ตำนานของ นาฬิกา Cartier Tank Watch เริ่มต้นขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1917 โดย Cartier จากฝรั่งเศสได้ออกแบบนาฬิการุ่นนี้ด้วยแรงบันดาลใจจาก “รถถัง” ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในยุคดังกล่าวเช่นกัน ความประทับใจในประสิทธิภาพและความดุดันของรถถังที่พุ่งทะยานในสมรภูมิ กลายเป็นที่มาของนาฬิกา Cartier Tank ‘Normale’ หรือ Tank ‘Louis’ นาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมที่ยังคงความคลาสสิคและดั้งเดิมมาจนถึงปัจจุบัน แต่ด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์เครื่องประดับสุดหรูอย่าง “การ์คทิเยร์” ทำให้นาฬิการถถังรุ่นนี้มีราคาสูงถึงระดับหลายแสนบาท ส่งผลให้ผู้ที่สามารถซื้อหานาฬิกา Cartier Tank Louis มาใส่ได้นั้น ถูกจำกัดวงอยู่เพียงแค่กลุ่มผู้มั่งมีสุด ๆ เท่านั้น
กาลเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงยุคคริสต์ทศวรรษที่ 1970 แบรนด์เครื่องประดับ Cartier ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด โดยหันไปผลิตสินค้าที่มีราคาที่คนทั่วไปพอจะจับต้องได้มากขึ้น บนสโลแกน “Cartier, it’s a must!” แปลได้ว่า “การ์คทิเยร์ ของมันต้องมี!” เมื่อกลยุทธ์เป็นเช่นนี้ทำให้อานิสงส์ส่งผลมาถึงนาฬิกา Cartier Tank ที่ออกวางจำหน่ายโดยใช้ชื่อรุ่นรวมทั้งหมดว่า “must de Cartier” (มุสต์ เดอ การ์คทิเยร์) ในราคาที่ประหยัดลงกว่า Tank Normale หลายเท่า แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมของ นาฬิการถถัง อันเกรียงไกรเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
นาฬิกา Cartier Tank รุ่น must de Cartier
เหตุผลของราคาของนาฬิกาในซีรี่ส์ ‘must de Cartier’ ที่ประหยัดลงมานั้น ไม่ใช่เรื่องของการลดลงของคุณภาพการประกอบนาฬิกาหรือประสิทธิภาพในการเดินเข็ม แต่อยู่ที่การเปลี่ยนวัสดุจากทองคำและแพลตทินั่มที่ใช้ในรุ่นดั้งเดิม กลายมาเป็น วัสดุเงินแท้ (Vermeil Argent 925) ชุบทองระดับ 20 ไมครอน (PLAGUE OR G 20M) ซึ่งถือว่าเป็นการเคลือบที่หนามาก เพราะหากเป็นเครื่องประดับทั่วไปตามท้องตลาด จะชุบทองบาง ๆ ที่ประมาณ 5 ไมครอน เท่านั้นเอง
วัสดุที่ใช้ในนาฬิการุ่น must de Cartier แม้ไม่สามารถเทียบความหรูหราได้กับทองคำ 18K ที่ใช้ทำนาฬิกา Cartier Tank Louis ซึ่งเป็นต้นแบบของ Cartier Tank ทั้งมวล แต่ทว่าวัสดุอย่างเงินแท้ชุบทอง 20 ไมครอนนั้น ก็ยังถือว่ามีความหรูหราที่สูงกว่านาฬิกาที่ทำจากวัสดุพลาสติกหรือแม้แต่สเตนเลสสตีลอีกระดับ นอกจากนี้ตัวเรือนนาฬิกายังสามารถพัฒนา “พาทิน่า” (Patina) หรือริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการใช้งานได้อย่างมีเสน่ห์อีกด้วย
รูปร่างหน้าตาของ ‘must de Cartier’ ยังได้รับการออกแบบให้หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม โดยมีทั้งหน้าปัดแบบไม่มีตัวเลข, แบบพื้นสีดำ, สีแดง, สีน้ำเงิน และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่หากจะหา นาฬิกา รุ่น must de Cartier ที่มีดีไซน์ดั้งเดิมมากที่สุด คงต้องยกให้ must de Cartier เลขโรมันสไตล์ “อาร์ท เดโค่” (Art Deco) ที่ MenDetails นำมาให้ชมกันในวันนี้นี่แหละครับ
