หากจะถามหาความหมายของคำว่า “Style” หรือที่เราเรียกทับศัพท์ว่า “สไตล์” แต่ละคนคงให้คำจำกัดความไม่เหมือนกัน
ผู้ชายแต่ละคนก็คงจะมีสไตล์เฉพาะตัวของตัวเองที่ไม่เหมือนกัน เช่น บางคนแต่งกายเรียบร้อยและเนี้ยบอยู่เสมอ ที่บ้านจะมีเสื้อเชิ้ตและสูทติดตู้หลายสีหลายตัว เพื่อเลือกใส่ตามแต่สถานการณ์ ส่วนอีกคนอาจจะอยู่ในขั้วตรงข้าม คือไม่ใส่ใจสูทเลย นิยมเสื้อยืดกางเกงยีนส์แบบสบายๆโดยไม่เน้นพิธีรีตอง หรือตัดรายละเอียดเยอะๆออกให้เหลือน้อยที่สุด เป็นต้น
แบรนด์เครื่องแต่งกายแต่ละแบรนด์ก็จะมีจุดยืนของสไตล์ของตัวเองที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่ว่าพวกเขาต้องการลูกค้าในกลุ่มไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เราสังเกตได้ก็คือแต่ละแบรนด์เริ่มขยับตัวที่จะก้าวออกจากสินค้าที่เป็นจุดขายของตัวเองไปสู่การเป็น Lifestyle Brand นั่นคือการจำหน่ายสินค้าตัวอื่นที่สอดคล้องกับสไตล์ของแบรนด์ที่มีมาแต่ดั้งเดิม
แบรนด์รองเท้าอย่าง TOMS เองก็เช่นกัน จากเดิมที่ TOMS จำหน่ายรองเท้าแบบ espadrille และใช้คอนเส็ปต์น้ำใจงามอย่าง “One for One” หรือซื้อ 1 คู่เราแจกให้ผู้ยากไร้อีก 1 คู่ จนได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากเหล่าคนดังและลูกค้าทั่วโลก มาในปัจจุบัน TOMS ก็เริ่มเคลื่อนตัวไปสู่สินค้าประเภทอื่นๆแต่ยังคงคอนเส็ปต์น้ำใจงามของตัวเองเช่นเดิม อย่างแว่นตากันแดด ที่ TOMS ประกาศว่าหากขายแว่นตาได้ 1 ชิ้น ก็จะรักษาตาให้ผู้ยากไร้ฟรี 1 คนเช่นกัน เป็นต้น
ความเป็นกึ่งกิจการเพื่อสังคมแบบนี้ของ TOMS ทำให้ตัวแบรนด์ก้าวสู่ความเป็นอีกหนึ่ง “Style” ของผู้ที่เป็นลูกค้า ด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นคนง่ายๆ สบายๆของผู้ก่อตั้งอย่าง Blake Mycoskie และความใจบุญของแบรนด์ ทำให้กินใจผู้ที่มีหัวขบถต่อต้านความมีพิธีรีตองในการแต่งกาย และแซวผู้ชายที่แต่งตัวเนี้ยบและใส่ใจการแต่งกายแบบ formal ว่าทำตัวเป็นผู้ดีเกินกว่าเหตุ และอยากทำตัวเป็นคนที่ดูมีฐานะจนไม่รู้จักแบ่งปันให้ผู้อื่น เป็นต้น
สินค้าที่เพิ่มขึ้นมาของ TOMS ก็มีอาทิเช่น แว่นกันแดด, หมวก, กระเป๋า รวมไปถึง “กาแฟ TOMS Coffee” ซึ่ง TOMS ประกาศว่า กาแฟคั่วบดทุกถุงที่จำหน่ายได้ TOMS จะเปลี่ยนเป็นน้ำสะอาดที่สามารถให้ผู้ยากไร้ได้ใช้เป็นเวลา 1 สัปดาห์เลยทีเดียว
นอกจากการจำหน่ายกาแฟคั่วบดเป็นถุงๆแล้ว TOMS ก็เริ่มเปิดร้านกาแฟของตัวเองเพื่อเป็น Community ของคนที่มีแนวความคิดแบบเดียวกันคือผู้ที่มีสไตล์การแต่งแบบสบายๆ และมีความคิดที่ต้องการแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองมีมากกว่าให้กับผู้ที่ยังขาดแคลน สร้างความรู้สึกภูมิใจที่ได้ซื้อและได้ใช้สินค้าที่แบรนด์เป็นผู้ผลิตอีกด้วย
อย่างไรก็ตามจะมัวแต่แนวอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะสิ่งที่สำคัญก็คือสินค้าทั้งหลายต้องมีคุณภาพ รองเท้าที่ TOMS ผลิตออกมาก็ต้องสวย ใส่แล้วดูดี ไม่เช่นนั้นต่อให้คอนเส็ปต์จะงดงามเพียงใด แต่ถ้าสินค้าขายไม่ได้ ย่อมไม่มีประโยชน์เช่นกัน ซึ่งในเรื่องนี้คงไม่ต้องเป็นห่วงเพราะรองเท้าแบบ espadrille อย่าง TOMS ก็ถือเป็นรองเท้าที่ผู้ชายทุกคนควรจะมีไว้อย่างน้อยคนละ 1 คู่ เพื่อใส่ในวันหยุดสบายๆ หรือวันที่ออกเดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัด
ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่ไม่ชอบพิธีรีตอง เน้นการแต่งกายที่ดูดีแบบสบายๆ และเป็นคนที่มีจิตใจดี อยากแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองมีมากกว่าให้ผู้ที่ขาดแคลนแล้วล่ะก็ MenDetails เชื่อว่า TOMS คืออีกแบรนด์หนึ่งที่จะเข้ากับ Style ของคุณได้เป็นอย่างดีครับ