การวิ่งถือเป็นกิจกรรมของคนเมืองที่ทุกคนเริ่มหันมาให้ความสนใจกันมากทีเดียว แน่นอน หลายคนอยากวิ่ง เลยเดินไปซื้อรองเท้าใหม่ๆ เสื้อเท่ๆ มาเตรียมตัว แต่หารู้ไม่ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการออกกำลังกายด้วยการวิ่งนั้นก็คือ “การดู Heart Rate Zone เวลาวิ่ง” ซึ่งนั่นหมายถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ถูกต้องจะช่วยทำให้คุณชนะเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ได้นั่นเอง ทีนี้เรามาดูกันครับว่า จังหวะการเต้นของหัวใจในแต่ละ Zone มีไว้เพื่ออะไรบ้าง
- Zone 1 : 139-152 ถือเป็นจังหวะการเต้นเริ่มต้น ซึ่งเหมาะสำหรับการวิ่งเบาๆ เพื่อพักฟื้นร่างกายหลังจากที่ออกกำลังกายมาอย่างหนักหน่วง การวิ่งใน Zone นี้มีประโยชน์อย่างมากเพราะทำให้ร่างกายจดจำการเผาผลาญพลังงานอย่างถูกต้อง ทำให้การบีบรัดกล้ามเนื้อสัมพันธ์กับการสูบฉีดเลือดจากหัวใจ
- Zone 2 : 152-166 ถือเป็นช่วงที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการ “ลดน้ำหนัก” กล่าวคือมันเป็น Zone ที่ช่วยการเผาผลาญพลังงานได้มากที่สุด (Cardiovascular Fitness ที่ดีที่สุด) เพราะร่างกายจะส่งผ่าน Oxygen ไปยังกล้ามเนื้อได้ดีที่สุด จึงเกินการเผาผลาญพลังงานได้มาก ซึ่งนั่นหมายถึงการเผาไขมันด้วยหากออกกำลังอย่างถูกวิธี
- Zone 3 : 166-179 คือจุดที่ร่างกายไม่สามารถแลกเปลี่ยน Oxygen เพื่อการเผาผลาญพลังงานได้ทัน ทำให้ร่างกายต้องดึงพลังอย่างอื่นในร่างกายมาใช้ ถือเป็น Zone ที่เหมาะกับนักกีฬาที่ต้องการสร้างความแข็งแกร่งในการวิ่งให้ได้นานที่สุด เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
- Zone 4 : 179-192 ถือเป็นจุดอันตรายที่ไม่ค่อยมีใครแนะนำให้วิ่งขนถึงระดับนี้ ซึ่งคนที่จะวิ่งและฝึกในระดับนี้ต้องมีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด โดยปกติแล้วการวิ่งในระดับนี้จะเกิดขึ้นในระยะสั้นๆ เพราะร่างกายจะผลักให้กล้ามเนื้อบิดตัวอย่างรวดเร็วส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานหนักเกินพอดี
นี่คือ Zone หลักๆ ของการดู Heart Rate Zone เวลาวิ่งครับ หากแต่คนแต่ละคนมีจุดเผาผลาญที่จังหวะการเต้นของหัวใจที่ไม่เท่านั้น ดังนั้นหากอยากทราบรายละเอียดเชิงลึกของแต่ละบุคคล MDs’ แนะนำให้ไปเข้า Lab เพื่อตรวจเช็คระดับการเผาผลาญเลยครับ ซึ่งข้อดีก็คือ คุณจะทราบว่า คุณควรออกกำลังกายที่จังหวะการเต้นของหัวใจประมาณเท่าไร ที่ไม่หนักไป ไม่เบาเกินไป และช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดีที่สุดนั่นเอง
สุดท้ายและท้ายสุดก็คือ คุณควรมีอุปกรณ์ตรวจจับจังหวะการเต้นของหัวใจขณะวิ่งด้วยทุกครั้ง เพื่อเก็บเป็นข้อมูล ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวมีวางขายเยอะขึ้นมากในปัจจุบันและสามารถตรวจจับได้แม่นยำมากขึ้นกว่าแต่ก่อนอีกด้วย MDs’ แนะนำ Fitbit Charge 2 ครับ เพราะนอกจากจะจับจังหวะการเต้นของหัวใจได้แม่นยำแล้ว ยังมี Application ที่บอกรายละเอียดต่างๆ มากกว่าตัวอื่นๆ ในท้องตลาด
ลองหยิบเอาการวิ่งตามจังหวะการเต้นของหัวใจไปใช้วิ่งดูนะครับ รับรองว่ามันจะช่วยพัฒนาศักยภาพของคุณให้ดีมากยิ่งขึ้นแน่นอน