โดย : Krungsri.com
ไชโย!!ทำงานเก็บเงินมานานแล้วก็ถึงวันนี้ วันที่ได้เงินเก็บครบ 100,000 บาท แล้วนี่เป็นเงินแสนก้อนแรกของชีวิตเลย เอ้! ว่าแต่ว่าเก็บเงินได้ขนาดนี้แล้ว เราจะเอาไปทำอะไรดีนะ ใช้ให้หมดไปให้สมกับที่เหนื่อยเลยก็คงจะไม่ดี เงินที่มีคงหายไปแบบไม่ทันตั้งตัวเลย ไอ้เราเป็นพวกมือเติบซะด้วยซิ ครั้นจะเก็บเอาไว้เฉยๆ อยู่กับตัว ก็ไม่น่าจะดี เงินไม่งอกเงย แถมยังมีสิทธิโดนเอาไปใช้แบบง่าย ๆ อีกด้วยซิ ว่าไปแล้วเราต้องเอาไปลงทุนซักอย่างแล้ว ปัญหาคือจะเอาไปลงทุนอย่างไรดี อันนี้เป็นปัญหาหลักเลย
แหม…. น่าอิจฉาสำหรับหลาย ๆ คนที่กำลังพยายามอยู่นะครับ ผู้เขียนก็ขอเอาใจช่วย ทุกท่านที่ต้องการเก็บเงินและต้องการหาวิธีทำเงินเก็บให้มันงอกเงย วันนี้จะเอาเกร็ดความรู้เกี่ยว กับการลงทุนด้วยเงินแสน โดยจะเรียงลำดับจาก ความเสี่ยงต่ำได้ผลตอบแทนต่ำ ไปถึง ความเสี่ยงสูงได้ผลตอบแทนสูง
การฝากเงินกับธนาคาร: การลงทุนแบบนี้เป็นการลงทุนแบบ ความเสี่ยงต่ำ แต่ผลตอบแทนก็ต่ำตามไปด้วย ซึ่งดอกเบี้ยที่ได้รับนั้นจะเป็นไปตามเงื่อนไขของที่ทางธนาคารกำหนด และการฝากเงินก็มีหลายประเภท เงินฝากประจำ เงินฝากระยะยาว เงินฝากออมทรัพย์ ซึ่งในแต่ละประเภทก็ให้ผลตอบแทนที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนจะเลือกฝากแบบไหน
การลงทุนกองทุน: ผู้การลงทุนแบบนี้เหมือนกับเราเอาเงินของเราไปฝากให้ ที่มีประสบการณ์ในการลงทุน เป็นตัวแทนของเราในการลงทุนในที่ต่าง ๆ ดังนั้นความเสี่ยงก็ไม่มากจนเกินไป แถมยังได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจทีเดียว
การลงทุนแบบผสม: การลงทุนแบบผสมคือการฝากเงินส่วนหนึ่ง, ลงทุนในกองทุนส่วนหนึ่ง, ลงทุนในตลาดหุ้นส่วนหนึ่ง การลงทุนแบบนี้เป็นการลงทุนแบบ กระจายความเสี่ยง เนื่องจากการลงทุนแบบนี้ ท่านอาจจะขาดทุนจากการลงทุนหุ้น แต่ยังมีกำไรจากการลงทุนในกองทุน และยังได้ดอกเบี้ยจากทางธนาคาร แต่ต้องชั่งน้ำหนักว่าจะลงทุนแบบไหนมากกว่ากัน
การลงทุนในตลาดหุ้นแบบระยะยาว: การลงทุนแบบนี้คือให้เจ้าของเงินซื้อหุ้นตัวที่ให้ผลตอบแทนสูง หรือเรียกว่า หุ้น Blue-Chip โดยที่ไม่ต้องขายทำกำไรระยะสั้น แต่ให้ไปหวังผลจากเงินปันผล หรือ ขายเมื่อตัวราคาหุ้นขึ้นสูงไปมาก ๆ แล้วแทน ซึ่งการลงทุนแบบนี้จะต้องเป็นเงินเย็น คือเงินที่คิดว่าจะไม่นำไปใช้ที่ไหนอีกแล้วเพราะการขายหุ้นและถอนเงินออกมา อาจจะทำให้ขาดทุนในขณะนั้นก็เป็นได้
การลงทุนในตลาดหุ้นแบบระยะสั้น: เป็นการซื้อขายหุ้นแบบ ไม่เกิน 1 อาทิตย์ หรือบางตัวซื้อขายภายในวันเดียวกัน ซึ่งการลงทุนแบบนี้มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากต้องรู้ความเป็นมาเป็นไปของหุ้นรายตัวที่ซื้อ พร้อมทั้งมีการคาดคะเนตลาด การซื้อขายที่รวดเร็ว แต่ผลตอบแทนของการลงทุนแบบนี้จะได้มาเยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถ ซื้อขายหุ้น ภายใน 1 วันโดยทำกำไรได้ 300 บาทต่อตัว แต่ถ้าเราซื้อขายได้ 20 ครั้ง โดยกำไรเฉลี่ยได้ถึงตัวละ 200 ก็ลองคิดดูกันนะครับว่า ตลอดอาทิตย์ได้กำไรเท่าไหร่
ทั้งนี้ทั้งนั้นการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ที่จะลงทุนควรศึกษาข้อดีข้อเสีย หรือระดับความเสี่ยงของแต่ละการลงทุนให้เข้าใจเสียก่อน ก่อนที่จะเริ่มลงทุนนะครับ และต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าเงินที่ท่านจะนำมา ลงทุนนั้นเป็นเงินสำหรับลงทุนจริงๆ ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะมีความกังวลว่า เงินก้อนนี้จะต้องนำไปใช้อะไรบางอย่าง ก็จะทำให้การลงทุนชะงักไปได้
ที่มา: www.krungsri.com