จากลวดลายอันแสนสวยงามจาก Lot 3 อย่าง “ลายบ่อบัว” ที่ดัดแปลงในบริบทของลายไทยในแบบฉบับของ Indigoskin เอง บวกเข้ากับดอกท้อที่เป็นต้นกำเนิดของตำนานนิทาน Momotaro เรียกได้ว่าเป็นลายที่อยู่ในความทรงจำของนักเลงกางเกงยีนส์ไทยมากที่สุดลายหนึ่งเลยก็ว่าได้ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ของการร่วมงานกันระหว่าง Momotaro Jeans กับ Indigoskin ครั้งนี้ยังคงมีอะไรพิเศษๆ พ่วงเข้ามาเช่นเคย ตามมาดู Details กันครับ
-Shrink To Fit คือต้องแช่ก่อนใส่นะครับ-
ตัวผ้านั้นเลือกผลิตแบบ Exclusive (ตามสไตล์เจ้าพ่อโครงสร้างผ้าอย่างพี่ก้อ) และเลือกน้ำหนักที่ 16oz ซึ่งเป็นน้ำหนักที่กึ่งๆ ระหว่างหนักกับปานกลาง โดยใช้ Zimbabze Cotton แต่ปั่นให้เกิด Texture ที่หยาบเสียก่อน ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษที่ทั้ง 2 แบรนด์ร่วมมือกันออกแบบและผลิตออกมาครับ ทำให้ได้ Texture ที่หยาบกว่าปกติ แน่นอนมันมีผลต่อรอย Fade ที่เดาได้ไม่ยากครับว่า “ตัวนี้น่าจะ Fade แรงแน่ๆ”
แรกจับนั้น ตัวผ้าให้ความรู้สึกที่ดีมากจริงๆ แข็งแต่ยังมีความนุ่มลึกๆ ตามสไตล์ของ Zimbabwe Cotton ที่เราคุ้นเคย (หลังแช่น่าจะใส่ง่ายระดับหนึ่งเลยครับ) แค่ซื้อโครงสร้างผ้าอย่างเดียวจากทั้ง 2 แบรนด์นี้ก็คุ้มละครับ ยังไม่นับรวมที่กางเกงตัวนี้ผลิตในญี่ปุ่น 100% อีก
ริมของผ้าตัวนี้ (Selvedge) จะเป็นริมที่ผลิตขึ้นเฉพาะคือหยิบเอาเอกลักษณ์ของทั้ง 2 แบรนด์มารวมกัน จนได้เป็นริมขอบชมพู 2 เส้นตามสไตล์ Momotaro Jeans แต่เดินด้ายริม ทอง นาก เงิน อยู่ตรงกลางตามสไตล์ของแบรนด์ Indigoskin และบวกกับด้าย Inseam สีชมพูตามแบบฉบับของ Momotaro Jeans
ผ้ากระเป๋าด้านหน้า ทางแบรนด์เลือกใช้เป็นผ้าย้อม Deep Indigo อย่างใน Lot ที่แล้วก็เลือกเป็นผ้า Sashiko (เทคนิคพิเศษของชาวญี่ปุ่น) แต่ครั้งนี้เปลี่ยนใหม่ครับ ทางแบรนด์เลือกที่จะใส่เรื่องราวเข้าไปในกระเป๋าด้านหน้า (น่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากลายผ้าไทย Jim’s Dream ที่เคยนำมาผลิตครั้งหนึ่ง) แถมเป็นเรื่องราวที่ต่อยอดเองแบบแปลกตานั่นก็คือ “การผจญภัยของ Momotaro ที่ข้ามมาปราบยักษ์ตนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์” Detail นี้เอาใจไปเลยครับ เพราะมันคือการก้าวข้ามของนิทานจาก 2 ประเทศ เช่นเดียวกับงาน Collaboration ครั้งนี้เลย เด็ดจริงอะไรจริง
-ลายยักษ์ร้ายจากป่าหิมพานต์กำลังขี่ม้านิลมังกร ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นโมโมทาโร่ กับพรรคพวก (สุนัข นก และ ลิง) ที่เดินทางมาช่วยปราบยักษ์ตนนี้-
-ลายดอกไม้สวรรค์ ถือเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก-
ผ้าส่วน York ด้านใน ทางแบรนด์หยิบเอาผ้าซาตินที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ณ ตอนนี้ในหมู่เสื้อ Bomber Jacket มาย้อมสี Natural Indigo จากโรงย้อม Rampuya และพิมพ์ลายสุดพิเศษที่แบรนด์ Indigoskin เลือกผลิตให้เฉพาะ Collection นี้ ต่อมาคือด้านนอกกันบ้างกับลาย Going To Battle หรือแส้นแถบขาว 2 ขีดนั้น ถูกย้ายจากฝั่งขวาอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Momotaro Jeans มาอยู่ฝั่งซ้าย และยังคงเลือกใช้การเย็บผ้าเป็นแถบแทนการสกรีนพร้อมปักลาย “ดอกไม้สวรรค์” ลงไปบนตัวผ้าดังกล่าว ด้วยสีทองและสีคราม (ซึ่งเจ้าดอกไม้สวรรค์คือดอกไม้ในป่าหิมพานต์ตามท้องเรื่องข้างต้นครับ)
กระดุมเป็นการเรียงสลับระหว่างกระดุมของ Indigoskin และ Momotaro Jeans เลือกหยิบเอากระดุมหลากรูปแบบมาเรียงต่อกัน พร้อมปักโลโก้ลายกนกไว้ที่กระเป๋าข้างขวา (ครั้งที่แล้วเลือกปักที่ Coin Pocket) พ่วงด้วย Tab ลูกท้อสีทองสุดพิเศษที่เคยผลิตสำหรับรุ่นครบรอบ 10 ปี Momotaro Jeans เท่านั้น ก็ถูกหยิบมาในบนตัวนี้ ณ ตำแหน่งเดียวกับ Tab Indigoskin อยู่ในไลน์กางเกงยีนส์ปกติ (เปลี่ยนพื้นเป็นพื้นสีทองแทนที่สีครามในรุ่นครบรอบ 10 ปี เพิ่มความพิเศษเข้าไปอีก)
ป้ายหนังกวางย้อมด้วยสีครามธรรมชาติโดย Rampuya จากนั้นทำการแสตมป์ด้วยสีทอง เพื่อให้เป็นธีมของ “ดอกไม้สวรรค์” เช่นเดียวกับลาย Going To Battle บนกระเป๋าหลัง ถือเป็นงาน Collaboration ที่จัดหนักจัดเต็มในทุกจุดของตัวกางเกงเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่ง Details ทั้งหมดที่กล่าวมาก็อยู่ในตัว Jacket ของ Collection นี้ด้วยเช่นเดียวกัน
ครั้งนี้ไม่ได้มีแค่กางเกงยีนส์ขายาวและ Jacket เหมือน Lot ที่แล้วนะครับ ยังมีกางเกงขาสั้นเพิ่มมาด้วย สำหรับกางเกงยีนส์ขายาว Momotaro x Indigoskin Lot 4 ราคาอยู่ที่ 13,900.- ทรง 0701 (Slim Taper) ของทางแบรนด์ Momotaro Jeans และ Denim Jacket อยู่ที่ 13,900.- และจะวางขายวันอาทิตย์ที่ 18 นี้ คาดการณ์ว่ามีคิวแน่นอน ถือเป็นกางเกงยีนส์สุด Hype และ Hype สุดของแบรนด์ไทยแล้วหล่ะครับ ณ เวลานี้ ใครอยากได้ บอกเลยว่า “วิ่งเท่านั้น” ที่ครองโลก