ขนาดของ must de Cartier รุ่นนี้ ตัวเรือนเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความกว้าง 23 มิลลิเมตร และยาว 30 มิลลิเมตร ถือเป็นขนาดที่เล็กหากเปรียบเทียบกับนาฬิกาผู้ชายทั่วไปในปัจจุบัน ที่จะกว้างหรือมีเส้นผ่านศูนย์กลางระดับ 40 มิลลิเมตรขึ้นไปเสมอ อย่างไรก็ดีเรากลับมองว่านี่คือ “Fresh Air” หรือสไตล์ทางเลือกที่ย้อนไปยังสมัยที่นาฬิกาผู้ชายสายคลาสสิคจะมีขนาดเล็ก ซึ่ง MenDetails เชื่อว่ากระแสการใส่นาฬิกาขนาดย่อมแบบพอดีข้อมือเช่นนี้น่าจะมีโอกาสกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งเช่นกัน
นาฬิกา Vintage ‘must de Cartier’ จะมีระบบเดินเข็มอยู่ด้วยกัน 2 ระบบ ได้แก่ระบบ Quartz (คว็อตซ์) หรือ “นาฬิกากินถ่าน” กับระบบ Hand Winding หรือ “นาฬิกาไขลานด้วยมือ” ซึ่งระบบไขลานจะเป็นรุ่นที่หาได้ยากกว่า และถึงแม้บางสำนักจะบอกว่า สำหรับ นาฬิกา must de Cartier Tank นั้น ไม่ว่าจะเป็นระบบใช้ถ่านหรือเป็นแบบไขลานก็จะมีคุณค่าที่ใกล้เคียงกัน แต่โดยส่วนตัว MenDetails นั้น เรายังยกให้ระบบไขลานแบบ Hand Winding มีภาษีที่ดีกว่า เนื่องด้วยความหายาก, ความดั้งเดิมและความซับซ้อนของกลไกนาฬิกาฉบับ Swiss Made รุ่นเก๋าจริง ๆ
The Iconic Classic Design of ‘Cartier Tank’
สิ่งที่ทำให้เรารู้ว่านี่คือ Cartier Tank ฉบับคลาสสิค เริ่มต้นจากรูปทรงสี่เหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ชัดเจนเห็นได้แต่ไกล เมื่อพิจารณาให้ใกล้ขึ้นกว่าเดิมอีกนิด เราจะเห็น “เม็ดมะยม Sapphire สีน้ำเงิน” เด่นเป็นสง่าอยู่ด้านข้างตัวเรือน มองเข้าไปในหน้าปัดเราจะเห็นดัชนีบอกเวลาเป็น อักษรโรมัน ตามการตกแต่งสไตล์ Art Deco ตรงกลางมีตัวอักษร ‘must de Cartier’ ระบุชัดเจน, เข็มนาฬิการูปดาบสีน้ำเงิน (Blue Sword Hands), และกระจกครอบทรงโดมที่มีความโค้งนูนขึ้นตรงกลางเล็กน้อยแล้วค่อย ๆ ลาดลงไปยัง 4 มุมของของตัวเรือน ซึ่งถือเป็นกรรมวิธีการครอบหน้าปัดนาฬิกาที่สลับซับซ้อนไม่น้อยเลยทีเดียว
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของดีไซน์บนหน้าปัดสไตล์เลขโรมันของนาฬิกาจาก Cartier นั้นอยู่ตรงที่ดัชนีบอกเวลาเลข 4 ที่ทาง Cartier เลือกใช้ตัว I จำนวน 4 ตัว แทนที่จะเป็นตัว IV ตามหลักการเลขโรมันทั่วไป ด้วยเหตุผลว่าหากใช้ตัว IV จะทำให้ดูแล้วไม่สมดุลกับ เลข 8 หรือ VIII ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ดังนั้นการใช้ IIII แทนเลข 4 จึงดูจะเหมาะสมมากกว่า
อีกจุดหนึ่งคือตรงดัชนีตำแหน่งเลข 7 (VII) หรือเลข 10 (X) ในบางรุ่น หากสังเกตให้ดีจะมีขาข้างหนึ่งของตัวอักษร เขียนเป็นคำว่า CARTIER ตัวเล็กจิ๋วแทนการขีดเป็นเส้นตรง ซึ่งเป็นรายละเอียดที่อาจต้องใช้แว่นขยายส่องกันเลยทีเดียวจึงจะเห็น แต่ก็เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของงานออกแบบที่ทำให้เรารู้ว่า นี่แหละคือ หน้าปัดเลขโรมันของ Cartier ตัวจริงเสียงจริง
