แบรนด์รองเท้าที่ยังคงเลือกผลิตด้วยวิธีโบราณ อันสืบทอดก่อนกันมาเป็นเวลากว่า 140 ปี ที่เมือง Kurume ประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า Moonstar
ถือเป็นหนึ่งโรงงานที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศเลยก็ว่าได้ครับ และน่าจะเป็นไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ยังคงเลือกผลิตรองเท้าด้วยระบบการอบร้อนแบบ Valcanization ซึ่งถือเป็นวิธีโบราณในการประสานชิ้นส่วนยางธรรมชาติเข้าด้วยกันผ่านกระบวนการอบเพื่อทำปฏิกิริยากับกัมมะถันด้วยอุณหภูมิสูงถึง 120 องศา แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือคำว่า “Made in Japan” ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและรายละเอียดที่เยี่ยมยอดแบบไร้ที่ติ
‘Doek’ เป็นภาษาฮอล์แลนด์ครับ มีความหมายว่า “ผ้า”
แบรนด์ Doek นั้นเป็นแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นครับ และมีพื้นฐานความคิดเริ่มต้นจากผ้า จึงตั้งชื่อตามภาษาชาวดัตช์ด้วยความว่า ‘Doek’ แถมในภาษาญี่ปุ่นเองยังสามารถเพี้ยนไปเป็นคำว่า Zukku ที่แปลว่า “รองเท้าผ้าใบ” ได้อีกด้วย จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำมาตั้งชื่อแบรนด์รองเท้าผ้าใบที่มีจุดเด่นเรื่องผ้าที่นำมาใช้
หัวใจหลักของแบรนด์คือ “การค้นหาเทคนิกใหม่ๆ ในการผลิต แต่ต้องเรียบง่ายและส่งเสริมบุคลิกภาพให้กับผู้สวมใส่รองเท้า โดยไม่แย่งความโดเด่นเหมือน Sneakers แบรนด์อื่นๆ”
วันนี้ MenDetails ขออนุญาตหยิบเอารองเท้าจาก Doek Shoe Industries ทรง Oxford ซึ่งถือว่าเรียบง่ายและใส่ได้เรื่อยๆ ในทุกวัน มาให้ทุกท่านได้รู้จักกันครับ
หน้าตาคล้ายๆ Vans แต่ Details ต่างๆ นั้นห่างไกลกันมาก
หลายคนพอมองเห็นทรงรองเท้าคู่นี้แล้ว คงนึกในใจสินะครับว่า “มันออกจะเหมือน Vans เสียจริง” แต่ทรงโดยรวมถือว่าห่างกันในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ตัวรองเท้า Doek Oxford นั้นได้รับอิทธิพลจากรองเท้าสุด Classic อย่าง Balmoral Style Tennis Shoes จนกลายเป็นรูปทรงข้างต้น ซึ่งให้รูปทรงที่สวยงามกว่ามากหากมองในแง่ภาพรวม อาทิเช่น ความยาวของทรงรองเท้านั้นมีความยาวที่มากกว่า ส่งผลให้เท้าดูเรียวมากขึ้น / แถบยางอยู่สูงกว่าทรง Authentic ค่อนข้างมาก / กันชนด้านหน้าตัดโค้งสวยงามซึ่งหาไม่ได้ในรุ่น Authentic ปกติ (เป็นดีเทลของ Vans Vault แทน) เป็นต้น
ขึ้นชื่อเรื่อง “ผ้า” ที่เลือกมาเป็นอย่างดีสำหรับการผลิตรองเท้าแบบลงลึกถึงรายละเอียดโดยโรงงานผลิตผ้านามว่า Good Weaver ซึ่งหยิบเอาเทคนิกการผลิตแบบ ‘Kasuri’ ซึ่งมีมากว่า 2,000 ปี ใส่เข้ามาด้วย
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดก็คือ ความแน่นของตัวผ้าที่แตกต่างจากโครงสร้างผ้าของแบรนด์อื่นๆ แถมมีลวดลายเฉพาะตัวที่แตกต่างอีกด้วย ซึ่งการผลิตตัวผ้าให้ได้ลวดลายต่างๆ จากการทอนั้นต้องใช้ประสบการณ์อย่างมากและต้องมีความชำนาญอย่างสูง แต่พูดยังไงก็ไม่เท่ากับได้สัมผัสของจริงด้วยตัวเองอยู่ดี เราแนะนำให้คุณไปหยิบจับดูครับ “แล้วจะรู้ถึงความต่างด้านคุณภาพที่เทียบกันไม่ได้จริงๆ”
สีที่เราหยิบมานั้นเป็นสีขาวแบบ ECRU หรือสีขาวธรรมชาติที่ไม่ผ่านกระบวนการฟอกขาวมาก่อนเลย ด้ายที่นำมาถักทอเป็นผืนจึงมีความแข็งแรงสูงกว่าและหนากว่านั่นเอง แต่ข้อเสียก็คือ เนื่องจากเป็นสีธรรมชาติทำให้ดีจุดด่างเล็กๆ น้อยๆ ปรากฎบนผืนผ้านั่นเอง
ประกบด้วยยางธรรมชาติ อบด้วยความร้อนสูง ทำให้ได้ชิ้นยางที่ยืดหยุ่นและตัวรองเท้าจะแข็งแรงกว่ากรรมวิธีแบบเย็นที่เน้นการทากาวเป็นหลัก ส่วนพื้น Insole นั้นจะใช้ยางธรรมชาติเช่นเดียวกันแล้วแปะทับด้านบนด้วยพื้นไม้ Cork ที่ให้สัมผัสที่ดี / ระบายอากาศ และให้ความนุ่มสบายเวลาสวมใส่ พื้น Out-Sole นั้นใช้ยางสีเดียวกับขอบรองเท้าแต่ขึ้นลายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
สีขาว ECRU นั้น เหมาะอย่างยิ่งกับการหยิบมาใส่ในชีวิตประจำวันครับ ตัวรองเท้าสามารถหยิบมาใส่ได้ทั้งกางเกงขาสั้น / กางเกงยีนส์ / กางเกง Trousers แถมตัวแบรนด์ Doek เองยังไม่ติดชื่อแบรนด์ใดๆ ไว้บนตัวรองเท้าภายนอกเลยแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่สี / ตราประทับ ไม่มีเลยจริงๆ ทำให้กลายเป็นรองเท้า Minimal Shoes ที่โดดเด่นด้วยทรงล้วนๆ และถ้าคุณเป็นอีกคนที่กำลังตามหารองเท้าเรียบๆ แนว Deck Shoes สักคู่ ในราคา 4,690.- เราขอแนะนำ Doek เลยครับ เพราะด้วยคุณภาพคับแก้ว แถม Design ที่ลงตัว รับประกันว่าคุณจะได้รองเท้าที่เจ๋งพร้อมกลายเป็น Everyday Shoes ได้ไม่ยากเลยจริงๆ
หาซื้อรองเท้า Doek Shoe Industries Oxford White ‘ECRU’ ได้ที่ร้าน Selektiv ทุกสาขานะครับ สนนราคาอยู่ที่คู่ละ 4,690.- และมีสีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ณ ตอนนี้ได้แก่สีขาว ECRU และสี Natural Indigo Dye