หากจะลอง “จัดอันดับ” เครื่องแต่งกายสำหรับผู้ชายที่เอาใจใส่ในเรื่องบุคลิกภาพและการแต่งกายที่ดีของตัวเองนั้น เครื่องแต่งกายที่ถือได้ว่า “เสพย์ติดง่ายที่สุด” หรือ The Most Addictive ในทัศนะของ MenDetails คงจะหนีไม่พ้น “รองเท้า” อย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายสไตล์ใด จะชอบ Streetwear, คลั่งไคล้ Workwear หรือจะหลงใหลใน Classic Menswear ก็ตาม “รองเท้า” คือเครื่องแต่งกายที่ผู้ขายทุกคนใส่ใจและให้ความสำคัญในการหาซื้อ “คู่เด็ด” ประจำวงการมาสวมใส่ หนำซ้ำส่วนใหญ่ยังอยากได้คู่เด็ดคู่ใหม่อยู่เรื่อยๆ ชนิดที่เรียกว่า “คู่เดียวไม่เคยพอ” จริงๆ
และถ้าจะพูดถึงรองเท้าที่เป็น “คู่เด็ด” สำหรับวงการ Classic Menswear แล้วนั้น เราก็คงต้องนึกถึง “รองเท้าหนัง” ที่มีรูปทรงสวยงามกับการตัดเย็บที่ประณีตบรรจง เหมาะกับการแต่งกายกับชุดที่เป็นทางการมากขึ้น ซึ่งแต่ละประเทศที่เป็นผู้ผลิตรองเท้าหนังนั้น ก็จะมีแบรนด์รองเท้าที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาสำหรับประเทศของตัวเอง และหนึ่งในประเทศที่ทำรองเท้าหนังได้น่ามอง และน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดก็คือประเทศอิตาลี กับรองเท้าหนังที่ชาวอิตาเลี่ยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้คนในเมืองฟลอเรนส์ (Florence) ต่างรู้สึกภาคภูมิใจกับรองเท้าหนังที่ใกล้เคียงคำว่า “สมบูรณ์แบบ” มากที่สุด นั่นก็คือรองเท้าจาก ‘Stefano Bemer’
History of ‘Stefano Bemer’
‘Stefano Bemer’ (สเตฟาโน่ เบเมอร์) คือชื่อของสุภาพบุรุษชาวเมืองจิอันติ (Chianti) ที่เริ่มต้นการเดินทางสาย “Shoemaker” ตั้งแต่ปี 1983 ซึ่งในขณะที่เขามีอายุ 19 ปี เขาก็ได้เริ่มก้าวเข้าสู่อาชีพการทำรองเท้าเป็นครั้งแรก เมื่อรองเท้าหนังที่เขาใส่อยู่นั้นเกิดชำรุดเสียหาย แต่ทว่าช่างซ่อมรองเท้าที่มีอยู่เพียงคนเดียวในเมืองกลับเสียชีวิตลงพอดี Bemer จึงได้อาศัยจังหวะนี้เอง ค่อยๆ เรียนรู้และฝึกฝนฝีมือในการซ่อมรองเท้าหนังของตัวเอง และต่อมาก็ได้เริ่มต้นการตัดเย็บรองเท้าหนังให้กับลูกค้าทั่วไป และใช้ชื่อแบรนด์รองเท้าตามชื่อของตัวเองว่า ‘Stefano Bemer’
Stefano Bemer ค่อยๆ สะสมประสบการณ์ในการทำรองเท้าของตัวเอง จนกระทั่งได้พบกับลูกค้าที่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งได้แนะนำให้เขารู้จักกับรองเท้าชื่อดังของโลกอีกหลากหลายยี่ห้อที่เขามีอยู่ในคอลเล็กชั่นส่วนตัว ทำให้ Bemer เกิดแรงบันดาลใจว่าจะต้องพัฒนาการทำรองเท้าของตัวเองให้ดีขึ้นกว่านี้ เขาตัดสินใจเดินทางเข้าสู่เมืองฟลอเรนส์ (Florence) เพื่อร่ำเรียนการออกแบบและตัดเย็บรองเท้าหนังอย่างจริงจัง และนำความรู้เหล่านั้นมาผสมผสานเข้ากับสไตล์ส่วนตัวของ Stefano Bemer เอง เพื่อให้ได้รองเท้าหนังที่มีเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเอง บนคุณภาพของงานตัดเย็บที่เข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นอกจากการตัดเย็บรองเท้าหนังแล้วนั้น Stefano Bemer ยังได้เปิด “โรงเรียนสอนทำรองเท้า” โดยมีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงมาร่ำเรียนกับเขามากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ “แดเนียล เดย์ ลิวอิส” (Daniel Day-Lewis) นักแสดงชื่อดังชาวอเมริกันเจ้าของรางวัลออสการ์ 3 สมัย ที่เรียนการทำรองเท้าอยู่กับ Stefano Bemer นานถึง 8 เดือนเลยทีเดียว ลูกศิษย์ลูกหาของ Bemer จำนวนไม่น้อยได้แยกย้ายไปเปิดแบรนด์ทำรองเท้าแบบ Bespoke ของตัวเองจนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบและหลงใหลในรองเท้าสไตล์อิตาเลี่ยนของ Stefano Bemer มากเป็นพิเศษ
