ในช่วงปี 1969 มีนักบินอวกาศจากสหรัฐฯ 2 ท่านเดินทางไกลไปถึงดวงจันทร์ พร้อมกับก้าวเท้าเล็กๆ ที่เป็นตัวแทนมนุษยชาติลงบนแผ่นดินที่ยังไม่มีใครเคยไปถึงมาก่อน ให้หลังจากนั้นราว 3 ปี Bill Bowerman, Co-Founder Nike Inc. ก็ได้ออกแบบรองเท้าวิ่งคู่หนึ่งโดยใส่เอกลักษณ์ที่เขาคิดค้นขึ้นมาเองนั่นก็คือ Waffle Outsole (พื้นรองเท้าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องทำ Waffle นั่นแหละครับ) ซึ่งสิ่งที่เจ๋งที่สุดของรองเท้าคู่ดังกล่าวก็คือ “รอยที่ปรากฏบนพื้นหลังจากวิ่ง” นี่จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่น Moon Shoe
รองเท้าคู่ดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการออกแบบรองเท้าของบริษัท Nike ครับ (รวมไปถึงหลายๆ เจ้าที่ผลิตรองเท้าด้วยเช่นกัน) โดย Bill Bowerman ได้กำหนดลักษณะของรองเท้าที่ดีไว้ 3 ข้อดังนี้ 1. รองเท้าต้องเบา 2. รองเท้าต้องใส่สบาย และ 3. รองเท้าต้องใส่แล้ววิ่งไปได้ไกล ใช้ได้นาน ซึ่ง Waffle Outsole ถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ข้อที่ 3 ได้เป็นอย่างดี จนทำให้รองเท้า Moon Shoe เป็นที่พูดถึงในวงการมากที่สุดคู่หนึ่งเลยทีเดียว
-ในกล่องจะแถมถุงผ้ามาให้ด้วยนะครับ ลายเป็นลักษณะข้างขึ้นข้างแรม-
กลับมาอีกครั้งกับทรงรองเท้า Moon Shoe แต่ครั้งนี้ถูกปรับเปลี่ยนพื้น Midsole กลายเป็น React Foam ทั้งชิ้น และเลือกใช้ทรง Midsole จากรองเท้ารุ่น Vapor Street Flyknit แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Nike ‘Moon Racer’ แทน ส่วนตัวอักษรย่อ QS นั้นมีความหมายว่า Quick Strike (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับอักษรย่อของแบรนด์ Nike ได้ที่นี่) และถือเป็นรองเท้าที่ผสมความเก่าแหละใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างน่าประหลาดใจ
หลายๆ ท่านอาจคิดว่า Upper นั้นน่าจะหยิบเอาทรงของ Cortez มาใช้ แต่จริงๆ แล้วทาง Nike หยิบเอา Design จากตัว Moon Shoe มาใช้เป็นหลักครับ
ใช่ครับ ถึงแม้ว่าตัว Upper จะมีความใกล้เคียงกับรองเท้าแสน Classic ตลอดกาลอย่าง Nike Cortez แต่รายละเอียดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้าที่หายไป รวมไปถึง Support ด้านข้างเข้าที่ใช้วัสดุหนัง Suede และ Heel Tab ก็ถือว่ามาจากต้นแบบอย่าง Moon Shoe ทั้งสิ้น
เปลี่ยนมาใช้ React Foam ความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?
บอกตามตรงเลยว่า “ใส่สบายมากจริงๆ” อาจเพราะตัว React Foam นั้นถูกพัฒนามาจนยอดเยี่ยมอยู่แล้ว (สามารถอ่านการเปรียบเทียบระหว่าง React กับ Boost ได้ที่นี่เลยครับ) พอมาเป็น Moon Racer พื้น Midsole ของ React ก็มีพื้นที่มากขึ้น ความหนามาขึ้น ทำให้เดินสบายมากขึ้นนั่นเอง แต่สืบเนื่องจากทรงของ Midsole ได้รับอิทธิพลมาจากรองเท้าวิ่ง (แถมเป็นสายวิ่งเร็วเสียด้วย) ทำให้พื้นที่ลงส้นเท้านั้นค่อนข้างน้อย อาจเป็นปัญหาต่อการเดินในระยะนานได้เช่นกัน
Upper หลายๆ คนบอกว่า ทำออกมาแล้วใส่ไม่ค่อยสบายเท่าไรนัก เราอาจขอค้านเล็กน้อยครับ เพราะน่าจะต้องทำความเข้าใจสักนิดว่า “เทียบกับอะไร” จริงถ้าเทียบกับวัสดุอย่าง Flyknit หรือ Primeknit แล้ว เราว่าแพ้ครับ แต่ถ้าเทียบกับรองเท้าที่ Inspired มาจาก Classic เราว่าคู่นี้ใส่สบายพอตัวเลยทีเดียวครับ
ถือเป็นรองเท้าที่น่าสนใจมากๆ สำหรับใครที่อยากได้แนว Racer แบบใส่สบายๆ แต่ได้กลิ่นความ Vintage อยู่ในตัวสักหน่อย
มีมาให้จัดด้วยกันทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Black / Black-White-Racer Blue และ Monarch / Sail-Amarillo โดยส่วนตัวเราค่อนข้างชอบสี Monarch มากกว่านะครับ (แต่ก็สุดแท้แต่ความชอบส่วนตัวแล้วหล่ะ อันนี้ไม่ว่ากัน) และสำหรับ Nike Moon Racer QS ตัวนี้จะมาพร้อมถุงใส่รองเท้าด้านในด้วย ซึ่งก็ Limited ไม่แพ้กับตัวรองเท้านั่นแหละ
วางขายแล้วที่ร้าน 24Kilates ครับ สนนราคาอยู่ที่คู่ละ 5,500.- เท่านั้น แถมสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ ที่นี่อีกด้วย ได้ข่าวว่าของกำลังจะหมด และไซส์เริ่มไม่ค่อยเหลือละครับ แนะนำให้โทรไปถามก่อนน่าจะดี