ดีไซน์ของ Cartier Tank ได้รับการพิสูจน์ความอมตะของมันผ่านช่วงเวลานับร้อยปี และเป็นที่ชื่นชอบของบุคคลผู้มีชื่อเสียงและ Style Icon มากมาย แม้แต่ศิลปินชื่อดังอย่าง Andy Warhol (แอนดี้ วอร์ฮอล) หรือดีไซน์เนอร์ระดับโลก Yves Saint Laurent (อีฟ แซ็งค์ โลรองต์) ต่างก็เป็นแฟนคลับของนาฬิกา Cartier Tank ทั้งสิ้น ไม่นับดารานักแสดงและคนดังอีกมากมายทั่วโลกที่นิยมชมชอบที่จะสวมใส่นาฬิกาที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนที่สุดเรือนหนึ่งของโลกรุ่นนี้
must de Cartier กับราคาที่จับต้องได้
ปัจจุบัน นาฬิกา Cartier รุ่น must de Cartier Tank watch ได้ยุติการผลิตไปเรียบร้อยแล้วเนื่องจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดอีกครั้งแบบขั้วตรงข้าม เมื่อ Cartier ต้องการกลับสู่จุดสูงสุดของความหรูหราอีกคำรบ ทำให้สินค้าที่มีราคาประหยัดต้องถูกถอดออกจากสารบบในที่สุด อย่างไรก็ดี นาฬิกา must de Cartier “มือสอง” ยังคงมีวนเวียนอยู่ในท้องตลาด และจำหน่ายกันในราคาที่ถือว่า “ย่อมเยา” เมื่อเปรียบเทียบกับนาฬิกาหรูแบรนด์อื่น ๆ
ราคาของนาฬิกา must de Cartier Tank watch “มือสอง” ในตลาดนาฬิกาวินเทจของเมืองไทยจะเริ่มต้นที่ประมาณเรือนละ 30,000 บาท ไปจนถึงประมาณ 50,000 บาท ตามแต่สภาพของนาฬิกาแต่ละเรือน และ must de Cartier ที่ใช้ระบบไขลานด้วยมือจะมีราคาสูงกว่าเรือนที่ใช้ถ่านเล็กน้อย เนื่องจากหาได้ยากกว่า เหนือสิ่งอื่นใดคือเราควรจะซื้อจากร้านขายนาฬิกา หรือ ร้านขายสินค้าวินเทจ ที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะไม่ได้ของปลอมกลับมา
จุดหนึ่งที่เราควรจะต้องระมัดระวังและระลึกไว้เสมอนั่นก็คือทาง Cartier ไม่ได้รับซ่อมบำรุงนาฬิการุ่นนี้อย่างเป็นทางการอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเราควรจะต้องหาช่างนาฬิกาที่ชำนาญงานในการซ่อมบำรุง must de Cartier Tank ของเราเองด้วยในอนาคต
ปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ผู้ชายไทยใช้เป็นเหตุผลในการสะสมนาฬิกา นั่นก็คือ นาฬิกาบางรุ่นที่เป็นที่นิยมนั้นมักจะมีราคาที่สูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป กลายเป็นสินทรัพย์ที่เราได้ชื่นชมความงามเมื่อเป็นเจ้าของ แถมขายต่อได้กำไรอีกต่างหาก แต่นาฬิกาอย่าง must de Cartier Tank นั้น อาจไม่ได้อยู่สายของการเก็งกำไรเท่าไหร่นัก เนื่องด้วยสังคมของคนที่สะสมนาฬิการุ่นนี้มักเป็นกลุ่มที่รักในนาฬิกาคลาสสิคเรือนเล็กและเป็นกระแสรอง ผิดกับนาฬิกายอดฮิตที่อยู่ในกลุ่ม Sport Watch ขนาดใหญ่โดนใจแฟชั่นสมัยใหม่มากกว่า
แต่ถ้าเราเป็นผู้ชายที่รักในความ “คลาสสิค” ของนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งต้องถือว่าไม่มีนาฬิกาเรือนไหนที่จะสะท้อนเอกลักษณ์สี่เหลี่ยมเช่นนี้ได้ดีเท่า Cartier Tank อีกแล้ว ยิ่งถ้าเรามีนิสัย “สวนกระแส” ไม่อยากตามเทรนด์ของนาฬิกา Sport Watch ขนาดระดับ 40 มิลลิเมตรขึ้นไปที่นิยมใส่กันทั่วบ้านทั่วเมืองในปัจจุบัน นาฬิกา must de Cartier Tank Watch เรือน Vintage เรือนนี้ คือ จุดเริ่มต้นในการสะสมที่เราจะไม่เสียใจภายหลังแน่นอน
ไม่แน่หลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้ นาฬิกา Vintage must de Cartier Tank watch อาจจะหายากขึ้น และราคาก็อาจจะขยับให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกก็เป็นได้ …. MenDetails จะคอยดูครับ