Stefano Bemer เสียชีวิตลงในปีค.ศ. 2012 ด้วยอายุเพียง 48 ปี จากอาการเจ็บป่วยที่เรื้อรังมาเป็นเวลานาน แต่มรดกอันล้ำค่าที่เขาได้ฝากให้กับโลกใบนี้นั่นก็คือการสร้างสรรค์รองเท้าหนังอันประณีตบรรจง อันถือเป็นหนึ่งในเพชรเม็ดเอกแห่งเมืองฟลอเรนส์ ที่ผู้ชายทุกคนควรรู้จักและได้ลองสัมผัสเมื่อมีโอกาสที่ดี
The Perfect ‘Stefano Bemer Shoes’
ด้วยบุคลิกและนิสัยส่วนตัวของ Stefano Bemer ที่มีอารมณ์ศิลปินในตัวเอง แต่ขณะเดียวกันก็แสวงหา “ความสมบูรณ์แบบ” (Perfection) นั่นจึงทำให้รองเท้าที่ตัดเย็บออกมาจากสำนักของ Stefano Bemer ทุกคู่ต้องมีคุณภาพที่ใกล้เคียงกับคำว่า “สมบูรณ์แบบ” มากที่สุดเท่าที่ฝีมือมนุษย์จะทำได้ ไม่ว่ารองเท้าคู่นั้นจะเป็นแบบ Ready To Wear (RTW), Made To Order (MTO) หรือว่าจะเป็น Bespoke Shoes ก็ตามที
รองเท้าแบบ Ready To Wear ของ Stefano Bemer จะมีราคาเริ่มต้นที่คู่ละประมาณ 1,150 ยูโร หรือประมาณ 40,000 บาท ส่วนรองเท้าแบบ Made to Order ที่เราสามารถเลือกหนัง, เลือกวัสดุ, สีของรองเท้า และดีไซน์ของรองเท้าได้อย่างอิสระ จะมีราคาอยู่ที่ประมาณคู่ละ 1,700 ยูโร หรือประมาณ 60,000 บาท และสุดท้ายคือรองเท้าแบบ Bespoke ที่เราสามารถเลือกรายละเอียดได้ทุกอย่างและทาง Stefano จะสร้างหุ่นรองเท้าที่มีขนาดและรูปร่างแบบเดียวกันกับเท้าของเราแบบ 1 ต่อ 1 เพื่อให้เราได้รองเท้าในขนาดที่พอดีเป๊ะกับเรามากที่สุด ราคาของ Bespoke Shoes จาก Stefano Bemer จะเริ่มต้นที่ประมาณ 2,650 ยูโร หรือประมาณ 95,000 บาทต่อ 1 คู่
รูปทรงของรองเท้าหนังจาก Stefano Bemer จะมี Last ของรองเท้าเป็นตัวกำหนด โดย Last ที่เป็นรูปทรงดั้งเดิม และ “สง่างาม” ที่สุด คือ C Last อีกทั้งยังเป็น Last พื้นฐานของรองเท้า Bespoke ส่วนใหญ่ของ Stefano Bemer อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ C Last จึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งสำหรับ Stefano Bemer คู่แรกของเรา นอกจากนี้ในส่วนอื่นๆของรองเท้า จะมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ชัดเจนตามสไตล์ ‘Italian Shoe’ พร้อมกับช่วงเอวของรองเท้า (Shoe Waist) ที่คอดกิ่วเพื่อเน้นให้เท้าของเราดูเพรียวและสวยงามยิ่งขึ้น ซึ่งเทคนิคดังกล่าวจะมีในแบรนด์รองเท้าที่ใส่ใจในรายละเอียดและความสง่างามเมื่อผู้ชายสวมใส่จริงๆ เท่านั้น
รองเท้าที่ตัดเย็บเสร็จเรียบร้อยแล้วจะได้รับการขัดทำความสะอาดเป็นอย่างดีในขั้นสุดท้าย จากนั้นจัดใส่กล่องรองเท้าทำจากไม้ที่มีลักษณะคล้ายลังไม้สำหรับใส่ขวดไวน์ อีกทั้ง Stefano Bemer ยังเพิ่มที่ดันทรงรองเท้า หรือ Shoe Tree ซึ่งมีรูปร่างและขนาดที่ตรงกับ Last และ Size ของรองเท้า เพื่อใช้ในดันให้ตัวรองเท้าอยู่ทรงได้รูป ยืดอายุการใช้งานของรองเท้าให้ใช้งานได้ยาวนานหลายสิบปีได้เลยทีเดียว
George Frazier ผู้เป็นคอลัมนิสต์คนสำคัญของนิตยสาร Esquire ได้เคยกล่าวไว้ว่า “Wanna know if a guy’s well-dressed? Look down.” (ถ้าอยากจะรู้ว่าผู้ชายคนนี้แต่งตัวดีหรือไม่ ให้ก้มลงไปมองที่รองเท้าที่เขาใส่ดูก็จะรู้เอง) ด้วยเหตุนี้รองเท้าหนังสำหรับผู้ชายจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเสริมสร้างบุคลิกภาพและการแต่งกายที่ดีของผู้ชาย และรองเท้าจาก ‘Stefano Bemer’ คือรองเท้าระดับตำนาน ที่คู่ควรกับผู้ชายที่แสวงหารองเท้าที่ใกล้เคียง “ความสมบูรณ์แบบ” ตามเจตนารมณ์ที่ Stefano Bemer ได้ตั้งความตั้งใจไว้ ซึ่งหากในอนาคต MenDetails ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของและสวมใส่รองเท้าหนังระดับโลกคู่นี้ เราจะนำมาถ่ายทอดให้ทุกคนได้อ่านกันแน่นอน โปรดคอยติดตามกันด้วยนะครับ