ถึงแม้ว่า Nike Air Max Day ที่จัดขึ้นที่ไทยนั้น จะจัดช้ากว่าที่อื่นๆ ไปบ้างก็ตาม (เพราะถ้าจัดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก็อาจจะไม่เหมาะสักเท่าไร) แต่ก็ถือเป็นงาน Air Max Day ที่ยอดเยี่ยมมากๆ ครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้ ภายใต้ Concept : The Bangkok Department ที่เปรียบเสมือนห้องทดลองที่คุณอาจคาดไม่ถึง ยิ่งถ้าคุณเป็นสายทดลอง ประดิษฐ์ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในรูปแบบของตัวเองแล้ว นี่คือวันที่คุณจะได้เต็มอิ่มกันไปข้างหนึ่ง
งานนี้คือการทดลอง!
เพราะ Nike เองนั้น ก็เป็นผู้ทดลองสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ครั้งนี้ Nike จึงอยากจะอัดฉีดไอเดียใหม่ๆ ให้เข้าไปในหัวของทุกท่านว่า “เรามาทดลองทำอะไรใหม่ๆ กันเถอะ” ซึ่งสิ่งนี้คือการผลักดันวงการการออกแบบและ Sneakers Culture ในเวลาเดียวกัน เพราะไม่ว่าคุณจะออกแบบอย่างไร ตกแต่งรองเท้าในรูปแบบของตัวเองแนวไหน สิ่งเหล่านั้นถือเป็น “แรงบันดาลใจ” ให้กับคนอื่นๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาได้อย่างไม่น่าเชื่อแน่นอน
จะเสื้อผ้า หรือรองเท้า นี่คือพื้นที่ที่ให้คุณได้ “ทำตามใจตัวเอง”
ถึงแม้ปีนี้ ทาง Nike จะไม่ได้มีอะไรเปิดตัวให้ตื่นตาตื่นใจเหมือนปีก่อนๆ แต่สิ่งที่แปลกใหม่ขึ้นเลยก็คือ การส่งต่อไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ ในแต่ละ Workshop ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่การ Workshop ออกแบบรองเท้า โดยผ่านวิธีการออกแบบจากทีม Nike โดยตรง หรือการสร้างแรงบันดาลใจเพื่อผลิตลวดลายในสไตล์ของตัวเองลงบนตัวรองเท้า หรือแม้แต่การย้อมถุงเท้าให้ออกมาเป็นคู่เดียวบนโลก เป็นต้น สิ่งนี้น่าจะเป็นไอเดียหลักที่ทางแบรนด์ Nike อยากจะส่งต่อให้กับทุกคน
นอกจากตัวงานจะมี Workshop เป็นหัวใจสำคัญแล้ว ยังมีเวทีที่ให้คุณ Hirofumi Kojima ขึ้นไปกล่าวถึงที่มาที่ไปของการออกแบบลวดลายบนตัวรองเท้า จนกลายมาเป็นรองเท้า Nike Air Max 2 Light x atmos อย่างที่เห็นกันนั่นเอง
ภายในงานยังมีโซนขายของอีกด้วยนะครับ โดยร้านที่มาเปิดก็ได้แก่ Carnival และ atmos Thailand ซึ่งทั้งคู่ก็ขนเอาสินค้าพิเศษมาวางขายกันที่นี่ อยากเช่น Carnival ก็มีเสื้อยืดที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะสำหรับงาน Air Max Day ครั้งนี้ รวมถึงลูกค้าสามารถสกรีนลายด้วยตัวเองเพิ่มได้อีกด้วย (เข้ากับ Theme งานได้ดีจริงๆ) และส่วน atmos Thailand ก็ได้ขนเอา Air Max 2 Light x atmos มาวางขายที่งานด้วย!
สำหรับคนที่ไม่ได้มา เราเก็บบรรยากาศต่างๆ มาไว้ให้ดูกันในคลิปวีดีโอด้านบนแล้วนะครับ อยากให้ลองเข้าไปดูกัน และถ้าหลังจากดูแล้ว รู้สึกว่าตัวเองพลาดมากๆ ที่ไม่ได้ไป ขอแนะนำว่า “ปีหน้าห้ามพลาด” เพราะตัวงานนั้น “เข้าฟรี” นะครับ แล้วไว้ปีหน้าเรามาเจอกันใหม่อีกครั้งกับ Nike Air Max Day!