว่า “ประธานาธิบดีสหรัฐจำนวน 39 คนจากทั้งหมด 44 สมัยนับถึงปี 2016 ใส่เสื้อผ้าที่ตัดเย็บโดย Brooks Brothers” แล้วก็จบย่อหน้าไปเลย เพราะแค่ประโยคดังกล่าวก็บอกได้เป็นอย่างดีถึงความพิเศษของ Brooks Brothers ว่ามีคุณภาพแค่ไหนจึงได้รับความไว้วางใจในระดับสูงสุดมาอย่างยาวนานขนาดนั้น บารัค โอบาม่า เองก็ใส่เสื้อโค้ทของ Brooks Brothers ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเช่นกัน
แต่สิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นที่จะต้องเพิ่มเติมลงไปก็คือความพิเศษอย่างที่สุดของเสื้อโค้ทตัวหนึ่งที่ Brooks Brothers ตัดเย็บให้กับประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์นผู้โด่งดังและท่านเองก็เป็นลูกค้าประจำของ Brooks Brothers ด้วย เสื้อโค้ทตัวนี้มีสีดำ ปักลวดลายเป็นรูปนกอินทรีพร้อมประโยค “One Country, One Destiny” ซึ่งประธานาธิบดีลินคอล์นใช้ใส่ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง และใส่ในคืนที่ถูกนายจอห์น บู๊ธ ลอบสังหารในโรงละครฟอร์ด เธียเตอร์ เมื่อวันที่ 13 เมษายน ค.ศ.1865 ปัจจุบันเสื้อโค้ตตัวดังกล่าวได้รับการเก็บรักษาอย่างดีอยู่ในพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ชาวอเมริกันรุ่นหลังได้ระลึกถึงหนึ่งในประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา
ประธานาธิบดีคนดังท่านอื่นๆที่ใส่สูทและเสื้อผ้าจาก Brooks Brothers ก็ได้แก่ ธีโอดอร์ รูสเวลท์, จอห์น เอฟ เคนเนดี้, เจอรัลด์ ฟอร์ด, บิล คลินตั้น รวมไปถึงสูทสีกรมท่าตัวเก่งที่ บารัค โอบาม่า ใส่อยู่แทบทุกวันนั่นก็มาจาก Brooks Brothers เช่นกัน
ต้นตำรับเสื้อเชิ้ต OCBD (Oxford Cloth Button Down) เจ้าแรกของโลก
ปี 1896 นายจอห์น บรู๊คส์ (John E. Brooks) เดินทางไปดูการแข่งขันโปโลในประเทศอังกฤษ และได้ค้นพบว่ากีฬาโปโลซึ่งเป็นกีฬากลางแจ้ง นักกีฬาต้องเผชิญทั้งแดดและลม ซึ่งลมที่พัดแรงบนหลังม้านี่เองทำให้ปกเสื้อของนักกีฬานั้นปลิวไปมาดูเกะกะ ด้วยเหตุนี้ปกเสื้อของนักกีฬาโปโลจึงต้องมีกระดุมคอยยึดเอาไว้กับตัวเสื้อ จอห์น บรู๊คส์จึงเกิดไอเดียที่จะนำวิธีนี้มาใช้กับเสื้อเชิ้ตของแบรนด์ ประกอบกับ Brooks Brothers เริ่มสั่งนำเข้าผ้าอ๊อกซ์ฟอร์ด (Oxford) เข้าสู่อเมริกาในช่วงเวลานั้นพอดี จอห์น บรู๊คส์จึงได้คิดค้นเสื้อเชิ้ต Oxford Cloth Button Down (เสื้อเชิ้ต OCBD) หรือเสื้อเชิ้ตแขนยาวที่ทำจากผ้าอ๊อกซ์ฟอร์ด โดยปกเสื้อจะมีกระดุมเพื่อยึดปกเสื้อเข้ากับตัวเสื้อไว้ข้างละ 1 เม็ด ซึ่งในตอนแรกทาง Brooks Brothers เรียกปกเสื้อแบบนี้ว่า “Polo Collar” และทันทีที่ Brooks Brothers ผลิตเสื้อ OCBD ออกวางจำหน่าย เสื้อเชิ้ตชนิดนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก
แม้แต่ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ก็เป็นผู้หนึ่งที่สวมใส่เสื้อเชิ้ตแบบนี้อยู่เป็นประจำ และเสื้อ OCBD ก็กลายเป็นสไตล์ที่ควบคู่ไปกับสุภาพบุรุษอเมริกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ทุกวันนี้เราจะหาซื้อเสื้อเชิ้ต OCBD ได้ทั่วไปแทบทุกยี่ห้อ แต่ผู้ชายทุกคนควรรู้ไว้ว่า ถ้าจะถามว่าใครคือต้นตำรับที่แท้จริง คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ Brooks Brothers
นอกจากเสื้อเชิ้ต OCBD แล้วนั้น แบรนด์ Brooks Brothers คือต้นตำรับของเสื้อผ้าอีกหลายประเภทที่เกิดขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ทั้งเสื้อสูท The Number One Sack Suit ที่เป็นเสื้อสูทตัดสำเร็จแบบ Wide Cut ให้ผู้ชายสามารถใส่แล้วดูดีได้ไม่ว่าจะมีรูปร่างแบบใดก็ตาม หรือ Repp Tie ซึ่งเป็นเนกไทที่มีลวดลายเฉียงกลับด้านจากที่นิยมอยู่ในขณะนั้น ทำให้ Brooks Brothers เป็นแบรนด์หนึ่งที่มักมีเสื้อผ้ารูปแบบใหม่ๆมาทดลองตลาดอยู่เป็นประจำ
Brooks Brothers ไม่ใช่แค่แฟชั่น แต่คือความเป็นสุภาพบุรุษ
ความสัมพันธ์ของ Brooks Brothers ที่มีต่อบุรุษผู้มีอิทธิพลทางสังคมระดับสูงสุดมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน คือสิ่งที่หล่อหลอมให้แบรนด์นี้เป็นตัวแทนของความคลาสสิค และสถานะที่เหนือกว่าของชายผู้ที่สวมใส่ ด้วยเหตุนี้เอง Brooks Brothers จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านขายสูทหรือเสื้อผ้าคุณภาพดีเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมไปถึงสไตล์โดยรวมของผู้ชายที่มุ่งเน้นความเป็นผู้ชายที่สุภาพ แต่งตัวได้ถูกต้องตามกาลเทศะ ให้เกียรติบุคคลรอบข้าง และรู้จักวางตัวให้เหมาะสมในสถานการณ์ต่างๆ ตามรูปแบบที่บรรดาผู้ชายที่มีสไตล์และบุคลิกภาพที่ดีทั้งหลายพึงกระทำ ลูกค้าของ Brooks Brothers จึงเป็นการแนะนำของสุภาพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น จากพ่อสู่ลูก จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้องในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอย่าง Harvard, Yale ฯลฯ จนกลายเป็นสไตล์ที่มีเอกลักษณ์อย่าง Preppy หรือ Ivy League Style สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่ผ่านการสั่งสมเป็นเวลาหลายชั่วคนจนสร้างลักษณะเฉพาะตัวเช่นนี้ให้กับแบรนด์ แน่นอนว่าแฟชั่นผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่แก่นสารของความเป็นสุภาพบุรุษจะคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง และ Brooks Brothers ก็น่าจะยืนหยัดเป็นเครื่องแต่งกายที่แสดงออกซึ่งความเป็นสุภาพบุรุษเช่นนั้นต่อไปอีกนานเท่านาน
“The real Washington gentlemen wear Brooks Brothers”